ดิจิทัลเทคโนโลยี สนับสนุนอนาคตของ Circular อีคอมเมิร์ซอย่างไร ?

13 พฤษภาคม 2565…การปล่อยมลพิษที่เพิ่มขึ้น ได้จุดประกายความสนใจโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ของบรรดาบริษัทอีคอมเมิร์ซทั่วโลกให้เพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามกับเศรษฐกิจเชิงเส้นตรง เช่น switching hub โทรศัพท์ อุปกรณ์ ล้าสมัย

13 พฤษภาคม 2565…การปล่อยมลพิษที่เพิ่มขึ้น ได้จุดประกายความสนใจโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ของบรรดาบริษัทอีคอมเมิร์ซทั่วโลกให้เพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามกับเศรษฐกิจเชิงเส้นตรง เช่น switching hub โทรศัพท์ อุปกรณ์ ล้าสมัย

นั่นเป็นเพราะเศรษฐกิจหมุนเวียน จะพิจารณาการออกแบบที่ยั่งยืนตั้งแต่เริ่มต้น และในแต่ละขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการใช้วัตถุดิบใน Life Cycle ที่แตกต่างกัน บริษัทอีคอมเมิร์ซหลายแห่งกำลังพิจารณาว่าแนวทางนี้จะช่วยลดรอยเท้าคาร์บอน และช่วยให้ผู้บริโภคทำเช่นเดียวกันได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม มีความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการตระหนักเรื่อง Circular ด้วย การคิดทบทวนและยกเครื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ยั่งยืนตั้งแต่เริ่มต้นคือความสำเร็จในตัวเอง การเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจโดยรวมเพื่อวางรากฐานในการเป็นบริษัทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นก็เป็นงานที่ต้องจับตามอง เพราะเศรษฐกิจหมุนเวียนยังคาดหวังกับผู้ใช้ปลายทาง ผู้ที่ต้องเรียนรู้พฤติกรรมการบริโภคที่แบบใหม่ให้ลึกซึ้ง และกำจัดทิ้งของเก่าอย่างมากด้วย

ใช้ประโยชน์
จากเทคโนโลยี ‘สีเขียว’

โชคดีที่สิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายที่เทคโนโลยีสามารถช่วยองค์กรได้ ดังที่เราทราบ การจัดซื้อออนไลน์/อีคอมเมิร์ซให้ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกรรมแบบไร้กระดาษ การจัดซื้อที่ส่งมอบเร็วกว่าเดิม ปล่อยคาร์บอนน้อยลง และอื่นๆ แต่การวางเทคโนโลยีเสริมไว้ด้านบนของวงจรการจัดซื้อที่ “เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” อยู่แล้ว จะทำให้ประโยชน์คงอยู่ในระยะยาวต่อไป

ตัวอย่างเช่น ข้อมูลและการวิเคราะห์ช่วยให้บริษัทอีคอมเมิร์ซค้นพบแหล่งข้อมูลอันมีค่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคให้มากขึ้นในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนซึ่งเคยใช้แล้ว และนำกลับมาใช้ใหม่ คิดใหม่เกี่ยวกับวิธีการบรรจุภัณฑ์ และการจัดส่ง เพื่อลดของเสีย การปล่อยมลพิษ และอื่น ๆ

เครดิต คลิกที่ภาพ

เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลและการวิเคราะห์ สร้างประโยชน์แก่บริษัท ลูกค้า และโลกใบนี้ องค์กรจำเป็นต้องระบุโซลูชันข้อมูลที่มีประสิทธิภาพก่อน จากนั้นจึงใช้งานจริง จากข้อมูลของ World Economic Forum มีบริษัทเพียง 9 % เท่านั้นที่ใช้ซอฟต์แวร์ที่สนับสนุนการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ และการรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) นอกจากนี้ การสำรวจศูนย์วิจัย SAP Insights พบว่ามีผู้บริหารธุรกิจเพียง 21 % เท่านั้นที่พอใจกับคุณภาพและความพร้อมใช้งานของข้อมูลที่รวบรวมเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

เปลี่ยนความชอบ
ของผู้บริโภค

ด้านอีคอมเมิร์ซมีงานบางอย่างที่ทำเสร็จไปแล้ว แต่ด้วยความพยายามนั้นทำให้เกิดโอกาสที่ดี ทั้งนี้ ผู้บริโภคสนใจซื้อผลิตภัณฑ์หมุนเวียนอย่างมาก เช่นเดียวกับความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่บางอย่างที่ต้องได้รับการแก้ไข ผลการศึกษาล่าสุด โดยFootprint พบว่า

-63 % ของผู้บริโภคยินดีจ่ายเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการ หากพวกเขาช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม
-68 % มีแนวโน้มที่จะเลือกแบรนด์ ร้านค้า หรือร้านอาหารที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
-77% มีแนวโน้มที่จะซื้อผลิตภัณฑ์มากขึ้น หากมั่นใจได้ว่าใช้บรรจุภัณฑ์เน้นความยั่งยืน

จากการสำรวจเดียวกันนี้พบว่า ความรับผิดชอบของบริษัทต่าง ๆ ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนนี้

-87% ของผู้บริโภคที่สำรวจเห็นด้วยว่า บริษัทมีความรับผิดชอบในการปกป้องโลกและผู้คน
-85% กล่าวว่าแบรนด์ต่าง ๆ ควรมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาความยั่งยืน เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ก่อให้เกิดปัญหา
-78% กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทและแบรนด์ต่าง ๆ ยังทำไม่พอในการปกป้องโลก

เปลี่ยนจากแผน
สู่การปฏิบัติจริง

ดังนั้น บริษัทอีคอมเมิร์ซจะทำการเปลี่ยนแปลงให้เป็นจริงได้อย่างไร? เช่นเดียวกับรูปแบบการเปลี่ยนแปลงองค์กรส่วนใหญ่ ขั้นตอนแรกคือการประเมินว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่โมเดล Circular จากนั้นจึงพัฒนาแผนกลยุทธ์ตามเป้าหมายที่บริษัทต้องการโดยเฉพาะ แหล่งข้อมูลด้านเทคโนโลยีและการให้คำปรึกษา เช่น Sustainability Advisory Service ของ SAP สามารถช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เข้าใจได้ดีขึ้นว่า พวกเขาอยู่ที่ไหนและต้องทำอะไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน

เครดิต คลิกที่ภาพ

เมื่อกำหนดแผนได้แล้ว จะมีโซลูชันดิจิทัลที่ช่วยให้บริษัทอีคอมเมิร์ซดำเนินการได้อย่างยั่งยืนมากขึ้นตลอดช่วงการเปลี่ยนไปใช้โมเดลหมุนเวียน ตัวอย่างเช่น ecoinvent Association ได้สร้างเครื่องมือ เพื่อนำการปล่อยคาร์บอนที่เข้าใจง่าย และไม่ต้องพึ่งพาผู้ขายเข้ามาใช้ หรือที่เรียกว่าคะแนนการประเมินผลกระทบของวงจรชีวิต (LCIA) ลงในโซลูชันการจัดการรอยเท้าคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ ขณะที่ Queen of Raw ก็มีแดชบอร์ด เพื่อช่วยติดตามผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและสร้างรายได้จากของเสียใน Marketplace ระดับโลก

สรุปก็คือ อนาคตของอีคอมเมิร์ซ พึ่งพาโมเดลแบบ Circular รวมถึงเครื่องมือดิจิทัลต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะช่วยให้อนาคตกลายเป็นจริง

ที่มา