CSR

อีกทางเลือกของครอบครัว สร้างความอบอุ่น กำลังใจให้เยาวชนในสถานพินิจ

12-16 เมษายน 2562… กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับ เอไอเอส โดย เอไอเอส ไฟเบอร์ นำเทคโนฯ ประยุกต์ใช้ใน “โครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบออนไลน์” เพื่อความสะดวกให้ครอบครัวได้เยี่ยมเยียนเยาวชนมากขึ้น โดยไม่ต้องเดินทาง

ในวันครอบครัว หรือวันใดๆ หากคิดถึงอยากพบพูดคุยกับคนในครอบครัว แต่อยู่คนละพื้นที่ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทาง

ไม่ต่างจากผู้ปกครองที่มีเยาวชนในสถานพินิจ 19 แห่งทั่วประเทศขณะนี้

สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เล่าถึงบทบาทหน้าที่หนึ่งของกรมฯ ให้ฟังว่า ปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งของ
การบำบัด แก้ไข ฟื้นฟูเด็กและเยาวชน คือ การให้ความสำคัญเกี่ยวกับสถาบันครอบครัว และจากปัจจัยในประเด็นนี้ กรมพินิจฯ จึงมีโครงการญาติเยี่ยมทางไกลให้กับเด็กและเยาวชนที่อยู่ในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้พบปะกับผู้ปกครองหรือญาติ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็น 2 ยุคที่ทางกรมฯพยายามทำเรื่องนี้ให้มีความสะดวกมากขึ้น

ยุค 1 ผู้ปกครองต้องเดินทางมายังศูนย์ฝึกฯ ซึ่งศูนย์ฝึกในแต่ละที่ค่อนข้างห่างไกล เช่น ศูนย์ฝึกฯ เขต 7 เชียงใหม่ จะดูแลพื้นที่ประมาณ 7 – 8 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นแม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ หรือน่าน 
เป็นต้น หรือ ศูนย์ฝึกฯ เขต 2 ราชบุรี ที่มีพื้นที่หลายจังหวัดในความดูแลเช่นกัน ทำให้การมาเยี่ยมเด็กและเยาวชนในแต่ละครั้ง ผู้ปกครองต้องใช้ต้นทุนในการมาเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหารต่างๆ

ยุค 2 ปัจจุบันใช้ระบบ VDO Conference ที่ทำให้การเยี่ยมญาติมีความสะดวกมากขึ้น เช่น ถ้าผู้ปกครองอยู่แม่ฮ่องสอน อยากมาเยี่ยมที่จังหวัดเชียงใหม่ เขาไม่ต้องเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่
อีกต่อไป แต่ก็ต้องเดินทางไปยังสถานพินิจฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และนั่งในห้อง Conference ของสถานพินิจฯ จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมทั้งเชื่อมต่อด้วย Skype ไปยังศูนย์ฝึกฯ ที่เชียงใหม่ แล้วพบปะกันในระบบของ Conference หรือจอภาพ

“ไม่ว่าจะเป็นยุค 1 หรือยุค 2 ก็ยังไม่ได้รับความสะดวกสำหรับผู้ปกครองที่ยังต้องเดินทางมาใช้ระบบ VDO Conference ของสถานพินิจฯ ที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองของแต่ละจังหวัด มีตัวอย่างผู้ปกครองอยู่น่าน จ่ายค่าเช่ารถ 5,000 บาท มาเยี่ยมลูกที่สถานพินิจเชียงใหม่ บางคนจ่ายค่านั่งรถโดยสารมา ก็ต้องมาจ่ายค่าที่พักค่ากิน หรือบางสถานพินิจอยู่นอกเมือง ก็ต้องมาจ่ายเงินนั่งรถต่อออกไปอีก เป็นค่าใช้จ่ายที่มาก
อยู่และไม่สะดวกกับครอบครัว”

การเข้ามาของเอไอเอสและเอไอเอส ไฟเบอร์ ร่วมกรมพินิจฯ ในการจัดทำ “โครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบออนไลน์” ขึ้น จึงเป็นยุคที่ 3 ที่ช่วยแก้ไขัญหาทั้ง 2 ยุค

สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (กลาง) กับนวัตกรรมล่าสุดจาก เอไอเอส ไฟเบอร์ โดยศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ และ อมรรัตน์ ชาญปรีชญา หัวหน้าส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส

ยุค 3 ผู้ปกครองสามารถเยี่ยมเด็กและเยาวชนแบบระบบไร้สาย และใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ปกครองเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเอง โดยเชื่อมต่อกับศูนย์ฝึกฯ โดยตรง ส่งผลให้ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของประเทศไทย หรือของโลก หรือผู้ปกครองติดภารกิจเรื่องการทำงานในพื้นที่ห่างไกลก็สามารถติดต่อกับบุตรหลานได้

