NEXT GEN

แฟนเพจ : ได้ความรู้ใหม่ๆ การทำเหมือง Semi Open Cut ระบบนิเวศน์ไม่ถูกทำลาย คนในพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้

12 มีนาคม 2562…หนึ่งในกิจกรรมแฟนเพจเอสซีจี คือการคัดเลือกนิสิตนักศึกษา นั่งรถไฟไทยจากสถานีบางซื่อไปลงสถานีลำปาง เรียนรู้การซ่อม,สร้างฝายชะลอน้ำ พักโฮมสเตย์ของชุมชนในพื้นที่ใกล้ปูนลำปาง และเลือกซื้อพืชผักของแปรรูปชุมชนในพื้นที่เดียวกัน

ถ้าหากจะกล่าวถึงการทำ CSR Strategy ที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง คงต้องกล่าวถึงกรณีศึกษาของเอสซีจีที่ทำงานเรื่อง “น้ำ” มาโดยตลอดโดยเฉพาะการซ่อม,สร้างฝายชะลอน้ำ ส่งผลให้ระบบนิเวศน์ของพื้นที่รอบโรงงานยังยั่งยืนตามธรรมชาติ และจากเรื่องนี้เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วได้ต่อยอดมาสู่ “รักษ์น้ำ จากภูผาสู่มหานที” ในปัจจุบัน ส่งผลให้กิจกรรมเรื่อง “น้ำ” ในแต่ละพื้นที่ที่เอสซีจีไปทำงาน เป็น “ความฝัน” ของเยาวชนนิสิตนักศึกษาไม่น้อยที่อยากไปร่วมกิจกรรมนี้

เพราะได้ยินชื่อกิจกรรมเพื่อสังคมนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
เพราะอยากไปลงมือช่วยสิ่งแวดล้อม
เพราะได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ
เพราะได้เดินทางด้วยรถไฟตู้นอน
เพราะได้ไปพักโฮมสเตย์ของชุมชน

แฟนเพจนิสิตนักศึกษา เป็นจิตอาสารักษ์น้ำจากภูพาสู่มหานทีช่วยกันสร้างชะลอน้ำที่บ้านสาเเพะ อ.เเจ้ห่ม

“จากที่ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้การฟื้นฟูเหมืองปูนซิเมนต์ไทย ที่จังหวัดลำปาง สิ่งที่ได้คือความรู้ใหม่ๆ โดยเฉพาะวิธีการทำเหมืองแบบ Semi Open Cut ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการทำเหมืองประเภทนี้อยู่ ได้เห็นถึงแนวทางการนำหินแร่มาใช้ประโยชน์ โดยไม่ให้พื้นที่ป่าหรือระบบนิเวศบริเวณนั้นถูกทำลายไปจนหมด การทำเหมืองแบบนี้ยังทำให้มีป่าเป็นแนวป้องกัน (Buffer Zone) การรบกวนของกระบวนการทำเหมืองที่จะส่งผลต่อชาวบ้านหรือคนในพื้นที่ให้น้อยที่สุด โดยที่คนในพื้นที่ก็ยังใช้ประโยชน์จากป่าได้อยู่”

กนกพิชญ์ ไชยสิริรัตนกุล นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในแฟนเพจเอสซีจี ที่ได้ร่วมเดินทางไปซ่อม,สร้างฝายลำปาง เล่าต่อเนื่องว่า นอกจากได้รู้จักวิธีการทำเหมืองรูปแบบใหม่แล้ว ยังได้เห็นว่ามีการคัดเลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมบริเวณนั้น เพื่อนำไปปลูกหลังจากการทำเหมืองอีกด้วย น้ำจากการทำเหมืองก็ถูกกักเก็บไว้ไม่ปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ

“ทำให้เห็นถึงความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมของเอสซีจี ที่นอกจากจะคิดถึงสิ่งแวดล้อมตรงนั้น ยังคิดถึงคนในท้องถิ่น สร้างความยั่งยืนให้กับน้ำ ป่า และชุมชนบริเวณนั้น”

กินข้าวกัน มื้อเที่ยงข้าวห่อในป่า

บริษัทปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด ในธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 ด้วยแนวคิด “โรงงานอยู่ที่ไหน ป่าต้องเขียวที่นั่น” โดยได้นำแนวปฏิบัติด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเอสซีจี และแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้ในกระบวนการจัดการและดูแลสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐาน ISO 14001:2015 เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การเป็นเหมืองสีเขียว

การออกแบบการทำเหมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เอสซีจี ได้พัฒนานวัตกรรมการออกแบบการทำเหมืองรูปแบบใหม่ เรียกว่า “Semi Open Cut” ที่ผสมผสานเทคนิคการทำเหมืองแบบ Open Cut (การตัดยอด) และ Open Pit (การขุดตัก) โดยจะเว้นพื้นที่ขอบเพื่อให้เป็นพื้นที่สีเขียว หรือ Buffer zone ตลอดแนวขอบเหมือง เพื่อคงไว้ซึ่งทัศนียภาพของขอบแนวเขาตามธรรมชาติ ที่ยังคงสภาพป่าไม้ที่สมบูรณ์

ภาพมุมสูงปูนซิเมนต์ไทยลำปาง ทำเหมืองปูนระบบ Semi Open Cut

ขั้นตอนการทำเหมือง

เอสซีจี ได้นำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเข้ามาพิจารณาการทำเหมืองทุกขั้นตอน เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมต่อทั้ง ธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. การวางแผนการทำเหมือง (Mine Planning)โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านวิศวกรรมเหมืองแร่ เพื่อวางแผนการทำเหมืองทั้งในระยะยาวและระยะสั้นเพื่อให้สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
  2.  การระเบิด (Blasting)ศึกษาปรับปรุงรูปแบบและเทคนิคการทำเหมืองที่จะช่วยลดผลกระทบต่างๆ โดยเฉพาะ ด้านเสียงและแรงสั่นสะเทือน โดยพยายามปรับรูปแบบการระเบิดให้สอดคล้องกับลักษณะโครงสร้างทางธรณีวิทยาเพื่อให้การระเบิดมีประสิทธิภาพสูงสุดและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ทั้งนี้ได้มีการกำหนดเวลาทำการทำเหมือง และสื่อสารให้กับชุมชนโดยรอบได้รับทราบอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งส่งพนักงานเข้าไปสังเกตการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นบริเวณชุมชนรอบเหมืองทุกครั้ง
  3.  การบดย่อย (Crushing)ใช้เทคโนโลยีป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง โดยได้ออกแบบกระบวนการบดย่อยเป็นระบบปิดทั้งหมด ทั้งปากอ่าง เครื่องย่อย ระบบลำเลียง จุดเปลี่ยนผ่าน และกองสต๊อคอีกทั้งยังมีระบบสเปรย์น้ำและระบบกรองฝุ่น(Bag Filter) เพื่อดักจับฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจายสู่ภายนอก
  4.  การขนส่ง (Hauling) ได้มีออกแบบผิวถนนบนเหมืองให้เกิดฝุ่นน้อยที่สุด และติดตั้งระบบสเปรย์น้ำอัตโนมัติและรถบรรทุกน้ำเพื่อฉีดพรมเส้นทางขนส่ง และควบคุมความเร็วของรถทุกชนิดให้มีความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตร / ชั่วโมง

นอกจากนี้ การใช้น้ำในเหมืองใช้จากแหล่งกักเก็บน้ำฝนในโรงงาน จึงไม่มีการดึงน้ำจากแหล่งทรัพยากรน้ำจากภายนอกโรงงานมาใช้ในกระบวนการ เช่น การรดถนน สเปรย์น้ำ และรดน้ำในแปลงฟื้นฟูอีกทั้ง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทำเหมืองยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้อีก เช่น หินปูนที่ใช้สำหรับผลิตปูนเม็ด หินปูนสำหรับผสมในการบดซีเมนต์ และหินปูนสำหรับผลิตหินก่อสร้าง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ดินมาใช้ในการฟื้นฟูเหมือง และยังนำมาสร้างกำแพงดินที่ศูนย์เรียนรู้ฟื้นฟูเหมืองลำปาง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยและพัฒนาเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป

ศูนย์เรียนรู้การฟื้นฟูเหมือง ปูนลำปาง ภาพจำลองการฟื้นฟูเหมือง ผลการฟื้นฟูเหมืองลำปาง1 การเพาะพันธ์ุพืชท้องถิ่นภายในศูนย์เรียนรู้การฟื้นฟูเหมือง ปูนลำปาง 1

การฟื้นฟูเหมืองและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ

ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง)มุ่งมั่นจะเป็นต้นแบบที่ดีของการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และเปิดกว้างให้หน่วยงานต่างๆได้เข้ามาศึกษาดูงานและนำองค์ความรู้ไปปรับใช้เพื่อให้สังคมมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โดยได้ดำเนินการดังนี้

