ALTERNATIVE

ค้าปลีกปรับตัวรับพฤติกรรม ‘ไฮบริดช็อปปิ้ง’ ชี้ผู้บริโภคห่วงผลกระทบสิ่งแวดล้อม

31 มกราคม 2565….การศึกษาผู้บริโภคทั่วโลกโดย IBM และ NRF ปี 2565 พบว่า 62% ของผู้บริโภคที่สำรวจ เต็มใจปรับพฤติกรรมการซื้อของตน เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม

ผลการศึกษาระดับโลกครั้งที่สอง กับผู้บริโภคกว่า 19,000 รายทั่วโลกครั้งนี้ เผยให้เห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค ในการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และแนวทางการช็อปปิ้งที่กระจายผ่านหลายช่องทาง ทั้งดิจิทัล การซื้อของที่ร้านค้า และการซื้อผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็น ‘ไฮบริดช็อปปิ้ง’

การศึกษายังแสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ความยั่งยืนมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและความชอบที่มีต่อแบรนด์

-ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม เลือกผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์โดยพิจารณาจากคุณค่าที่ตนให้ความสำคัญ เช่น ความยั่งยืน โดยกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด (44%) จากทั้งหมดที่สำรวจ
-62% ของผู้บริโภคที่สำรวจ เต็มใจที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของตน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเพิ่มขึ้นจาก 57% เมื่อสองปีก่อน
-ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคสำรวจ เต็มใจจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อแลกกับความยั่งยืน โดยจ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 70% และเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับเมื่อปี 2563
-อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างระหว่างสิ่งที่ผู้บริโภคตั้งใจจะทำ และสิ่งที่ลงมือทำจริง เนื่องจากมีผู้บริโภคที่สำรวจเพียง 31% เท่านั้นที่ระบุว่าในการซื้อของครั้งล่าสุด ของส่วนใหญ่ที่ซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความยั่งยืน

“ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ความยั่งยืนเข้ามามีความสำคัญต่อผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังคงมีช่องว่างระหว่างสิ่งที่ผู้บริโภคตั้งใจทำ กับสิ่งที่พวกเขาทำจริง โดยมีสาเหตุมาจากการขาดข้อมูลในระหว่างกระบวนการซื้อ จึงถือเป็นความจำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่แบรนด์ค้าปลีกจะต้องแสดงทางเลือกและตัวเลือกที่ยั่งยืนในแต่ละช่วงประสบการณ์ของลูกค้า วันนี้ การช็อปปิ้งแบบไฮบริดได้เข้ามายึดครองตลาดในเกือบทุกหมวดหมู่ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือนและเครื่องแต่งกาย” ลุค ไนอาซี Global Managing Director ของ IBM Consumer Industries กล่าวในท้ายที่สุด

 

You Might Also Like