NEXT GEN

5 ปัจจัยที่บอกว่าการแก้ปัญหาสภาพอากาศคืบหน้า

19 มกราคม 2566…เมื่อพูดถึงการแก้ปัญหาสภาพอากาศ คนส่วนใหญ่อาจคิดว่ามันไม่ไปไหน แต่จริงๆ แล้ว ปี 2022 มีความคืบหน้ามากมายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว บางครั้งเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงการยอมจำนนต่อความเลวร้ายของปัญหาสภาพอากาศ ทุกวันนี้โลกกำลังประสบภัยพิบัติที่ระดับ CO2 ในชั้นบรรยากาศสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ยังลงมือไม่เร็วพอที่จะบรรลุเป้าหมาย แต่การมองโลกแง่ร้ายก็ทำให้เกิดความเฉื่อยชา

สิ่งสำคัญ คือ ต้องไม่ละสายตาจากความก้าวหน้าที่แท้จริงที่กำลังเกิดขึ้น ต่อไปนี้เป็น 5 ปัจจัยที่บอกว่าการแก้ปัญหาสภาพอากาศกำลังก้าวไปข้างหน้า

พลังงานทดแทน
จะแซงการใช้ถ่านหินทั่วโลกภายในปี 2025

วิกฤตพลังงานถูกจุดประกายจากสงครามของรัสเซียในยูเครน ทำให้ประเทศต่างๆ เช่น เยอรมนีเร่งแผนการเพิ่มพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า โลกสามารถเพิ่มพลังงานหมุนเวียนใหม่ได้มากเท่ากับที่เคยทำได้ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งเท่ากับเกือบสองเท่าของกำลังการผลิตทั่วโลก มากกว่าที่สำนักงานเคยคาดการณ์ไว้ 30% เมื่อปีที่แล้ว

ปัจจุบัน พลังงานหมุนเวียนกำลังจะแซงถ่านหินในฐานะแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในต้นปี 2025 ความท้าทายสำคัญยังคงมีอยู่ รวมถึงความจริงที่ว่าสงครามยังเร่งโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลใหม่ ๆ ด้วย และส่วนอื่น ๆ ของการเปลี่ยนผ่านของพลังงานคืบหน้าช้าลง “ในอัตราเหมือนสหราชอาณาจักรกำลังติดตั้งปั๊มความร้อนในบ้านเก่า การปรับปรุงใหม่จะใช้เวลา 600 ปี แต่เรามีเวลาไม่ถึง 600 ปีในการลดคาร์บอนที่มีอยู่” Lila Preston ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการขอสินเชื่อที่ Generation Investment Management บริษัทที่เน้นความยั่งยืนซึ่งก่อตั้งโดย Al Gore ให้ความเห็น

สหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายสภาพอากาศ
นับเป็นความท้าทายมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งลงนามเป็นกฎหมายในเดือนสิงหาคม ได้เริ่มใช้งบประมาณ 370,000 ล้านดอลลาร์ในการให้เครดิตภาษี และมาตรการจูงใจเพื่อสนับสนุนประสิทธิภาพการใช้พลังงาน พลังงานหมุนเวียน รถยนต์ไฟฟ้า การปกป้องป่า และการดำเนินการด้านสภาพอากาศอื่นๆ ช่วยให้บริษัทเทคโนโลยีด้านสภาพอากาศเติบโตเร็วกว่าที่เคยมีอยู่แล้ว เช่น ONE บริษัทแบตเตอรี่ EV ใหม่ที่เปิดตัวโดยอดีตวิศวกรของ Apple ซึ่งกำลังสร้างโรงงานมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์ในรัฐมิชิแกน และเริ่มทดสอบเทคโนโลยีกับบริษัทรถยนต์รายใหญ่

กฎหมายดังกล่าวสามารถช่วยลดการปล่อยมลพิษของสหรัฐได้ประมาณ 40% ภายในสิ้นทศวรรษนี้ หากรวมกับนโยบายของแต่ละรัฐ และมาตรฐานมลพิษของรัฐบาลกลาง ก็เป็นไปได้ที่จะบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030ตามรายงานของ Energy Innovation องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งขนานนามกฎหมายว่าเป็น “กฎหมายแก้ปัญหาสภาพอากาศที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา”

