CIRCULAR ECONOMY

5 แนวโน้มการออกแบบ 2023 เมื่อแบรนด์หรูสร้างสมดุลความสวยงามกับความรับผิดชอบ

17 กุมภาพันธ์ 2566…ความสมดุลระหว่างความหรูหราและความยั่งยืนได้กำหนดบรรทัดฐานใหม่สำหรับบรรจุภัณฑ์หรูหรา ทำให้ทุกคนหยุดดู และคิดว่าเราจะทำสิ่งต่าง ๆให้แตกต่างออกไปได้อย่างไร

อุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยโดดเด่นด้วยราคาสูง ความต้องการที่เป็นส่วนเกิน และความพึงพอใจแบบผิดๆ แต่ในโลกหลังโควิด ความหรูหราได้เปลี่ยนไป ปัจจุบัน ความยั่งยืนเป็นหนึ่งในความใส่ใจหลักในหมู่นักช็อปอายุน้อยและร่ำรวยที่กำลังมองหาแบรนด์ที่สอดคล้องกับจริยธรรมและค่านิยมของพวกเขา ต่อไปนี้คือแนวโน้มที่จะกำหนดอุตสาหกรรมสินค้าหรูหราในปี 2023 :

1. สมดุลระหว่างความหรูหราและความยั่งยืน

หนึ่งในแนวโน้มน่าตื่นเต้นที่สุดที่เราเห็น คือ การให้ความหมายใหม่ของคำว่าความหรูหรา และการก้าวไปสู่บรรจุภัณฑ์หรูหราที่ยั่งยืนซึ่งส่งมอบความคาดหวัง และประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม

ตัวอย่างที่ดีคือ Sektkellerei OHLIG โรงบ่มไวน์ของครอบครัวชาวเยอรมัน ซึ่งร่วมมือกับ Ruska Martín Associates ครีเอทีฟเอเจนซี่ พัฒนาประสบการณ์เครื่องดื่มแบบใหม่ที่เรียกว่าRE:INCARNATED SPIRITS ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ใช้กระบวนการผลิต และการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบ Circular 100 %

ที่มา…คลิกภาพ

ด้วยการมุ่งเน้นที่การสาธิตแนวทางใหม่ในการผลิต การเลือกบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล 100 % จึงเป็นสิ่งจำเป็น การติดฉลากที่ขวดใช้Fasson® rCrush Grape FSC®ของAvery Dennison กระดาษกาวในตัวที่ไม่เคลือบผิว ทำจากเศษองุ่น 15 % เยื่อกระดาษรีไซเคิล 40 % และเส้นใยบริสุทธิ์ 45 % ขวดเหล่านี้ทำมาจากแก้วใช้แล้วซึ่งผ่านการรีไซเคิล 100% ซึ่งพัฒนาโดย Estal รวมถึงมีจุกก๊อกที่ทำจากก๊อกสปาร์คกลิ้งไวน์รีไซเคิลโดยเฉพาะ

ประการสุดท้าย ขวดบรรจุในกล่องกระดาษแข็งที่ไม่เคลือบผิวซึ่งเหมาะสำหรับการขนส่ง และบุด้วยกระดาษรีไซเคิลที่ทำจากธนบัตรยูโรที่ฉีกเป็นฝอยซึ่งอาจมีคุณภาพไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้งานหนัก ความสมดุลระหว่างความหรูหราและความยั่งยืนนี้กำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่หรูหรา ทำให้เราทุกคนต้องหยุดดู และคิดว่าเราจะทำสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างได้อย่างไร

2. เพิ่มความโปร่งใส

ในปี 2023 จะเห็นการเพิ่มขึ้นของการฟอกเขียว และยอมเสียค่าปรับ ซึ่งจะเพิ่มความคลางแคลงใจของผู้บริโภคว่าแบรนด์จำนวนมากแค่ไหนที่กำลังเคลมตัวเองว่ากำลังทำเรื่องนี้

เราจะเห็นแบรนด์ระดับพรีเมียมจำนวนมากขึ้น พยายามหาทางยืนยัน Position ของตนผ่านการรับรองและความโปร่งใส โซลูชันการระบุตัวตนแบบดิจิทัล เช่น ป้ายชื่อ Near-field Communication (NFC) ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสื่อสารข้อมูลรับรองด้านจริยธรรมของตน โดยนำเสนอประสบการณ์การโต้ตอบกับแบรนด์ผ่านสมาร์ทโฟนแก่ลูกค้า สิ่งนี้จะสร้างโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับแบรนด์ระดับไฮเอนด์ในการใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้นด้วยบรรจุภัณฑ์ที่น่าดึงดูด ซึ่งสร้างความไว้วางใจและเปิดโอกาสให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์

3. วัสดุที่ยั่งยืน

มีการถกเถียงกันมากว่าวัสดุชนิดใดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เราเห็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์จำนวนมากเลือกใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิลได้ บางคนกำลังทดลองกับวัสดุที่ย่อยสลายได้และวัสดุชีวภาพ ซึ่งไม่มีวัสดุใดที่ใช้ได้กับทุกเรื่อง

ที่มา…คลิกภาพ

สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน แนวทางที่ทำได้ คือ แบรนด์และผู้แปรรูปจำเป็นต้องเข้าถึงโซลูชันฉลากที่หลากหลาย Avery Dennison ลงทุนในวัสดุรีไซเคิลที่มีโครงสร้าง ความหนา และความซับซ้อนของรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทต่างๆ สามารถค้นหาโซลูชันฉลากที่ยั่งยืน ซึ่งเหมาะกับตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของตน

