NEXT GEN

9 สินค้า “รักษ์โลก” ส่งให้เด็ก ๆ เริ่มหัดใช้โดย Fast Company

31 สิงหาคม 2562…ELIZABETH SEGRAN นักเขียนของ Fast Company อารัมภบทว่า ตอนเป็นเด็ก เธอชอบช้อปปิ้งหลังเลิกเรียนกับแม่ เดินเข้าร้านด้วยรายการช็อปปิ้งในมือ

จากนั้นก็เลือกกระเป๋าเป้สะพายหลัง และกระเป๋าดินสอใหม่อย่างพิถีพิถัน ปากกา โน้ตบุ๊ค และแฟ้มที่ต้องการใช้ตลอดปี

การเลือกอุปกรณ์เป็นรูปแบบของการแสดงตัวตนของตัวเอง สำคัญพอ ๆ กับการเตรียมตัวสำหรับปีการศึกษาที่กำลังจะมาถึง

แต่การบริโภคนิยมนั้นมีผลกระทบต่อสิ่งเกิดขึ้นในธุรกิจ มีประมาณการว่าครัวเรือนชาวอเมริกันจะใช้จ่ายราว ๆ 745 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อซื้อเสื้อผ้ารองเท้าผ้าใบ และอุปกรณ์การเรียนสำหรับปีใหม่

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ทนทานหรือทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ผู้ปกครองมักไม่ต้องการลงทุนมากมายในผลิตภัณฑ์ที่ลูก ๆ ของพวกเขาจะโตเร็วจนใช้ไม่ได้ หรือสกปรกเร็ว  ความคิดแบบนี้เป็นผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ Back-to-School ใหม่ ๆ มากมายตั้งแต่เป้กันน้ำ รองเท้าผ้าใบไปจนถึงกล่องอาหารกลางวันที่ทำจากพลาสติกซึ่งมีราคาถูกและทำความสะอาดง่าย

ตอนท้ายของช่วงชีวิตผลิตภัณฑ์ พวกมันก็จะอยู่ในหลุมฝังกลบหรือมหาสมุทร ที่ ๆ จะไม่สลายตัว และก่อให้เกิดมลพิษต่อโลกของเราหลายศตวรรษให้หลัง

แต่ข่าวดีก็คือ…

แบรนด์หลายแบรนด์กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อสร้างทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เด็ก ๆ ของคุณใช้ทุกวัน ทุกวันนี้ พวกเขาทำการตลาดเพื่อค้นหาอุปกรณ์การเรียนที่ทำจากวัสดุธรรมชาติย่อยสลายได้ หรือพลาสติกรีไซเคิล (เป็นที่ต้องการน้อยกว่า เนื่องจากไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพ แต่ยังดีกว่าพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว)

เราได้ทำการทดสอบโดยใช้แรงกดแรงอัดด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันคงทนถาวรตามความคาดหวังของเด็ก ๆ และสามารถทนต่อการใช้งานแบบไม่บันยะบันยัง

นี่เป็นสินค้าที่โละของเก่าทิ้ง เปลี่ยนใช้ของใหม่ได้ง่าย ๆ สำหรับเด็กทุกวัยตั้งแต่ก่อนวัยเรียนไปจนถึงนักเรียนมัธยมปลาย

ปากกาพร้อมไส้แบบ Refill

เมื่อลูกของคุณเริ่มหัดเขียน บ้านของคุณจะค่อย ๆ เต็มไปด้วยปากกาพลาสติกที่มักจะมีราคาถูกมาก ซึ่งคุณเองก็มักไม่กังวลเมื่อหมึกหมดหรือมันหายไป แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีปากกาที่ทนทานมาก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนเก็บไว้ใช้ได้ตลอดชีวิตออกสู่ตลาด

Baron Fig แบรนด์เครื่องเขียน ได้พัฒนาปากกาลูกลื่นที่ทำจากอลูมิเนียม และสามารถเติมได้อย่างง่ายดายด้วยหมึกที่ทำจากถั่วเหลือง ซึ่งยั่งยืนมากขึ้น เพราะเป็นพลังงานทดแทนย่อยสลายได้เป็นพิษน้อยกว่าทางเลือกเดิมที่เคยใช้กันอยู่ ปากกายังเขียนได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบาย ทำให้ได้รับรางวัลมากมายสำหรับการเป็นปากกาที่ดีที่สุดในตลาด

