CSR

ชุมชนบึงบางซื่อได้บ้านใหม่+ทะเบียนบ้าน น้ำ-ไฟ เงินออม สวนอินทรีย์ บึงน้ำ

23 กันยายน 2563…ณ พื้นที่นี้ เป็นแก้มลิงและปอดให้คนเมือง ขอบคุณภาครัฐ-เอกชน ที่สร้างกระบวนการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมให้ พึ่งพาตนเองได้ เป็นต้นแบบชุมชนเมืองเข้มแข็ง

อัจฉราพร อิ่มโพธิ์ ตัวแทนชุมชนบึงบางซื่อ กล่าวว่า พวกเราอยู่อาศัยรอบบึงบางซื่อมาตั้งแต่เด็ก จนมีครอบครัวของตนเอง ที่นี่มีสภาพเสื่อมโทรม อยู่กันอย่างแออัด มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย และอบายมุขต่าง ๆ การไม่มีทะเบียนบ้าน ทำให้เราไม่มีน้ำ-ไฟใช้ ไม่มีสิทธิ์ส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน โครงการนี้ช่วยพลิกฟื้นชีวิตให้เรามีบ้านของตัวเองในสภาพแวดล้อมที่ดี มั่นคง พร้อมกับมีทะเบียนบ้าน มีถนนเข้าบ้าน ที่ปลอดภัย เชื่อว่าลูกหลานเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ

“ขอบคุณเอสซีจี ภาครัฐและเอกชน ที่ช่วยมอบชีวิตใหม่ให้โอกาสพวกเรามีส่วนร่วมออกแบบบ้านของตนเอง และยังมีบ้านส่วนกลางให้คนสูงอายุที่ไร้อาชีพ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เราออมเงินสร้างบ้าน โดยเราจะดูแลบึงน้ำให้สะอาด ในอนาคตอยากพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสวนเกษตรอินทรีย์กลางกรุง เพื่อต่อยอดอาชีพสร้างรายได้ให้กับพวกเรา”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการ “มอบบ้านใหม่ให้ชุมชนบึงบางซื่อ ตามโครงการสานพลังประชารัฐ” ณ พื้นที่บึงบางซื่อ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร กล่าวชื่นชมชาวชุมชนบึงบางซื่อด้วยใจจริง ที่อดทน อดออม สะสมเงินเพื่อสร้างบ้าน ลุกขึ้นมาร่วมมือร่วมใจกัน ขอขอบคุณ เอสซีจี องค์กรพันธมิตร และคณะสานพลังประชารัฐ ที่ได้นำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญมาช่วยกันแก้ปัญหา เป็นหนึ่งใน “ต้นแบบโครงการสานพลังประชารัฐ”

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า บึงบางซื่อเคยเป็นแหล่งวัตถุดิบผลิตปูนซีเมนต์ของเอสซีจี มีพื้นที่ 61 ไร่ ได้ใช้พื้นที่ขอบบึงทำเพิงพักให้คนงาน จากนั้นได้อาศัยสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น รวมทั้งมีคนต่างถิ่นอพยพเข้ามาอยู่ กลายเป็นชุมชนใหญ่ มีสภาพความเป็นอยู่แออัด ในปี 2559 เอสซีจี จึงร่วมกับภาครัฐ-เอกชน และชุมชน ดำเนินโครงการสานพลังประชารัฐ-การพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน ก่อนที่จะมอบที่ดินผืนนี้ให้กรมธนารักษ์ดูแล เพื่อเป็นหลักประกันให้กับชุมชน

ปัจจุบันการพัฒนาพื้นที่ระยะที่ 1 สำเร็จแล้ว มีที่พักอาศัยรวม 197 ยูนิต ประกอบด้วยทาวน์เฮ้าส์ 60 หลัง ที่ชุมชนเข้าอยู่แล้ว พร้อมบ้านผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังและไม่มีรายได้ 4 ยูนิต ส่วนอาคารชุด 4 ชั้น 3 อาคาร รวม 133 ยูนิต คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปี 2564

