CSR

กองทุนมิตรผล-บ้านปู เพิ่มงบอีก 500 ลบ. เจาะ 7 หมวดหมู่ กับหลายภาคส่วนตาม SDGs17

7 ตุลาคม 2564…งบประมาณที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ และสุขภาวะมากขึ้น

ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ยังคงส่งผลกระทบเป็นวงกว้างกับทุกภาคส่วน ไม่ว่ากับผู้ประกอบการ สังคม ชุมชน และประชาชนทั่วไป แม้ตัวเลขของผู้ติดโรคและเสียชีวิตจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ “กองทุนมิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทย สู้ภัย COVID-19” ก็ยังมองเห็นถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น จึงเพิ่มงบประมาณอีกกว่า 500 ล้านบาท หรืองบประมาณเพิ่มเติมอีกบริษัทละ 250 ล้านบาท ซึ่งหากรวมในเฟสแรก 500 ล้านบาท ก็จะกลายเป็น 1,000 ล้านบาท ในปัจจุบัน

“เมื่อสถานการณ์ด้านสาธารณสุขค่อนข้างมีความพร้อมที่จะรองรับการดูแลรักษาและป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ดังนั้นเราจึงมองถึงผลกระทบส่วนอื่น ๆ ซึ่งมองเห็นคือความเสียหายด้านเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบโดยตรงกับเรื่องปากท้องของประชาชน เราจึงกำหนดทิศทางความช่วยเหลือที่สามารถตอบโจทย์กับความต้องการอย่างแท้จริง ด้วยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องปากท้อง ต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบการรายย่อย ช่วยลดต้นทุนและสามารถสู้ต่อได้ สร้างให้เกิดการจ้างงาน เพื่อกระจายรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจชุมชน กลุ่มมิตรผลและบ้านปูมุ่งเน้นการทำงานที่คล่องตัวและไม่ซ้ำซ้อน เน้นการร่วมมือกับเครือข่ายที่มี เพื่อกระจายความช่วยเหลือสู่กลุ่มคนที่เดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิผล”

สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และบันเทิง ชัยมงคล ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล

บันเทิง ชัยมงคล ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล กล่าวถึงการช่วยเหลือในครั้งนี้ โดยทิศทางการสนับสนุนและช่วยเหลือจะตอบโจทย์ครอบคลุมประเด็นหลักๆ ที่สังคมไทยประสบจากวิกฤติโควิด-19 แบ่งเป็น 7 หมวดหมู่ ได้แก่

1. การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่
2. การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุข
3. การสนับสนุนบริการสาธารณสุขเชิงรุก
4. การสนับสนุนงานด้านการป้องกันการแพร่ระบาด และกิจกรรมฌาปนกิจศพผู้ป่วยโควิด-19
5. การสนับสนุนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้อง
6. การเยียวยาด้านสุขภาพจิตผู้ได้รับผลกระทบ
7.จุดประสงค์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม เช่นกลุ่มที่อาจจะถูกลืม LGBTQ ผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล ซึ่งในส่วนนี้จะจัดตั้งเป็นกรณีพิเศษ

บันเทิงยังเสริมว่า หากเกิดการระบาดระลอกใหม่แล้วสังคมไทยยังต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมก็พร้อมที่จะเติมเงินเพิ่มจากที่ลงในกองทุนไปแล้ว

“เราพูดชัดเจนว่ากองทุนนี้เป็นกองทุนที่เคียงข้างคนไทย ดังนั้นในเฟสที่ 3 ถ้าสถานการณ์ยังมีความรุนแรงผมคิดว่ากรรมการของเราคงจะมีการพิจารณาเพิ่มแต่ขอให้ถึงเวลานั้นก่อน”

สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) อธิบายว่าทั้งบ้านปูและมิตรผลมีการสำรวจอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรเครือข่ายที่มีอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือสามารถเข้าถึงประชาชนที่เดือดร้อนได้มากที่สุด โดยส่วนของบ้านปูจะดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานครในขณะที่ทางมิตรผลรับผิดชอบในส่วนของต่างจังหวัดซึ่งทางมิตรผลมีเครือข่ายกระจายอยู่หลายจังหวัด

