5-6 กันยายน 2564…โลกมาไกลในแง่ของการเลือกรับประทานอาหาร ตั้งแต่ผลไม้ดิบและถั่วจากร้านค้าออนไลน์อย่าง Nuts About Life ไปจนถึงขนมปังหั่นบาง ๆ ไปจนถึงชีสไร้นม วิวัฒนาการของอาหารเกิดขึ้นมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนประชากรมนุษย์เพิ่มทวีคูณ คำถามเรื่องความยั่งยืนและการผลิตที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมจึงถูกตั้งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์นม
เพื่อจัดการกับปัญหาที่เพิ่มขึ้น นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้พัฒนาวิธีการใหม่และสร้างสรรค์ เพื่อตอบโจทย์จานอาหารหลากสี ขณะเดียวกันก็มั่นใจได้ว่า มีเพียงพอสำหรับทุกคนโดยไม่กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ
ต่อไปนี้คือ อาหารบางอย่างที่ผู้บริโภคน่าจะมีในจาน รวมถึงร้านอาหารรสเลิศใกล้บ้านในอนาคตอันใกล้
1. เนื้อที่ผลิตจากห้องแล็บ
ตัวอย่าง แกงเขียวหวาน และกระเพาเนื้อไร้เนื้อ ลืมรสชาติอาหารเจ และถั่วเหลืองได้เลย…ที่มา คลิกที่ภาพ
งานวิจัยเรื่องการใช้สเต็มเซลล์จากสัตว์ มาปลูกเป็นเนื้อเยื่อภายในห้องปฏิบัติการ จากนั้นทำเป็นเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภคได้ เนื้อสัตว์ดังกล่าวหรือที่เรียกว่าเนื้อเพาะเลี้ยงได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดการใช้ที่ดินและน้ำได้อย่างมาก นอกจากเนื้อสัตว์ที่ปลูกในหลอดทดลองในห้องปฏิบัติการแล้ว นักวิทยาศาสตร์ยังพยายามทำเนื้อมังสวิรัติที่มีรสชาติเหมือนของจริง โดยใช้โปรตีนจากพืช ในไม่ช้า ผู้บริโภคอาจได้ไก่ทอดจากแล็บที่ร้าน KFC ใกล้บ้านก็เป็นได้
2. สาหร่าย
ด้วยสาหร่ายอย่างสาหร่ายสไปรูลิน่า สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน และคลอเรลล่า ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในอาหารเสริมสำหรับคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะคิดว่าสาหร่ายจะกลายเป็นส่วนสำคัญของอาหารของผู้คนในไม่ช้านี้ สาหร่ายไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ แต่ยังผลิตในมหาสมุทรได้ง่าย ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้ที่ดินและน้ำ นอกจากนั้นยังพบว่าสาหร่ายบางชนิดมีกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นสาเหตุที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนมองว่าเป็น Superfood
3. สัตว์ปีกทั้งแมงและแมลง
จากจิ้งหรีดพันธุ์ทองดำ ทองแดง และสดิ้ง ซึ่งมีโปรตีนสูงมากกว่าเนื้อสัตวื ได้นำมาเป็นส่วนประกอบของคุ้กกี้ และผงเครื่องดื่ม จิ้งหรีด โดยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี…ที่มา คลิกที่ภาพ
แม้ตอนแรกอาจดูเป็นความคิดไม่ค่อยดี แต่การวิจัยพบว่าแมลงบางชนิด เช่น จิ้งหรีด หนอนใยอาหาร และตั๊กแตน แท้จริงแล้วมีโปรตีนปริมาณเท่าเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ การเติบโต แมลงต้องการพลังงาน ใช้ที่ดินและน้ำน้อยกว่ามาก รวมทั้งยังปล่อยคาร์บอนต่ำอีกด้วย มีหลายๆประเทศ ทั่วโลกมองว่าแมลงเป็นอาหารอันโอชะ เช่น หนอนผีเสื้อในแอฟริกา จิ้งหรีดในไทย และตัวต่อในญี่ปุ่น
แน่นอน หากแมลงถูกใช้เป็นอาหารในยุโรปและอเมริกา ก็ต้องทำให้เป็นอาหารยอดนิยมให้ได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง และต้นทุนผลิตต่ำ แมลงอาจกลายเป็นอาหารอันโอชะใหม่ไปทั่วโลกในไม่ช้า
นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ที่นักวิจัยพินิจพิเคราะห์อย่างจริงจัง ภายใต้คำมั่นสัญญาว่าจะแก้ไขวิกฤตที่ใกล้เข้ามาของการต้องเลี้ยงดูประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยทรัพยากรจำกัด และด้วยความเร็วของการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวล้ำถึงขีดสุด อีกไม่นานนักผู้บริโภคอาจมีทางเลือกในการทำอาหาร 3 อย่างนี้ โดยใช้ 3D Print ในบ้านของพวกเขาเองก็ได้
ที่มา