หัวใจความสำเร็จของโครงการนี้ คือ ชุมชนได้มีส่วนร่วมตลอดกระบวนการ ตั้งแต่

1.) การยืนยันสิทธิ์ร่วมโครงการเพื่อความเสมอภาคและเป็นธรรม
2.) สร้างวินัยการออม สะสมเงินเพื่อเป็นเจ้าของบ้าน
3.) ร่วมกันคิดและออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับวิถีชีวิต
4.) กำหนดกฎกติกาการอยู่ร่วมกัน
5.) ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมและความสะอาดของชุมชน

ผลจากการมีส่วนร่วมทำให้คนในชุมชนปรับเปลี่ยนทัศนคติ มีความเอื้ออาทร ทำเพื่อส่วนรวม เป็นชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งเอสซีจีเชื่อมั่นว่า ชุมชนมีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสวนเกษตรอินทรีย์กลางกรุง ดูแลบึงน้ำให้สะอาด สวยงาม รวมถึงเป็นศูนย์เรียนรู้สร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนอื่น ๆ ในอนาคต

ที่อยู่อาศัยของชุมชนบึงบางซื่อปัจจุบัน ส่วนภาพล่างเป็นอดีตก่อนหนน้านี้3 ปี

ศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ รองอธิบดีด้านที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ กล่าวถึงความรับผิดชอบในการดูแล บำรุงรักษา และพัฒนาที่ราชพัสดุให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยในพื้นที่แห่งนี้ บริษัทธนารักษ์พัฒนา- สินทรัพย์ จำกัด สนับสนุนงบประมาณสำหรับเป็นกองทุนต่อยอดให้ชุมชนนำไปใช้สร้างอาชีพและเป็นต้นแบบให้กับชุมชนในเมืองพื้นที่อื่นต่อไป

วิมล ทุ่งทอง ผู้อำนวยการธนาคารออมสินภาค 1 กล่าวถึงธนาคารออมสินดำเนิน “กิจกรรมฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : การจัดการน้ำ” ในปี 2563 ด้คัดเลือก “ชุมชนบึงบางซื่อ” สนับสนุนระบบ ZyclonicTM by SCG นวัตกรรมระบบบำบัดน้ำเสียจากอาคารชุดในชุมชน ให้สามารถนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ พร้อมทั้งสนับสนุนการเลี้ยงปลา การทำแปลงผักสวนครัวระบบน้ำหยด และโรงเรือนเพาะเห็ด สร้างความมั่นคงทางอาหารภายในชุมชน ช่วยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับชุมชน

อัจฉราพร (ซ้าย) ตัวแทนชุมชนบึงบางซื่อ กับวิถีใหม่ของญาติพี่น้องเพื่อนบ้านได้กินผักอินทรีย์ที่ปลูกเอง หัดฝึกอาชีพเช่นทำขนม ทำน้ำยาล้างจาน หัดให้เด็ก ๆ แยกขยะขาย

โครงการสานพลังประชารัฐ-การพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง เอสซีจี และภาคีเครือข่ายสานพลังประชารัฐ เพื่อเป็นต้นแบบที่อยู่อาศัยชุมชนเมือง จัดสรรพื้นที่อย่างคุ้มค่า มีพื้นที่ส่วนกลาง
ใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ลงตัวกับทุกวิถีชีวิต กระตุ้นให้เกิดการออมในชุมชน โดยมีผู้ร่วมโครงการ ได้แก่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. สนับสนุนสินเชื่อ เพื่อให้ชุมชนมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของบ้าน สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนับสนุนงบ 200 ล้านบาท ช่วยเติมเต็มให้ชุมชนได้บ้านที่เสร็จสมบูรณ์ มีสวนและพื้นที่ส่วนกลาง รวมทั้งมีระบบสาธารณูปโภคที่ครบถ้วน การรถไฟแห่งประเทศไทย อนุญาตให้เช่าใช้ที่ดินเป็นทางเข้า-ออก สำนักงานเขตจตุจักร ประสานความร่วมมือด้านการก่อสร้าง ธนาคารออมสิน สนับสนุนงบ 500,000 บาท พัฒนาอาชีพของชุมชน กรมธนารักษ์ สนับสนุนงบ 200,000 บาทพัฒนาอาชีพและรับมอบดูแลที่ดินจาก เอสซีจี เพื่อเป็นหลักประกันที่มั่นคงต่อชุมชนต่อไป

 

You Might Also Like