เพียงแค่ต้องทำให้แน่ใจว่า ลูกๆของคุณจะไม่ทำมันหาย เพราะราคาไม่ถูก ปากกาลูกลื่นด้ามละ 55 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,650 บาท) และ 12 เหรียญ (360 บาท) สำหรับการ Refill สามครั้ง

กระเป๋าเป้สะพายหลัง กระเป๋าใส่อาหารกลางวัน และกล่องดินสอทำจากพลาสติกรีไซเคิล

เป้เด็กส่วนใหญ่ในตลาดทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น ไนลอน เหตุผลหลักก็คือ วัสดุเหล่านี้กันน้ำ กันเปื้อน และสามารถโยนใส่เครื่องซักผ้า (สำคัญเพราะคุณรู้ว่าลูกๆจะทิ้งแซนด์วิชหรือแอปเปิ้ลครึ่งลูก ไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของเธอหลายสัปดาห์ในอนาคต )

ทางเลือกที่ยั่งยืนกว่าสำหรับกระเป๋าเป้สะพายหลังพลาสติกทั่วไป คือ พลาสติกรีไซเคิล วัสดุนี้ไม่เหมาะเพราะยังคงอยู่ในหลุมฝังกลบตอนเลิกใช้ เนื่องจากยังไม่มีระบบที่ดีมากมายสำหรับการรีไซเคิลผ้าพลาสติก – แต่มันดีกว่าสำหรับโลกเทียบกับพลาสติกบริสุทธิ์เพราะใช้พลาสติกที่เคยใช้แล้ว

สตาร์ทอัพชื่อ Parkland ผลิตกระเป๋าเป้สะพายหลัง กระเป๋าดินสอ และกล่องใส่อาหารกลางวันที่ทำจากขวดน้ำรีไซเคิล ที่สำคัญแบรนด์นี้เน้นความสนุกสนาน และรูปแบบที่เป็นมิตรกับเด็ก เช่น ใช้รูปไดโนเสาร์ ดาวเคราะห์ และลายจุด

ราคาจากน้อยมามาก กล่องใส่ดินสอราคา 9.99 เหรียญสหรัฐ (300 บาท), กระเป๋าใส่อาหารกลางวันเริ่มต้นที่ 19.99 เหรียญสหรัฐ, (600 บาท) กระเป๋าเป้เริ่มต้นที่ 29.99 เหรียญสหรัฐ (900 บาท) ตามลำดับ

พลาสเตอร์ปิดแผลชีวภาพ ย่อยสลายได้เอง

หากคุณมีเด็กวัยเรียนในบ้าน ตู้ยาของคุณก็จะเต็มไปด้วยผ้าพันแผล เพื่อรับมือกับรอยขีดข่วนและรอยถลอกมากมายที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน (และก็เป็นโอกาสดีด้วย ที่สินค้าพวกเขาจะมีภาพของ Hello Kitty หรือมิกกี้เมาส์อยู่ด้วย) แต่พลาสเตอร์ปิดแผลแบบกาวมักทำจากแถบพลาสติกบางหรือผ้าทอที่มีกาวพลาสติกที่ด้านหลัง ลองคิดว่าพลาสติคทั้งหมดนี้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เมื่อคุณใช้ผ่านไปหลายๆปี

Patch ของบริษัทจากออสเตรเลีย ผลิตพลาสเตอร์ปิดแผลหลายแบบ ซึ่งทำจากเส้นใยไม้ไผ่ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ทั้งหมดและปราศจากยางลาเท็กซ์และซิลิกอน พลาสเตอร์ปิดแผลหลายแบบเหล่านี้ ยังถูกปรับแต่งสำหรับบาดแผลที่แตกต่างกันจากรอยขีดข่วนเล็กน้อย จนถึงแผลบาดเจ็บจากการแข่งกีฬา นอกจากนี้พลาสเตอร์ยังติดรูปแพนด้าที่เด็ก ๆ จะต้องหลงรัก