ตัวอย่างเช่น สินค้าในกลุ่ม Sustainable ADvantage มีตั้งแต่กระดาษที่ทำจากเส้นใยรีไซเคิล 100% ซึ่งใช้กับไวน์ สุรา คราฟต์เบียร์ อาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียม และเครื่องสำอาง

4. Design แบบเน้นคุณค่า

ขณะนี้แบรนด์ต่าง ๆ ถูกคาดหวังว่า จะมีบทบาทในการจัดการกับประเด็นทางสังคม ซึ่งเป็นตัวกำหนดสภาพสังคมในปัจจุบัน และเราได้เห็นแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มสานเรื่องราวและหลักการเหล่านั้นเข้ากับการสร้างแบรนด์ รวมถึงบรรจุภัณฑ์และฉลาก

Avery Dennison และ Supperstudio เอเจนซีด้านการออกแบบ ได้รับรางวัล Pentawards อันทรงเกียรติหลายรางวัล สำหรับโครงการที่ชื่อ “Build Your Brand“ โดยนำเสนอการออกแบบ 8 รายการที่ตอบสนองความท้าทายทางสังคมและการอนุรักษ์ที่เฉพาะเจาะจง

เช่น การออกแบบ“ เป็นดวงตาให้คุณ” พัฒนาอักษรเบรลล์ใช้กับแก้วกาแฟเย็น ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก Pentawards เมื่อปีที่แล้ว ฉลากพิมพ์บนกระดาษที่ทำจากเยื่อกระดาษรีไซเคิล 100 % มีลายนูน ซิลค์สกรีนเคลือบเงาเพื่อให้มีอักษรเบรลล์ ทำให้ผู้พิการทางสายตาหรือสายตาเลือนรางใช้ได้ เป็นสิ่งจำเป็นต่อชุมชนผู้พิการทางสายตา ซึ่งมักถูกแบรนด์ต่างๆมองข้าม

ที่มาภาพ…คลิก

Make a Mark แพลตฟอร์มการออกแบบประจำปี เป็นความร่วมมือของ ETAL และ KURZ มีเป้าหมายเพื่อเร่งนวัตกรรมและโซลูชั่นที่ยั่งยืนในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่หรูหรา แนวคิดการออกแบบจำนวนมากเกี่ยวข้องกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เช่น ภาวะโลกรวน การขาดแคลนน้ำ การอยู่ร่วมกัน และไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง

เช่น Butterfly Cannon สร้างแนวคิดการออกแบบในปี 2021 และได้รับรางวัล Pentaward ในปี 2022 การออกแบบเป็นไปตาม กระบวนการ Conscious Design™ ซึ่งเปลี่ยนสิ่งที่สิ้นเปลืองให้เป็นประโยชน์และสวยงาม

รูปธรรม คือ Papil เครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม ปราศจากแอลกอฮอล์และสร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานของอะแด็ปโตเจนจากธรรมชาติและนูโทรปิกส์เพื่อเพิ่มอารมณ์เชิงบวกในช่วงเริ่มต้นของค่ำคืน โดดเด่นด้วยการออกแบบที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ที่ทำจากแก้วรีไซเคิล 100% และผลพลอยได้จากของเสีย

ที่มาภาพ…คลิก

ขณะที่ Labrenta Sughera ที่ผลิตขึ้นตามความต้องการ ขึ้นรูปจากผงไม้ก๊อกรีไซเคิล 100% ที่ได้จากขยะ ฉลากนี้ใช้วัตถุดิบ Avery Dennison Fasson® MarbleBase ซึ่งประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต 80% แข็งแรงและทนทาน ออกแบบมาให้สามารถล้าง และนำกลับมาใช้ใหม่โดยเฉพาะ

ทั้งนี้ โดยพื้นฐาน นักออกแบบเน้นให้ความสนใจการปรับปรุงรูปลักษณ์ และการทำงานของผลิตภัณฑ์ แต่ในปี 2023 จะเห็นนักออกแบบบางคนขยายแนวทางของพวกเขา นำเสนอความคิดที่มีความหมายมากขึ้น บอกสังคมผ่านการออกแบบผลิตภัณฑ์

5. Minimal ที่เน้นความสวยงาม

แนวโน้มการออกแบบทั่วโลกมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยปกติแล้ว เราจะเห็นพื้นที่ทางเหนือชอบ minimalist มากกว่า ขณะที่ประเทศทางใต้มักจะใช้การออกแบบที่เน้นสื่อความหมาย และมีสีสันมากกว่า อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มทั้งหมดที่กล่าวมา เราจะเริ่มเห็นแบรนด์ต่างๆ ใช้ประโยชน์จากการสร้างแบรนด์ที่ละเอียดอ่อนและการออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบมินิมอลมากขึ้น ผลกระทบของวัสดุที่มีต่อสิ่งแวดล้อมจะเป็นจุดศูนย์กลางที่แบรนด์หรูสร้าง ใช้หลักการ Circular รวมถึงการใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้น (และการสกัดวัสดุน้อยลง) รวมถึงออกแบบแบบไม่มีขยะ ถ้าทำได้ถูกต้อง บรรจุภัณฑ์แบบมินิมอลจะสามารถสร้างความสมดุลที่ดีระหว่างความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ความต้องการความประณีต และความสง่างามที่แบรนด์ระดับพรีเมียมต้องการ

มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอน แบรนด์หรูเป็นแบบอย่างในอุตสาหกรรมของพวกเขา เป็นผู้กำหนดแนวโน้มที่นักออกแบบติดตามทั่วโลก หากอุตสาหกรรมหรูหราให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเป็นอันดับแรก โดยสร้างสมดุลระหว่างความสวยงามกับความรับผิดชอบ หลาย ๆ สิ่งก็จะตามมา ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นทั้งสำหรับอุตสาหกรรม และอนาคตของเรา

ที่มา

 

You Might Also Like