“ด้านการลงพื้นที่เรามีคณะทำงานที่ลงไปในพื้นที่ต่าง ๆ มีการสอบถามอย่างใกล้ชิด รวมทั้งทำงานควบคู่ไปกับองค์กรทั้งมหาชนและทางสสส.รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ในเครือข่ายซึ่งทั้งหมดจะทำให้เราเข้าถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด”

ในช่วงเสวนาพิเศษหัวข้อ “รวมพลังช่วยไทยอย่างไรให้ไปต่อ” มีพันธมิตรร่วมงาน ได้แก่ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่มีบทบาทในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชน เพื่อการป้องกัน การปรับตัว และการดูแลตนเองให้ปลอดภัย พรรณทิพย์ เพชรมาก รองผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจสนับสนุนชุมชนในการบริหารจัดการเพื่อการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่แออัด ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล ผู้ก่อตั้ง “โครงการต้องรอด โดยกลุ่ม Up for Thai” ที่มาเน้นย้ำถึง 3 ระยะของการช่วยเหลือในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ คือ ระยะเร่งด่วน ระยะเยียวยา และระยะฟื้นฟู ที่เราควรถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นให้แพร่หลายเพื่อการบริหารจัดการที่ดีขึ้นในอนาคต และ ดร.กฤษดา กฤตยากีรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด ที่มากล่าวถึงจุดประสงค์ของโครงการ “มูฟมี อาสาขนส่ง ห่วงใย โดยกองทุนมิตรผล-บ้านปู” ในการนำรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า MuvMi มาใช้ในการจัดส่งผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 เดินทางกลับบ้าน และการส่งของที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 ทั้งอาหาร และชุดยาที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วยที่รักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation Kit) ในพื้นที่ที่ MuvMi ให้บริการทั่วกรุงเทพฯ

มุมมองของพันธมิตร ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการช่วยเหลือภาคประชาชนในปัจจุบัน ทั้งกลุ่มผู้ที่อาศัยในชุมชนแออัด กลุ่มคนพิการ คนไร้สิทธิ กลุ่มคนเปราะบางของสังคม และผู้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ

สำหรับงบประมาณที่ลงไปแล้วทั้ง 2 ก้อน กว่า 1,000 ล้านบาท กองทุนมิตรผล-บ้านปูฯ บริจาคโดยคำนึงถึงปรัชญาในการทำธุรกิจเรื่อง ESG ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดี

สนับสนุนการจัดซื้อเชื้อเพลิงสำหรับฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิต วัดแคนอก นนทบุรี,สนับสนุนรถตู้พยาบาลกู้ชีพฉุกเฉินและอุปกรณ์ป้องกัน ให้แก่ มูลนิธิเพชรเกษม,การช่วยเหลือชุมชนต่าง ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน,มอบเตียงสนามไม้ พาเนล พลัส จำนวนกว่า 3,000 เตียง ให้แก่ โรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุข,มูฟมี อาสาขนส่ง

 

“ทั้งมิตรผลและบ้านปูมีปรัชญาในการทำธุรกิจอยู่บนหลักการของ ESG อยู่แล้วทั้งในเรื่องของ E สิ่งแวดล้อม S สังคม G การกำกับดูแลกิจการที่ดี กิจกรรมครั้งนี้สำหรับบ้านปูเรายึดถือเป็นลำดับความสำคัญที่สูงของเราเลย โดยทั้งหมดเราได้รับความร่วมมือจากพนักงานบ้านปูของเราทุกคนด้วย” สมฤดี กล่าวเสริม

บันเทิง กล่าวปิดท้าย “ถึงแม้มิตรผลจะไม่ได้เป็นบริษัทมหาชน แต่เราก็ดำเนินกิจการด้วยมาตรฐานนี้เช่นเดียวกันเพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกับบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นกิจกรรมที่เราทำจึงอยู่ในเส้นนโยบายของ ESG ด้วยเช่นกัน

 

You Might Also Like