ลูกค้าสามารถหาซื้อได้จาก พร้อมใช้งานจาก CVS และผู้ค้าปลีกออนไลน์เช่น Grove Collaborative ราคา 6.99 เหรียญสหรัฐต่อแพ็ค และ 25 เหรียญสหรัฐ สำหรับ 25 แพ็ค

มื้อกลางวัน

ช้อนและส้อมแบบพกพา

ก่อนหน้านี้ ลูก ๆ ของหลายๆครอบครัว อาจต้องใช้เครื่องเงินแบบพกพาเพื่อทานอาหารกลางวันที่โรงเรียน โรงเรียนหลายแห่งจัดหาช้อนส้อมพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวให้เด็กๆ เพราะทั้งราคาถูกและสะดวก นอกจากนี้ยังสิ้นเปลืองอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะมีการใช้เครื่องใช้พลาสติกมากกว่า 100 ล้านชิ้นทุกวัน และใช้เวลานานถึง 1,000 ปีในการย่อยสลาย

บริษัทชื่อ Knork เพิ่งเปิดตัวชุดทานอาหารที่ย่อยสลายได้ซึ่งทำจากเส้นใยไม้ไผ่และแป้งอ้อยที่จะสลายตัวภายใน 2 ปี มันถูกออกแบบมาเพื่อนำมาใช้ซ้ำได้ และสามารถล้างได้ 400 ครั้ง ซึ่งหมายความว่าแม้มีชุดเดียวแต่ก็จะใช้ได้ตลอดปีการศึกษา และเพราะมันราคาไม่แพง บรรดาพ่อแม่จึงไม่ต้องกังวลว่าลูก ๆ จะลืมนำกลับบ้าน  ยิ่งกว่านั้น บริษัทยังได้พัฒนากระเป๋าหิ้วที่ทำจากวัสดุเดียวกัน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บอุปกรณ์ที่สกปรก จากนั้นเมื่อถึงบ้านคุณก็สามารถใส่ของทั้งหมดในเครื่องล้างจานพร้อม ๆ กัน

ราคาขาย 8.99 เหรียญสหรัฐ (270 บาท) สำหรับทั้งกล่อง และ 6.99 เหรียญสหรัฐ (210 บาท) สำหรับชุดช้อนส้อม

หลอดในแบบที่ดูสนุก น่าใช้ และปลอดภัย

หลอดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ทั้งสะดวกและใช้กันมากมายในโรงอาหารของโรงเรียนหลายแห่ง แต่พวกมันก็สร้างปัญหาสำหรับสภาพแวดล้อมด้วย

ชาวอเมริกันทิ้งหลอดประมาณ 500 ล้านชิ้นทุกวัน ด้วยขนาดที่เล็ก หลอดส่วนใหญ่มักจะตกหลุดออกไปจากของระบบการจัดการขยะ และสุดท้าย ลงไปสู่มหาสมุทรที่สัตว์น้ำกินหลอดพลาสติคเข้าไป

แม้ที่ผ่านมา มีการรับรู้มากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้หลายเมืองและบริษัทต่างๆสั่งห้ามใช้หลอดพลาสติก เป็นผลให้หลายแบรนด์ออกแบบผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่ทางเลือกใหม่ก็ไม่ได้ดีทั้งหมดเท่ากัน เรื่องหนึ่งคือ หลอดบางอย่างที่แข็งเกินไป อาจทำให้ปากลูกของคุณเป็นผลได้ นอกจากนี้ยังง่ายสำหรับเด็กที่จะลืมหรือทำหาย

ทั้งนี้ Final Straw มีทางออกที่ดี โดยผลิตหลอดโลหะที่มีช่วงบนซิลิโคนอ่อนนุ่ม เพื่อให้สามารถดื่มได้อย่างปลอดภัยและสามารถใส่ในเครื่องล้างจานได้ (ซิลิโคนไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพ จึงควรพึ่งพาเท่าที่จำเป็น แต่ในบริบทนี้มันทำให้หลอดชนิดนี้น่าสนใจมากกว่าผู้ปกครองมากกว่าพลาสติก)

