29 มีนาคม 2566…กระต่ายเป็นสัตว์ที่เป็นที่รักของหลาย ๆ คน ยิ่งกว่านั้นยังมักเป็นสัญลักษณ์ของสัญชาตญาณ เกี่ยวข้องกับฤดูใบไม้ผลิ และการเริ่มต้นใหม่
Eugenia Koh, global head, sustainable finance, consumer, private and business banking, Standard Chartered Bank กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้เป็นปีกระต่าย จึงอยากแบ่งปันเคล็ดลับการปฏิบัติ 3 ข้อที่เรียนรู้จากกระต่าย เพื่อเป็นข้อคิดในการลงทุนอย่างยั่งยืน รวมถึงคำอธิบายว่า เหตุใด ESG จึงไม่ใช่แค่เรื่องสัญชาตญาณ แต่เป็นการพิจารณาความเสี่ยงที่จับต้องได้ และโอกาสที่พอร์ตการลงทุนจะเบ่งบานหลังจากฤดูใบไม้ผลิ
1.จงมีวิสัยทัศน์ให้เหมือนกระต่าย
ศึกษา ESG จริงจัง จะช่วยให้มีมุมมอง 360 องศา พร้อมคว้าโอกาส
ไม่ว่าใครก็รู้ว่า มันยากมากที่จะซุ่มโจมตีกระต่าย เพราะมันมักมองไปรอบตัวตลอดเวลา ครอบคลุมเกือบ 360 องศา ช่วยให้เห็นสิ่งที่มาจากด้านหลัง ด้านบน และด้านข้าง โดยไม่ต้องหันทั้งตัว
การพิจารณาแนวโน้มความยั่งยืน เช่น ขับเคลื่อนไปสู่โลกที่เน้น Net Zero หรือโอกาสจากการทำตามเป้า SDGs- Sustainable Development Goals ช่วยให้นักลงทุนใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการปรับโครงสร้างระยะยาวสําหรับพอร์ตการลงทุนของคุณ
ตัวอย่าง รัฐบาลจีนเพิ่งเปิดกองทุนพัฒนาสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งเป็น Private Equity Fund ที่รัฐบริหาร มูลค่า 88.5 พันล้านหยวน โดยเน้นไปที่การลงทุนในโครงการและบริษัทที่มีเป้าหมายรักษาสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์จากหลักการการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบในตลาดเกิดใหม่และตลาดหุ้นจีนยังชี้ให้เห็นว่าพอร์ตการลงทุนที่มีคุณสมบัติ ESG ที่เหนือกว่าสามารถส่งมอบผลตอบแทนสูงกว่าตลาดเกิดใหม่โดยรวม
ยิ่งกว่านั้น การลงทุนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมจะยังคงเป็นธีมหลักของโลกไปอีกหลายปี ซึ่งจะขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระลอกต่อไป เมื่อโลกลดคาร์บอน รถยนต์ไฟฟ้ายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีการตอบรับแข็งแกร่งในจีนแผ่นดินใหญ่และยุโรปในขณะที่ผู้ผลิตในสหรัฐฯได้รับประโยชน์จากพรบ.ลดอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act)
2. ปัจจัย ESG เป็นเหมือนหูกระต่าย
ช่วยให้จัดการความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้ดีขึ้น
กระต่ายหมุนหูได้ 270 องศา ทําให้พวกมันสามารถตรวจจับภัยคุกคามที่อาจเข้าใกล้จากระยะทางกว่า 3 กม. ในทุกทิศทาง เนื่องจากกระต่ายมักเป็นเหยื่อ หูจึงมีบทบาทสําคัญช่วยให้พวกมันอยู่รอด และหลีกเลี่ยงบรรดานักล่า
ในทํานองเดียวกัน การวิจัยอุตสาหกรรมได้แสดงให้เห็นว่า การจัดการปัญหา ESG ที่ดีขึ้น เช่น การปล่อยก๊าซคาร์บอนและการกํากับดูแลกิจการอาจส่งผลให้ต้นทุนสินเชื่อและเบี้ยประกันความเสี่ยงลดลง ข้อมูลผลวิจัยพบว่า บริษัทที่มีคะแนน ESG ติดลบจะมีต้นทุนการเงินสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ประมาณ 2.5%-3.5% ต่อปี
3. กระต่ายมีหลายพันธุ์
กองทุนยั่งยืนก็มีหลายประเภท
กระต่ายมีความแตกต่างหลากหลาย ทั้งรูปร่างและน้ำหนักตัว ตัวเล็กสุดยาวเพียง 0.2 เมตร หนัก 0.4 กก. ส่วนกระต่ายตัวใหญ่ที่สุดในกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ยาวกว่า 1.3 เมตร หนักประมาณ 22 กก.
ทํานองเดียวกัน การลงทุนยั่งยืนก็มีแนวทางแตกต่างกันหลากหลาย คุณอาจเลือกแยกการลงทุนบางส่วนออกไปจากพอร์ตใหญ่ หรือบูรณาการปัจจัย ESG เพื่อให้จัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น หรือเน้นคว้าโอกาสด้วยธีมที่ยั่งยืนอย่างเดียว
ด้วยวิธีการที่มีแตกต่างกันมากมาย จึงเป็นจุดสําคัญสําหรับนักลงทุนที่จะต้องคิดว่า วัตถุประสงค์และความคาดหวังในการลงทุนของพวกเขาคืออะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโปร่งใสของโซลูชันที่นําเสนอเติมเต็มเป้าหมายได้อย่างไร
ผลการศึกษาการลงทุนประจําปีระบุว่า มากกว่า 90% ของนักลงทุนทั่วเอเชียตะวันออกกลางและแอฟริกาต้องการจัดสรรเงินทุนเพื่อการลงทุนที่ยั่งยืน คิดเป็น AUM (Asset under Management) ภายในปี 2030 มูลค่าประมาณ 8,200 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 270,600 ล้านบาท) อย่างไรก็ตามยังคงมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไขเพื่อปลดล็อกศักยภาพดังกล่าว ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ความกังวลเกี่ยวกับการฟอกเขียว (Greenwashing)
ในปีกระต่าย พวกเรายังคงทํางานอย่างหนัก แก้ไขอุปสรรคเหล่านี้ เพื่อให้สามารถช่วยนักลงทุนปลดล็อกข้อจำกัดที่มี ทำให้ผลประโยชน์การลงทุนอย่างยั่งยืน เพิ่มเข้าไปในพอร์ตการลงทุนของพวกเขาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ที่มา