รถยนต์ไฟฟ้า
กำลังกลายเป็นกระแสหลัก

ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้วและยังคงเติบโต ปัจจุบัน เกือบ 10% ของการซื้อรถใหม่ทั่วโลกเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือไฮบริด ในนอร์เวย์ซึ่งมีนโยบายที่เข้มงวดในการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 90% ในสหรัฐอเมริกา F-150 Lightning ของฟอร์ดเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลินี้ ยิ่งกระตุ้นให้นักขับกลุ่มใหม่ตัดสินใจเปลี่ยน การวิเคราะห์ชิ้นหนึ่งชี้ให้เห็นว่าสหรัฐฯ ถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการขาย EV เมื่อการยอมรับเริ่มกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นอย่างรวดเร็ว แบบเดียวกับที่สมาร์ทโฟนเปลี่ยนจากสิ่งหายาก กลายเป็นแพร่หลายอย่างรวดเร็ว

เครือข่ายเครื่องชาร์จ EV ใหม่ล่าสุด กำลังถูกสร้างขึ้นด้วยเงินทุน 5,000 ล้านดอลลาร์จากร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานปี 2021 รถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่กว่าเดิมเริ่มมีให้เห็นตามท้องถนนมากขึ้น ตั้งแต่รถตู้ส่งของจาก Amazon ไปจนถึงรถโรงเรียนไฟฟ้า ถึงกระนั้น ความคืบหน้าอาจถูกขัดขวางจากการขาดแคลนวัสดุ เช่น ลิเธียม และผู้ผลิตยังต้องพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการทำเหมืองวัสดุเหล่านั้นด้วย

หลาย ๆ เมืองกำลังตั้งเป้า
ถึงจุดหมายด้วยการเดินไม่เกิน “15 นาที”

ถ้าคุณไปเที่ยวปารีส ถนนที่เคยเต็มไปด้วยรถยนต์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้เต็มไปด้วยจักรยาน Anne Hidalgo นายกเทศมนตรี ตั้งเป้าหมายการเป็น “เมือง 15 นาที” ที่ทุกคนอาศัยอยู่ภายในระยะเดินหรือขี่จักรยานเพียง 15 นาทีจากจุดหมายปลายทางในชีวิตประจำวัน เช่น ที่ทำงานและร้านขายของชำ

การหลีกเลี่ยงการขับรถ ทำให้งานนี้สามารถลดทั้งการปล่อยคาร์บอนและมลพิษทางอากาศในท้องถิ่นได้ C40 ซึ่งเป็นเครือข่ายเมืองทั่วโลกกำลังทำงานร่วมกับนายกเทศมนตรีหลายคนเพื่อนำร่องโครงการ 15 นาทีนี้ทั่วโลก ยิ่งเมืองที่มีรถยนต์เป็นศูนย์กลางมาก ๆ เช่น เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ก็เริ่มผลักดันโครงการเช่นเดียวกัน

เซ็คเตอร์ที่ดูว่าแยกคาร์บอนได้ยากที่สุด
ดูง่ายกว่าที่คิด

แหล่งปล่อยมลพิษหลัก ๆ บางแห่ง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ยังไม่มีเทคโนโลยีง่าย ๆ ที่สามารถลดมลพิษจากสภาพอากาศ แต่ Startup คลื่นลูกใหม่กำลังพิสูจน์ว่าขณะนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีใหม่ๆ ในการผลิตคอนกรีตที่ไม่ปล่อยมลพิษ ไปจนถึงการผลิตเชื้อเพลิงเครื่องบินจาก CO2

โรงงานแห่งหนึ่งในสวีเดนกำลังเริ่มผลิตเหล็กกล้าไร้ฟอสซิลเป็นชุดเล็ก ๆ สินค้าชิ้นแรกที่ผลิตจากวัสดุดังกล่าว คือนาฬิกา ซึ่งจะวางตลาดเดือนนี้ บริษัทสตาร์ทอัพอื่น ๆ กำลังผลิตสารเคมีที่ช่วยลดคาร์บอน พลาสติกจาก CO2 และจุลินทรีย์ที่สามารถช่วยทดแทนปุ๋ยในฟาร์มได้

แม้จะมีความคืบหน้า แต่ก็มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องขับเคลื่อนให้เร็วขึ้น เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้ามีความสำคัญต่อการที่โลกจะบรรลุเป้าหมายระยะยาวของการแก้ปัญหาสภาพอากาศ

ที่มา

 

You Might Also Like