หลอดแบบนี้ยังสามารถพับลงในกระเป๋าขนาดเล็ก ผูกติดกับกุญแจ แหวนหรือกระเป๋าเป้ และที่สำคัญหลอดแบบนี้ผลิตมาโดยใช้สีสันสดใส ซึ่งเด็ก ๆ มักจะชอบ สียอดนิยมสีหนึ่ง เช่น หลอดสีรุ้ง ราคาจำหน่ายอยู่ที่ชุดละ 24.50 เหรียญสหรัฐ (750 บาท)

ภาชนะบรรจุอาหารกลางวันที่คงทน

กล่องอาหารกลางวันจำนวนมากที่ใช้ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกหรือมีส่วนประกอบพลาสติกเช่น กระเป๋าแบบแช่เย็น บริษัท S’well ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเรื่องขวดน้ำ ได้เปิดตัวกล่องและภาชนะบรรจุที่เรียกว่า S’nack โดย S’well และ S’well Eats เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา

กล่องและภาชนะบรรจุ ที่ว่านี้ทำจากสแตนเลส แต่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อให้อาหารยังร้อนหรือเย็นอยู่เหมือนเดิม จนถึงเวลาอาหารกลางวันมารอ กล่องและภาชนะบรรจุเหล่านี้ บุด้วยแผ่นนี้มีทองแดงด้านนอกที่ป้องกันไม่ให้ภาชนะบรรจุเปียก และทำให้เกิดการควบแน่นในถุง

ราคาแบบถ้วย เริ่มต้นที่ 40 เหรียญสหรัฐ (1,200 บาท) และ Snack Box เริ่มต้นที่ 19.99 เหรียญสหรัฐ (600 บาท)

ขวดรีฟิลขนาดที่เหมาะสม

ผู้ปกครองทุกคน ย่อมต้องการให้ลูกๆ กระชุ่มกระชวยอยู่เสมอ แต่ขวดน้ำสำหรับเด็กจำนวนมากออกแบบมาให้ผลิตจากพลาสติก ขวดเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเป็นเวลานาน แต่เมื่อถึงยามต้องเลิกใช้ มันก็จะถูกทิ้งในหลุม เป็นสาเหตุว่า ควรใช้ขวดโลหะซึ่งจะย่อยสลายได้ และมีประโยชน์เรื่องการควบคุมอุณหภูมิด้วย

แบรนด์ที่น่าสนใจในเรื่องนี้ คือ Corkcicle ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ใช่แบรนด์สำหรับเด็ก แต่เกิดขึ้นเพื่อสร้างขวดที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่เหมาะสำหรับเด็ก ขวดมีลักษณะแบนมากกว่าด้านกลม ซึ่งทำให้เด็กจับได้ง่ายขึ้น

ขวดแบบนี้ ก้นขวดเป็นซิลิโคน ทำให้วางบนพื้นได้ง่าย ขวดแบบนี้เก็บเครื่องดื่มเย็น ๆ ได้นานถึง 25 ชั่วโมงและเก็บความร้อนได้ 12 ชั่วโมง แบรนด์นี้มีขวดขนาดหลากหลายและหลากสีจำนวนมาก

สินค้ายอดนิยม คือ ขวดขนาด 9 ออนซ์ ที่เหมาะสำหรับเด็กวัยหัดเดิน และยังสามารถซื้อพร้อมหลอดได้ในราคา 9.95 เหรียญสหรัฐ (300 บาท) หากเด็กๆ คิดว่า การดื่มโดยตรงจากขวดค่อนข้างยาก

เมื่ออายุมากขึ้น ก็สามารถเปลี่ยนเป็นขวดขนาด 16 ออนซ์ ขนาดกระติกน้ำ เริ่มต้นที่ 19.99 เหรียญสหรัฐ (600 บาท)

ชุดออกกำลังกายแบบใหม่

รองเท้าผ้าใบที่ยั่งยืนและทนทาน

แน่นอนว่าบุตรหลานของคุณต้องการรองเท้าใหม่สำหรับปีการศึกษาใหม่ (และอาจต้องใช้ตามช่วงเวลาที่พวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วด้วย) แต่รองเท้าผ้าใบ – สำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ – ส่วนใหญ่มักทำจากพลาสติก ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้คือหารองเท้าผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล

แบรนด์ Rothy’s เสนอตัวเลือกที่ยั่งยืนและทนทาน แบรนด์นี้สร้างรองเท้าผ้าใบซึ่งส่วนบนถักจากเส้นใยที่ทำจากขวดน้ำรีไซเคิล และเนื่องจากรองเท้าแต่ละคู่ ถักโดยใช้เครื่อง 3D จึงมีเศษผ้าน้อยมากที่เสียไปในกระบวนการผลิต

รองเท้าแบรนด์นี้ยังออกแบบมาอย่างดีสำหรับเด็กด้วย เพราะทั้งทน ซักด้วยเครื่องได้ ดังนั้น รูปทรงจึงยังคงรูปเดิมได้นานหลังจากที่เด็กๆโตเกินขนาดรองเท้าไปแล้ว (จึงสามารถส่งต่อให้เพื่อนๆ) ที่สำคัญ รองเท้าผ้าใบแบรนด์นี้มีสีและลวดลายที่เด็ก ๆ ชอบมากมาย ราคารองเท้าอยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐ (1,650 บาท)

เลือกผ้าคอตตอนได้ ทุกเวลาที่คุณต้องการ

เสื้อผ้าเด็กจำนวนมากทำจากเส้นใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ซึ่งราคาถูกกว่าเส้นใยอินทรีย์ เนื่องจากเด็ก ๆ โตเร็ว เสื้อผ้าจึงเล็ก ใช้ไม่ได้อย่างรวดเร็ว ผู้ปกครองหลายคนไม่ต้องการลงทุนในสิ่งของราคาแพง แต่นั่นหมายถึงเสื้อผ้าจำนวนมากต้องถูกฝัง และเนื่องจากปัจจุบันเราไม่มีศูนย์รีไซเคิลผ้าที่ดี เมื่อคุณสามารถเลือกวัสดุเช่นผ้าฝ้าย, ไม้ไผ่, ผ้าลินินหรือผ้าขนสัตว์ เข้าไปใช้ในเสื้อผ้าด้วย

แบรนด์อย่าง Primary (ขายเสื้อยืด ราคาเริ่มต้นที่ 6.50 เหรียญสหรัฐ-ประมาณเกือบ 200 บาท) และ Maisonette Essentials (ด้วยชุด Dresses เริ่มต้น 24 เหรียญสหรัฐ-ประมาณ 720 บาท ) ใช้พลาสติกน้อยมากในกระบวนการผลิตเสื้อผ้าของพวกเขา

มีข้อเสียบางประการสำหรับการใช้ฝ้ายเช่นกัน: เพราะผ้าฝ้ายเป็นเส้นใยที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ก็จริง แต่ในการผลิตต้องใช้น้ำจำนวนมาก และซัพพลายเออร์บางรายใช้สารเคมีที่เป็นพิษในการผลิต แต่ถ้าคุณซื้อจากแบรนด์ที่ระมัดระวังเกี่ยวกับแหล่งที่มาของฝ้าย ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีกว่าโพลีเอสเตอร์แน่นอน แบรนด์ Primary ใช้เฉพาะฝ้ายที่ได้รับการรับรองจาก Oeko Tex ซึ่งหมายความว่า พวกเขาปฏิบัติตามแนวทางที่เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้สารเคมี

การเปลี่ยนจากสิ่งหนึ่งไปใช้อีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งก็คือ การใช้วัสดุที่ยั่งยืนที่สุด คือสิ่งที่คนเป็นพ่อแม่สามารถทำได้ในการซื้อเสื้อผ้าให้กับลูกน้อยของคุณ แบรนด์เสื้อผ้าทั้งหมดข้างต้น ผ่านการออกแบบให้มีความคลาสสิกและทนทาน

ดังนั้น ในทางทฤษฎีเราไม่จำเป็นต้องซื้อจำนวนมากแต่อย่างใด เสื้อผ้าเหล่านี้ส่วนใหญ่มาในสีทึบ และเป็นแบบดาดๆธรรมดา ๆ จนน่าจะได้รับความนิยมยาวนานกว่าแนวโน้มปัจจุบัน เมื่อคุณใช้เสร็จแล้ว ส่งต่อให้เด็กคนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานให้สูงขึ้นเรื่อยๆ

CR.

 

You Might Also Like