NEXT GEN

โอกิลวี่ ประเทศไทย Kick Off “Sustainability & Social Impact Team”

14 กุมภาพันธ์ 2567…จากการศึกษาของ UN Global Compact พบว่า ภายในปี 2573 การดำเนินงานด้านความยั่งยืนจะสร้างมูลค่าทางการตลาดได้มากกว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และแบรนด์ที่เป็นผู้นำในวันนี้มุ่งสื่อสารกับผู้บริโภคในวงกว้างและไม่ Hard-Sell นโยบายความยั่งยืน แต่กลับเชื่อมกับผู้บริโภคที่มีความหลากหลายด้วยการสื่อสารที่เข้าถึงแบบ Personalize กับแต่ละ Segmentation ผ่านความคิดสร้างสรรค์

 

จิรวรา วีรยวรรธน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศุภศิษฏ์ โชคมงคลเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ และศศิภาส์ มงคลนาวิน ผู้อำนวยการกลุ่มฝ่ายกลยุทธ์ โอกิลวี่ ประเทศไทย ร่วมกัน เผยวิสัยทัศน์สำคัญภายในงาน “Sustainability & Creativity for Impact” อีเวนต์เปิดบ้านครั้งสำคัญที่ลูกค้า และพันธมิตรของโอกิลวี่จากหลากหลายธุรกิจ จะได้รับฟังแนวคิดและทิศทางการสนับสนุนลูกค้าในฐานะ Creative Agency ที่เชี่ยวชาญในเชิงกลยุทธ์ และการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างเรื่องราวกระตุ้นการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับแบรนด์ องค์กร สังคม และโลกใบนี้

จิรวรา วีรยวรรธน (บน) ศุภศิษฏ์ โชคมงคลเสถียร (ซ้าย) และศศิภาส์ มงคลนาวิน

เพราะSustainability หรือประเด็นด้านความยั่งยืน คือสิ่งที่สังคมโลกกำลังให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก กระตุ้นให้ธุรกิจ แบรนด์ และหน่วยงานต่างๆ ต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง

“Ogilvy Global Network และ โอกิลวี่ ประเทศไทย มองว่าแบรนด์ส่วนใหญ่มีความใกล้ชิดจนเรียกได้ว่าแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค แบรนด์ที่ให้ความสำคัญและเอาใจใส่ประเด็นความยั่งยืนจะสามารถจูงใจให้ผู้คนรู้สึกดีต่อแบรนด์และธุรกิจได้จริง ยิ่งไปกว่านั้น เราเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้มีประโยชน์เพียงการสร้างแบรนด์ การขายของ หรือสร้างการเติบโตทางธุรกิจ แต่ยังใช้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผู้คนและสังคมที่ซับซ้อนท้าทายได้อีกด้วย โดยในประเทศไทย มีธุรกิจและแบรนด์จำนวนมากที่มีการดำเนินธุรกิจด้วยแนวทาง ESG ที่โดดเด่น สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ยังมีความท้าทายในการนำเรื่องราวดังกล่าวมาสื่อสารเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับผู้คนและสังคม โอกิลวี่เชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ หรือ Creativity คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่สามารถสนับสนุนลูกค้าในส่วนนี้ได้”

 

Ogilvy Global ตั้ง Sustainability & Social Impact Team หรือ ทีมนักวางกลยุทธ์การสื่อสารด้านความยั่งยืนในสำนักงานโอกิลวี่ทุกประเทศทั่วโลก โดยในปี 2022 ทีมมีการเติบโตกว่า 30% จากผู้เข้าร่วมใหม่ ๆ ที่สนใจประเด็นทางสังคมเดียวกัน เรานำแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าไปผสานกับแผนงานต่างๆ เพื่อเติมเต็มความโดดเด่นในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนให้กับลูกค้า ตั้งแต่การพัฒนากลยุทธ์ ESG ตลอดจนการทำแบรนดิ้ง และการสื่อสารแบรนด์ไปยังผู้บริโภค (อ้างอิงจาก WPP’s Sustainability Report 2022)

การพัฒนาแบรนด์ให้กับแต่ละองค์กรมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลัก (Key Stakeholders) มากขึ้น ทุกภาคส่วนมองหาจุดยืนด้านความยั่งยืนและผลกระทบเชิงบวกที่แบรนด์สร้างขึ้น จึงเชื่อว่าความคิดสร้างสรรค์ที่ดีจะต้องสามารถทำงานกับกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย แก้ปัญหาได้มากกว่าเพียงเรื่องเดียว พัฒนาแบรนด์ และชื่อเสียงขององค์กรในระยะยาวได้

“เป็นที่น่าสนใจว่า จาก 100 แบรนด์ชั้นนำที่มีมูลค่าสูงสุดระดับโลกในปี 2566 มีเพียง 2% เท่านั้นที่สามารถสร้างภาพจำด้านความยั่งยืนในสายตาผู้บริโภค ดังนั้น แม้ธุรกิจจะมีความแข็งแกร่งในแง่แบรนด์ (Strong Core Branding) แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างการรับรู้ว่าเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน (Strong Sustainability Perceptions) ในสายตาผู้คนได้เสมอไป การสร้างแบรนด์ และการสื่อสารผ่านแคมเปญที่สร้างผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะทำให้เกิดความแตกต่างและภาพจำที่ชัดเจน เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตเข้าถึงแบบ Personalize กับแต่ละ segmentation ผ่านความคิดสร้างสรรค์”

ท้ายที่สุด โอกิลวี่มีความเชื่อว่า แม้หลายคนอาจรู้สึกว่าการสร้างการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ยากและท้าทาย แต่เมื่อพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญจากแต่ละภาคส่วน ผนวกกับพลังแห่งการร่วมแรง
ร่วมใจ และลงมือทำจริง ไม่ว่าโจทย์นั้นจะยากและท้าทายแค่ไหน เราจะสามารถทำภารกิจนั้นให้สำเร็จลุล่วงได้ และภารกิจของโอกิลวี่ คือ We Make Brands Matter

 

You Might Also Like