1. กำหนดกรอบแผนงานฟื้นฟูเหมือง ใช้หลักการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ด้วยหลักวนวัฒน์วิทยา การคัดเลือกพันธุ์ไม้ท้องถิ่น หลักการพรรณไม้โครงสร้าง (Framework Species Method) ผสานกับเทคโนโลยีวิศวกรรมเหมืองแร่
2. กำหนดแผนงานด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพโดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ

  • ระยะที่ 1การสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพ(Biodiversity Baseline Data)ที่มีลักษณะเฉพาะของพื้นที่เป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดกรอบงาน
  • ระยะที่ 2การศึกษาข้อมูลเชิงลึกของพันธุ์ไม้ท้องถิ่น เพื่อจัดทำรายละเอียดของแผนการดำเนินงานเพื่อจัดเตรียมกล้าไม้ท้องถิ่นสำหรับการฟื้นฟูเหมืองพร้อมกำหนดตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดผลสำเร็จของโครงการ
  • ระยะที่ 3 การศึกษาความสัมพันธ์ของสังคมพืชและสัตว์เพื่อนำข้อมูลมาใช้กำหนดแผนงานฟื้นฟูเหมืองให้คืนสู่ระบบนิเวศป่าไม้อย่างครบวงจรห่วงโซ่อาหาร(Biodiversity Management Plan)

การจัดทำหนังสือการฟื้นฟูเหมืองหินปูน คณะทำงานฟื้นฟูเหมืองและความหลากหลายทางชีวภาพ เอสซีจี ได้ทำงานด้านการฟื้นฟูเหมืองมาอย่างยาวนาน โดยการศึกษาวิจัยและทดลองเทคนิควิธีการต่างๆรวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานด้านวิชาการหลายองค์กร เพื่อฟื้นฟูเหมืองอย่างเป็นระบบ พร้อมกับฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ โดยได้รวบรวมองค์ความรู้ด้านการฟื้นฟูเหมืองจัดทำเป็นหนังสือ“การฟื้นฟูเหมืองหินปูน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปองค์ความรู้ของงานฟื้นฟูเหมืองและความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งปัจจัยของความสำเร็จและจุดเรียนรู้สำคัญ เพื่อเผยแพร่แก่หน่วยงานและผู้ที่สนใจ

ชุมชนรอบโรงงานซึ่งส่วนหนึ่งเป็นโฮมสเตย์ด้วย คัดแยกขยะ พัดสานจากล็อตเตอร์รี่เก่า ตามเเนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy

นอกจากนี้ ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง)ได้ร่วมมือกับศูนย์วิจัยการฟื้นฟูป่า คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ และสรุปชนิดพันธุ์ไม้ท้องถิ่นที่ใช้ในงานฟื้นฟูเหมืองลำปาง เช่น รัง งิ้วป่า ยมหิน อ้อยช้าง ประดู่ป่า เป็นต้น รวมทั้งได้ริเริ่มโครงการร่วมกับสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์กรมหาชน) หรือ BEDO มูลนิธิสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (BEDO Foundation) และ Global Nature Fund (GNF) จัดทำโครงการตรวจประเมินธุรกิจ รับผิดชอบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (Business & Biodiversity Check) ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน โดยเน้นการสำรวจชนิดพันธุ์นก ซึ่งพบว่าในพื้นที่เหมืองลำปางมีชนิดนก เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงสภาพธรรมชาติที่กลับคืนมามีระบบนิเวศเหมาะสมแก่การดำรงชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ

จากการทำเหมืองที่ให้ความสำคัญกับการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนทำให้เหมืองหินปูนของ ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง)ได้รับรางวัลดังนี้

1. Green Industry Level 5 จากกระทรวงอุตสาหกรรม (ระดับสูงที่สุดเป็นที่แรก)
2. EIA Monitoring Award จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระดับ ยอดเยี่ยม (ระดับสูงที่สุด)
3. Thailand Green and Smart Mining จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
4. Green Mining จากกระทรวงอุตสาหกรรม
5. CSR-DPIM จากกระทรวงอุตสาหกรรม

จิตอาสารักษ์น้ำจากภูพาสู่มหานทีร่วมกับชุมชนต.เมืองมาย อ.เเจ้ห่ม จ.ลำปาง สร้างฝายชะลอน้ำ และเด็กๆ จากชุมชนต.เมืองมาย ดีใจเมื่อช่วยกันสร้างฝายชะลอน้ำเสร็จ

You Might Also Like