NEXT GEN

บีทีเอส กรุ๊ปฯ x วินโนหนี้ รุก Stakeholder Engagement พี่วินตามเส้นทางรถไฟฟ้า

15 มกราคม 2567… เปิดตัวบริการเช่าซื้อ “มอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า Pinto” ของบริษัท สมาร์ท อีวี ไบค์ จำกัด บริษัทร่วมทุนของบริษัท วินโนหนี้ จำกัด (Winnonie ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ทำธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ วินโนหนี้ ในกลุ่มบริษัทบางจาก) และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 30:70 โดยหวังช่วยลดค่าใช้จ่ายของพี่วิน และสามารถลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ด้วย

มีโอกาสได้เรียกจักรยานยนต์ผ่านแอปฯ สอบถามถึงการเปลี่ยนจากจักรยานยนต์น้ำมันมาเป็นการเช่าวินโนหนี้ โดยจากเดิมค่าน้ำมันใช้ทำงาน Rider วันละ 300-400 บาท เมื่อเปลี่ยนมาใช้วินโนหนี้ค่าเช่าวันละ 140 บาทสามารถสลับแบตฯได้ฟรีตามจุดที่กำหนดไว้ วันที่รับงานเอกสารวันนั้น ค่าบริการผ่านแอปฯ 190 บาท แถมเจ้าของงานส่งเอกสารไม่ครบก็สั่งงานอีกรอบราคา 190 บาท นี่ยังไม่นับงานตามสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มของลูกค้า

เพราะฉะนั้น Data ที่วินโนหนี้มีอยู่จึงสอดคล้องกับความจริงจากผู้ใช้จริง นำมาปรับใช้กับ Stakeholder ของ บีทีเอส กรุ๊ปฯที่มีความใกล้ชิดกับธุรกิจของบริษัทมากคือวินมอเตอร์ไซด์ 200 แห่งตามแนวเส้นทางไฟฟ้าบีทีเอส โดยมีความตั้งใจให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตดี ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่น PM2.5 ลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 80% ด้วยการใช้จักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Pinto

ทั้งนี้ สมาร์ท อีวี ไบค์ จัดแคมเปญพิเศษ บริการเช่าซื้อ จักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto 4,000 บาทต่อเดือน โดยราคาดังกล่าวจะรวมถึงบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 2 ก้อนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ฟรีค่าบำรุงรักษาและซ่อมแซม 1 ปี (เงื่อนไขตามที่บริษัทกำหนด) ซึ่งวินกลุ่มเป้าหมายสนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มิถุนายน 2567 โดยเมื่อครบช่วงเวลาเช่าซื้อ 5 ปีแล้ว เฉพาะตัวจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto จะเป็นของผู้เช่าซื้อ แต่ไม่มีแบตเตอรี่ที่จะต้องซื้อต่างหากในช่วงเวลานั้น

สำหรับผู้โดยสารบีทีเอสก็จะมีประสบการณ์การเดินทางแบบ First Mile to Last Mile ด้วยพลังงานสะอาด คือสามารถเดินทางออกจากบ้านจนถึงกลับเข้าบ้านด้วยการบริการขนส่งสาธารณะที่ใช้ไฟฟ้าตลอดเส้นทาง

สุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้บริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีความเห็นตรงกันว่า นับเป็นอีกความก้าวหน้าทางธุรกิจที่สำคัญของ บีทีเอส กรุ๊ปฯ และวินโนหนี้ ในการร่วมเริ่มต้นธุรกิจให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ผ่านเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติของวินโนหนี้ ที่ครอบคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเฉพาะสถานีที่จะตั้งเพิ่มเติมตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อให้เกิดความสะดวกและเพียงพอต่อการใช้งานมากขึ้น

สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดตัว “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Pinto (ปิ่นโต)โดยมี วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กวิน กาญจนพาสน์ และ สุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้บริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มาเยี่ยมชมการสาธิตการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่

อย่างไรก็ตาม Rider อื่น ๆ ก็สามารถใช้บริการวินโนหนี้ได้ โดยวินโนหนี้เป็นสตาร์ทอัพภายในองค์กรของบางจากฯ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 ด้วยการนำนวัตกรรมพลังงานสีเขียวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มายกระดับคุณภาพชีวิตของจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ ให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ตอบโจทย์การเข้าสู่ธุรกิจรถไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทบางจาก และเป็นการสร้าง Net Zero Ecosystem หรือระบบนิเวศเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของบริษัทฯ ในปี 2593

วินโนหนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากวันเริ่มต้นดำเนินงานจนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ใช้งานกว่า 1,000 ราย ผ่านเครือข่ายสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติจำนวน 120 สถานี ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งถือเป็น Win-Win Solution ใน 3 ด้าน คือ

1.ช่วยให้ชีวิตผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ดีขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการเช่าใช้จักรยานยนต์ ประมาณเดือนละ 4,000 บาท หรือ48,000 บาทต่อคนต่อปี รวม 48 ล้านบาทต่อปี

2.โลกดีขึ้น จากการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด วินโนหนี้วิ่งใช้งานแล้วมากกว่า 42 ล้านกิโลเมตร ลดปริมาณ
การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ไปประมาณ 2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ยังช่วยลดมลภาวะทางอากาศ ลดการเกิดฝุ่น PM2.5 และมลภาวะทางเสียง

3.ประเทศดีขึ้น จากการที่วินโนหนี้ พัฒนาโดยคนไทยในประเทศไทย ทำให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรม การพัฒนาคนและการสร้างงานในประเทศ

ที่เปลี่ยนแบตฯ จักรยานยนต์ไฟฟ้า Pintoใต้สถานีบีทีเอสหมอชิต.

“การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตอีกมาก หากได้รับการสนับสนุนและผลักดันจากหน่วยงานภาครัฐในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การสนับสนุนค่าพลังงานไฟฟ้าในราคาพิเศษสำหรับสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ การจัดตั้งหน่วยงานกลางแบบ One Stop Service ในการขออนุมัติการติดตั้งมิเตอร์ หรือ การพิจารณากฏหมาย เช่น กฎหมายขนส่ง การจดทะเบียนป้ายเหลือง การจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า กฏหมายเกี่ยวกับวินเพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า รวมถึงการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนและการทำ Carbon Credit Certificate และมาตรการสนับสนุนอื่นๆ การทำประกันภัยสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า การให้ใช้พื้นที่หน่วยงานภาครัฐหรือกรุงเทพมหานคร เพื่อทำจุดติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยไม่คิดค่าเช่าพื้นที่หรือในอัตราพิเศษ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงทุนวิจัยและพัฒนา ฯลฯ สำหรับ วินโนหนี้ ที่มุ่งมั่นเป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ Battery as a Service (BaaS) สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานจากกว่า 1,000 รายและสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 120 แห่ง ณ สิ้นปี 2566 เป็นผู้ใช้งาน 60,000 ราย และสถานี 3,000 แห่งในปี 2573 เดินหน้าส่งเสริมการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ สนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม รวมถึงรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของประเทศและของโลก ผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่ ดีต่อเราและต่อโลก” ชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

 

You Might Also Like