สหการณ์ ยกตัวอย่าง มารดาของเด็กทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลี เมื่อนำระบบนี้มาใช้ ทำให้มารดาของเด็กสามารถติดต่อกับเด็กได้ ช่วยเรื่องใกล้ชิดกับครอบครัวมากขึ้น มีโอกาสสื่อสารกันมากขึ้น และมีโอกาสสร้างความรักความผูกพันระหว่างครอบครัว

“เราเริ่มทดลองมาแล้ว 2 เดือนใน 2 หน่วยงานในสังกัดกรมพินิจฯ คือ ศูนย์ฝึกฯ เขต 2 ราชบุรี และศูนย์ฝึกฯ เขต 7 เชียงใหม่ และจากการทำลอง พบว่าผลตอบรับของผู้ปกครองอยู่ในระดับพึงพอใจมาก เพราะทำให้สามารถเยี่ยมเด็กและเยาวชนได้บ่อยครั้งขึ้น และลดต้นทุนต่างๆ ในการเดินทางมาเยี่ยม มีการเยี่ยมเพิ่มมากขึ้น 30% โดยเยาวชนแต่ละคนจะได้สิทธิคุยกับผู้ปกครองอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองบางคนคิดว่าต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งจริงๆ ไม่ต้องเสียงค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ซึ่งส่วนนี้สถานพินิจฯ จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองรับรู้ถึงความสะดวกที่มากขึ้น”

 

ศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส อธิบายถึงนำเทคโนฯ เครือข่ายไฟเบอร์แท้ 100% (ที่ลากสายเข้าสถานพินิจฯ แต่ละแห่ง) และ SMS พร้อม Skype for Business มาประยุกต์ใช้ใน “โครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบออนไลน์” โดยการใช้หลัง 4 ขั้นตอน ซึ่งถือเป็นระบบความปลอดภัยของครอบครัวและเยาวชนในสถานพินิจ  ก็ใช้เพียง 3 คลิก หลังระบบ SMS ที่เชื่อมต่อกับ Solutions Skype for Business ที่จะส่งแจ้งเตือนไปยังญาติๆ กด Link จาก SMS จะเข้าหน้าจอ Skype for Business แล้วทำต่อเนื่อง 3 ขั้นตอน

  1. หน้าจอจะมีปุ่มบน ปุ่มล่าง ให้กดปุ่มล่างคือ Gust
  2. กดปุ่ม Next
  3.  ระบบ Connect

จากนั้นระบบเยี่ยมบุตรหลานผ่านทางมือถือในลักษณะ VDO Call ได้ทันที ซึ่งสามารถรองรับการโทรเยี่ยมได้สูงสุดถึงครั้งละ 5 สาย พร้อมๆ กัน จากหลากหลายสถานที่ ช่วยให้ผู้ปกครองที่ไปทำงานต่างจังหวัดหรือแม้แต่ต่างประเทศสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก รวมไปถึงชุดคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยอีกด้วย

อมรรัตน์ ชาญปรีชญา หัวหน้าส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส อธิบายเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นจากที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ร่วมกับ เอไอเอส โดย เอไอเอส ไฟเบอร์ ถือเป็นการทำงานครอบคลุมเรื่องครอบครัวให้กับเยาวชนอีกกลุ่มหนึ่ง เพิ่มเติมจากที่เอไอเอสทำงานครอบครัวอย่าง “สานรัก” ยาวนานตลอด 25 ปี

“สอดคล้องกับแนวคิดการให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวของเอไอเอส เพราะสามารถเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ของครอบครัว เป็นสื่อกลางในการส่งมอบความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย และกำลังใจ
ช่วยให้เยาวชนที่อยู่ในสถานพินิจมีพลังในการฟันฝ่าอุปสรรคและพัฒนาตัวเอง พร้อมกลับมาเป็นกำลังสำคัญของชาติอีกครั้ง”

นับเป็นการตอบยุทธศาสตร์ Digital Life Service Provider ของเอไอเอส พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของไทย ทั้งเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ Mobile, อินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ความเร็วสูง หรือ AIS Fibre และบริการดิจิทัล เพื่อสนับสนุนคนไทยให้ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เสริมความแข็งแกร่งภาครัฐและภาคเอกชน รวมไปถึงการพัฒนา และออกแบบโซลูชันเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานเฉพาะของแต่ละหน่วยงาน

ขั้นตอนผํู้ปกครองตั้งแต่เริ่มจากลงทะเบียนที่กรมพินิจฯ

You Might Also Like