CSR

ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี @นนทบุรี ขยายพื้นที่แห่ง “โอกาส” ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ทักษะชีวิต สร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านการ “ให้คืน” สู่สังคมอย่างยั่งยืน”

26-27 มีนาคม 2565…ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เดินหน้าสานต่อโครงการไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี (fai-fah by ttb) กิจกรรมสังคมที่มีความโดดเด่นตลอด 13 ปีที่ผ่านมา โดยมอบโอกาสและปลูกฝังเยาวชนในชุมชนอายุระหว่าง 12 – 17 ปี ให้ได้ค้นพบศักยภาพในตัวเองพร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตนเอง รวมทั้งสังคม และผู้คนรอบข้างให้มีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

คุณกาญจนา โรจวทัญญู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาดและประสบการณ์ลูกค้า ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) กล่าวถึง ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า นนทบุรี แห่งใหม่นี้ เป็นศูนย์เรียนรู้แห่งที่ 5 ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นพื้นที่มุ่งจุดประกายเยาวชนตามแนวคิด “เด็กธรรมดาคือสิ่งที่สวยงาม” ที่ต้องการสร้างโอกาสให้เด็กธรรมดาได้มีพื้นที่ยืนในสังคมได้อย่างสวยงาม เท่าเทียมกับเด็กคนอื่น มีกิจกรรมที่ให้เยาวชนได้ค้นพบศักยภาพในตัวเอง เกิดแรงบันดาลใจ มีความสุขกับชีวิต ได้รับการยอมรับและสามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคต อีกทั้งสร้างสิ่งดี ๆ ต่อยอดสู่การเปลี่ยนแปลงผ่านการ “ให้คืน” สู่ “สังคมอย่างยั่งยืน”

“ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า นนทบุรี แห่งนี้ เปิดโอกาสสำหรับเด็กธรรมดาวัย 12-17 ปีที่ครอบครัวมีรายได้น้อยถึงปานกลาง มีความฝันอยากเป็นอะไรหลายอย่างในสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่บางครั้งสิ่งที่ตัวเองอยากเป็นเด็ก ๆ อาจยังไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ แต่เมื่อเข้ามาที่ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า แห่งนี้ เด็ก ๆ จะเห็นโอกาสมากมายที่เป็นไปได้ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทักษะทางศิลปะและทักษะชีวิตจากวิชาที่หลากหลาย ได้แก่ คลาสคอมพิวเตอร์กราฟิก คลาสศิลปะ คลาสดนตรี คลาสกีต้าร์ คลาสเรียนเต้น คลาสวงดนตรี คลาสเทควันโด และ คลาสมวยไทย ส่วนที่ศูนย์ฯ นนทบุรีเรามีวิชาที่เป็นไฮไลท์คลาส คือ สื่อสร้างสรรค์ออนไลน์ ซึ่งมีออนไลน์สตูดิโอ เป็นศูนย์กลางผลิตสื่อ และผลงานออนไลน์ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยครบครัน เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ฝึกสร้างสรรค์และพัฒนางานออนไลน์ได้ตามจินตนาการ เพื่อต่อยอดอาชีพที่กำลังมาแรงอย่าง Youtuber”

คุณกาญจนา โรจวทัญญู ยกตัวอย่างคลาสคลาสเรียนเทควันโด คลาสเรียนร้องเพลง และไฮไลท์คลาสที่ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า นนทบุรี คือ คลาสสื่อสร้างสรรค์ออนไลน์

เมื่อเด็ก ๆ เข้ามาแล้วจะเลือกเรียนได้ 2 คลาส แต่ละคลาสสามารถเรียนต่อเนื่องได้ 3 ปีโดยมีครูจิตอาสาผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่สอน เด็ก ๆ ที่เรียนจบไปแล้วสามารถกลับมาเป็นพี่เลี้ยงสอนรุ่นน้องได้ ปัจจุบันเด็กไฟ-ฟ้าที่เคยเรียนคลาสครัว ขนมและเบเกอรี่ก็กลับมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้น้อง ๆ ที่เลือกรายวิชานี้ที่ศูนย์ฯ นนทบุรี แห่งนี้

