CSR

กทม.x เอสซีจี สร้างห้องไอซียูโมดูลาร์รองรับผู้ป่วยวิกฤตโควิด-19

9 กรกฎาคม 2564…ช่วยกู้วิกฤตขาดแคลนเตียงไอซียูในกทม. ช่วยคนไข้วิกฤตโควิด-19 ทันท่วงที สร้างความมั่นใจให้บุคลากรทางการแพทย์คลายกังวลหลังเผชิญปัญหาผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยวิกฤตสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี พร้อมทีมผู้บริหารเอสซีจี ร่วมส่งมอบนวัตกรรมห้องไอซียูโมดูลาร์ให้กับสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายแพทย์สุขสันต์ กิตติศุภกร อำนวยการสำนักการแพทย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารบุคลากรทางการแพทย์ เป็นตัวแทนผู้รับมอบ ณ ศูนย์แพทย์ศาสตร์และการเรียนรู้เพื่อผู้สูงอายุ

ทีมบริหารเอสซีจี โมดูลาร์ อธิบายถึงนวัตกรรมห้องไอซียูโมดูลาร์

รุ่งโรจน์ กล่าวว่า เอสซีจี มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การขาดแคลนห้องไอซียูโดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เร่งสร้างนวัตกรรมห้องไอซียูโมดูลาร์ (MODULAR ICU) จำนวน 4 อาคาร 40 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยวิกฤตได้ทันท่วงที เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจลดความเสี่ยงการติดเชื้อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ อีกทั้งยังช่วยสร้างความอุ่นใจให้คนไทยก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ได้อย่างดีที่สุด

“นวัตกรรมห้องไอซียูโมดูลาร์ 1 อาคาร จำนวน 10 เตียง จะใช้เวลาก่อสร้างหน้างานรวมถึงติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ 1 สัปดาห์ และจะทยอยส่งมอบสัปดาห์ละ 1 อาคารจนครบ ทั้งนี้ เอสซีจีให้การสนับสนุนทั้งสิ้น 33 ล้านบาท ภายใต้มูลค่าโครงการรวม 45 ล้านบาท”

นอกจากนี้ เอสซีจี ยังมีแผนผลิตห้องไอซียูโมดูลาร์ให้กับโรงพยาบาลสระบุรี ซึ่งเมื่อรวมกับที่เอสซีจีผลิตทั้งหมดจะมีจำนวนห้องไอซียูโมดูลาร์ทั้งสิ้น 60 เตียง หรือร้อยละ 10 ของเตียงไอซียูประมาณ 400 เตียง ในกรุงเทพมหานคร ช่วยให้สามารถรับมือกับวิกฤตโควิดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจให้บุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติหน้าที่ และสร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องชาวไทย

ห้องไอซียูโมดูลาร์ มีความพร้อมให้บริการผู้ป่วยโควิด-19

นวัตกรรมห้องไอซียูโมดูลาร์ออกแบบและก่อสร้างได้อย่างรวดเร็วจากการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ จากโรงงาน โดยระบบ Modular สามารถควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างตั้งแต่การออกแบบจนถึงการผลิตจากโรงงานเพื่อมาประกอบบริเวณหน้างานได้อย่างมีมาตรฐาน ถูกออกแบบตามฟังก์ชั่นการทำงานของข้อกำหนดห้อง ICU ที่มีทีมแพทย์เป็นที่ปรึกษา โดยห้องสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เหมาะสมและปลอดภัย ทั้งระบบความดันบวก(POSITIVE PRESSURE ROOM) เพื่อกำจัดเชื้อโรคและฝุ่น และระบบความดันลบ (NEGATIVE PRESSURE ROOM) เพื่อจำกัดการแพร่กระจายและลดเชื้อไวรัสออกสู่ภายนอกอาคาร

พื้นที่การใช้งานแบ่งเป็น 5 ส่วน

1. ICU ZONE สำหรับเตียงผู้ป่วยพร้อมบอกตำแหน่งระบบยังชีพต่างๆ ที่จะเชื่อมต่อกับระบบของโรงพยาบาล โดยระบบการจัดการอากาศใน ZONE นี้ใช้ระบบห้องความดันลบ (NEGATIVE PRESSURE ROOM)

2. NURSING STATION ZONE สำหรับพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย โดยแบ่งเป็น MONITOR ROOM สำหรับพยาบาลที่ดูแลเฝ้าระวัง และ STAND-BY ROOM สำหรับพยาบาลที่เตรียมสวมชุด PPE พร้อมสำหรับเข้าไปดูแลผู้ป่วย ICU โดยระบบการจัดการอากาศใน ZONE นี้ใช้ระบบห้องความดันบวก (POSITIVE PRESSURE ROOM)

3. MEDICAL PREPARATION สำหรับจัดเก็บเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับผู้ป่วย

4. ANTE ROOM ขาเข้าสำหรับควบคุมความดันก่อนเข้าสู่พื้นที่ ICU Zone

5. ANTE ROOM ขาออกแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. พื้นที่ลำเลียงผู้ป่วยเข้าและออกจากพื้นที่ ICU 2. สำหรับทิ้งขยะติดเชื้อต่าง ๆ 3. ถอดชุด PPE พร้อมทางเดินไปสู่ห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดร่างกายเมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่

 

You Might Also Like