30 มกราคม 2567…ในขั้นตอนที่ 2 จะมีเครื่องมือคำนวณข้อมูลที่บจ.จัดเก็บตัวเลขไว้แล้ว สามารถส่งมาให้ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ ซึ่งจะเป็นค่ากลางมาตรฐานก่อนส่งให้ Third Party ยืนยัน
ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และหัวหน้าสายงานพัฒนาความยั่งยืนตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงการสนับสนุนการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน ตามแผนกลยุทธ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2567-2569 “สร้างตลาดทุนที่มีคุณภาพ สู่การเติบโตอย่างยั่นยืน” ใน 3 ด้านหลัก 1) ยกระดับความเชื่อมั่นตลาดทุน 2) เสริมศักยภาพการแข่งขัน 3) สนับสนุนการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน
โดยในด้านที่ 3 ส่วนหนึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯเข้ามาช่วยดูแลบจ.ที่อยากจะมีข้อมูลคาร์บอนเครดิต ซึ่งต้องยอมรับว่าการมีข้อมูลดังกล่าว บจ.จะต้องมี “ค่าใช้จ่าย”ในการทำงาน
ดร.ศรพลขยายความเพิ่มเติมว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า กองทุนที่ลงทุนในหุ้น ESG และหุ้นที่เปิดเผยข้อมูลคาร์บอน จะเริ่มมีหลายบริษัทมาอัพโหลดข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ มากขึ้น ดังนั้นการจะมีตัวเลขคาร์บอนจะต้องมีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ผ่าน 3 ขั้นตอน
1.บจ.ต้องมีกระบวนการภายในองค์กรเองที่จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่นใ ช้พลังงานเท่าไหร่ ใช้น้ํามันเท่าไหร่ โดยในส่วนนี้บริษัทจะต้องดำเนินการเอง มักจะเป็นการ Outsourse นับเป็น“ค่าใช้จ่าย”ของบริษัท
2.เมื่อกระบวนการข้อ 1 เสร็จแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯมีเครื่องมือกลางนำข้อมูลตัวเลขเหล่านั้นมาใส่เพื่อเป็นข้อมูล ขั้นตอนนี้“ไม่มีค่าใช้จ่าย”
3.ขั้นตอนสุดท้าย คือบจ.ต้องจ้างหน่วยงานที่สาม มายืนยันข้อมูลหน่วยงาน ซึ่งก็ถือเป็น“ค่าใช้จ่าย”ของบจ.อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ปีที่ 50 ของตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดแผนกลยุทธ์ 3 ปี (2567-2569) ยกระดับความเชื่อมั่นด้วยการพัฒนาระบบและนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการป้องปรามการกระทำผิด ปกป้องผู้ลงทุน รวมทั้งติดตามคุณภาพบริษัทจดทะเบียน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทยและสนับสนุนบริษัทที่มีศักยภาพเข้ามาจดทะเบียน ดึงดูดผู้ลงทุนผ่าน In-bound / Out-bound roadshow พร้อมทั้งสนับสนุน SMEs / Startups ผ่าน LiVE Platform พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุน รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานระดับโลกเพื่อเป็น Platform ในการขยายธุรกิจของผู้ร่วมตลาด ตลอดจนสนับสนุนการขับเคลื่อนวาระสำคัญของตลาดทุนไทยและประเทศสู่ความยั่งยืน มุ่งสู่ Net Zero ตามเป้าหมายในปี 2050