นอกจากเด็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ศูนย์การเรียนรู้ไฟ-ฟ้า นนทบุรีที่สามารถเข้ามาสมัครเรียนได้แล้ว ที่นี่ก็ยังมีความพิเศษอีกอย่าง คือ เราต้องการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกัน ด้วยการขยายโอกาสให้เด็กผู้บกพร่องทางการได้ยินได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า นนทบุรี แห่งนี้อีกด้วย

 

ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการ คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต และคณะผู้บริหาร ทีทีบี พร้อมนายกเทศมนตรีบางบัวทอง นนทบุรี และ ผู้อำนวยการ รร.โสตศึกษา ร่วมเปิดศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี @นนทบุรี

ปัจจุบันมีศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าทั้งหมด 5 แห่ง โดย 3 แห่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า ประชาอุทิศ, ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า จันทน์ ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า บางกอกน้อย และอีก 2 แห่ง คือศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า สมุทรปราการ และล่าสุด ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า นนทบุรี ทุกแห่งมีการออกแบบพื้นที่ ในรูปแบบให้มีสีสันสนุกสนาน จุดประกายจินตนาการได้อย่างเต็มที่ สู่ความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลาย เพื่อให้การใช้งานเหมาะสมกับการเรียนรู้ของเด็ก ๆ

คุณกาญจนาขยายภาพถึงการเรียนปกติในศูนย์การเรียนรู้ไฟ-ฟ้า นั่นคือ ทุก ๆ ปีจะมีวางแผนการทำงานร่วมกับชุมชน โดยสำรวจความต้องการของชุมชนใกล้เคียงศูนย์การเรียนรู้ไฟ-ฟ้าแต่ละแห่ง ปรึกษา และเปลี่ยนมุมมองระหว่างผู้ใหญ่ของชุมชนกับเด็ก ๆ นำความรู้จากที่เรียนในศูนย์ฯ ไปช่วยชุมชน

“ยกตัวย่างศูนย์เรียนรู้อื่นๆ เด็ก ๆ ไปช่วยทำคุกกี้ ทำสมุดทำมือจากกล่องนม หรือการปรับปรุงพื้นที่ศูนย์เด็กเล็ก เปลี่ยนพื้นที่รกร้างใต้ทางด่วนเป็นลานกิจกรรมของคนในชุมชน การท่องเที่ยวย่านสาทรใต้ สิ่งเหล่านี้เป็นทักษะที่เด็กไม่ได้เรียนในห้องเรียน มีการทำงานเป็นทีม วางแผนแลกเปลี่ยน ออกไอเดีย ช่วยจำลองสิ่งที่เขาจะเจอในอนาคตเมื่อทำงานจริง ที่ผ่านมากิจกรรมเปลี่ยนชุมชนที่เด็ก ๆ ได้ริเริ่มไอเดียนี้ก็มีการนำผลงานไปยื่นเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยฯ ปัจจุบันกำลังเรียนปี 4 เพื่อเป็นสถาปนิกชุมชน”

ผู้บริหารเดินชมส่วนเรียนรู้ไฟ-ฟ้า นนทบุรี และดูผลงานของเด็ก ๆ จากคลาสครัว

คุณกาญจนากล่าวในท้ายที่สุดว่า ที่ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ให้โอกาสเด็ก ๆ ได้พัฒนาศักยภาพตัวเองให้กลายเป็นเด็กธรรมดาที่เป็นคนดีและมีความสุข มีโอกาสเป็นทั้งผู้รับ และผู้ให้ที่ดี ด้วยการนำทักษะทางศิลปะและทักษะชีวิตที่ได้เรียนรู้จากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า ไปพัฒนาตนเองต่อยอดสู่ครอบครัว และสังคมรอบข้างให้ดีขึ้น ตอกย้ำปรัชญา Make REAL Change เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนเพื่อสังคมดีขึ้นอย่างยั่งยืน

 

You Might Also Like