BIODIVERSITY & REGENERATIVE

รวมพลังตลาดทุน ภาคธุรกิจ ภาคสังคม ภาคบันเทิง เสนอแนวคิดแก้ปัญหาสังคม 5 ด้าน

19 มิถุนายน 2562… SET Social Impact Day 2019 ภายใต้แนวคิด “Partnership for Impact Co-creation ออกแบบ ทางออก มหาชน” สร้างจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคธุรกิจและภาคสังคมอย่างเป็นรูปธรรม


ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจจะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน หากการเติบโตดังกล่าวอยู่ท่ามกลางปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม

“กระบวนการผนวกแนวคิดด้านความยั่งยืนในมิติที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล หรือ ESG  เข้าเป็นองค์ประกอบหลักในการดำเนินธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยนอกเหนือจากการประกอบธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมแล้ว ทุกภาคส่วนสามารถร่วมสร้างโมเดลที่เป็นนวัตกรรม โดยออกแบบความร่วมมือ ขยายมิติของพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนให้เกิดเป็นรูปธรรมและเติบโตไปพร้อมกัน หรือ Inclusive Growth”

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ บริษัท ไลฟ์อีส กรุ๊ป จำกัด โครงการพอแล้วดี รวมทั้งองค์กรภาคธุรกิจและภาคสังคม จัด SET Social Impact Day 2019 ปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด “Partnership for Impact Co-creation ออกแบบ ทางออก มหาชน” เวทีสร้างจุดเชื่อมต่อการทำงานระหว่างภาคธุรกิจและภาคสังคมให้เกิดพลังและเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน พร้อมออกแบบการทำงานร่วมกันและเดินหน้าแก้ไขปัญหาสังคมใน 5 ด้าน คือ การศึกษา สุขภาพ สิ่งแวดล้อม กลุ่มเปราะบาง รวมถึงการพัฒนาชุมชนและการเกษตร เพื่อสร้างความสมดุลให้เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ดร.ภากรอธิบายถึงความแตกต่างของงานในปีนี้ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องในทุกมิติของสังคม ภายใต้วิสัยทัศน์ To Make the Capital Market “Work” for Everyone ดังนั้น การจัดงานในปีนี้จึงขยายผลจากทุกปีที่ผ่านมา จากเดิมที่สร้าง SET Social Impact Platform ให้ทำหน้าที่เป็น Impact Multiplier เชื่อมตลาดทุนและภาคธุรกิจให้ทำงานร่วมกับภาคสังคมเพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

ในปีนี้ได้ขยายบทบาทของแพลตฟอร์มให้มีกลไกเพิ่มพลังตัวคูณการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมใน 2 มิติ คือ ขยายพันธมิตรและขยายพื้นที่ โดยมิติด้านการขยายพันธมิตร ใช้กลยุทธ์ 4E

1.Entertainment การขยายพันธมิตรสู่ภาคศิลปินในฐานะผู้มีอิทธิพลและมีบทบาทต่อผู้บริโภคเพื่อผลักดันการบริโภคอย่างยั่งยืน
2.Expert การขยายจำนวนพันธมิตรในตลาดทุนและผู้ทรงคุณวุฒิจิตอาสาที่ร่วมอุทิศความรู้ความสามารถเพื่อสร้างนักธุรกิจเพื่อสังคมรุ่นใหม่ให้เข้มแข็งและขับเคลื่อนธุรกิจยุคหน้าได้
3.Education ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาขยายความรู้และแรงบันดาลใจเกี่ยวกับธุรกิจเพื่อสังคม
4.Exchange Information การขยายความจริงเกี่ยวกับปัญหาสังคมร่วมกับ Media Platform สื่อมวลชนที่นำเสนอเรื่องความยั่งยืน และมิติด้านการขยายพื้นที่ ได้แก่ การสร้างตัวคูณการทำงานร่วมกันในท้องถิ่น (Local-to-Local sustainable growth) ขับเคลื่อนความยั่งยืนโดยใช้พลังของภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา และภาคสังคมในจังหวัดต่าง ๆ

 

ไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า นอกจากการดำเนินงานหลักของ FETCO ที่เป็นตัวแทนภาคเอกชนทุกองค์กรในตลาดทุนไทย ร่วมกำหนดทิศทางและเป้าหมายระยะยาวในการพัฒนาตลาดทุนไทย โดยเป็นกลไกสำคัญร่วมขับเคลื่อนนโยบายระหว่างรัฐและเอกชนแล้ว การพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืนเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจของสมาชิก ควบคู่การสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงพร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกิจกรรม SET Social Impact Day ในปีนี้ และเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันจะแสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทยที่เข้มแข็งและมีเป้าหมายชัดเจนต่อการพัฒนาสังคมไทย

เอื้อมพร ปัญญาใส นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) กล่าวว่า maiA มีสมาชิกเป็นบริษัทขนาดเล็กและกลาง แต่มีศักยภาพและอัตราการเติบโตสูงถึง 162 บริษัท ตลอด 3 ปี ได้ร่วมทำงานบนแพลตฟอร์ม SET Social Impact เพื่อสร้างธุรกิจเพื่อสังคมให้เป็น Entrepreneurship ที่เข้มแข็งและทำงานสร้างประโยชน์ให้สังคมในวงกว้าง ผ่านโค้ชจิตอาสาที่เป็นผู้บริหารระดับสูงที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการธุรกิจ มาร่วมให้ข้อแนะนำเทคนิคการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างใกล้ชิดในโครงการ SET Social Impact Gym

ทั้งนี้ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงาน SET Social Impact Day จะเป็นเวทีของภาคธุรกิจและสังคมที่จะผนึกกำลังและกระตุ้นความร่วมมือของคนไทยทุกคน รวมถึงสร้างพันธมิตรให้ร่วมออกแบบทางออก แก้ไขปัญหาสังคมในวงกว้าง ซึ่งจะเป็นนวัตกรรมทางออกที่บริษัทหรือภาคธุรกิจสามารถมีส่วนร่วม และปรับใช้ในห่วงโซ่คุณค่าขององค์กรได้

นภ พรชำนิ CEO บริษัท ไลฟ์อีส กรุ๊ป จำกัด (LIFEiS) เชื่อว่าสิ่งที่ทำในวันนี้จะส่งผลถึงอนาคต ถ้าอยากให้สังคมในอนาคตดี เราต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้

“ไลฟ์อีส เสมือนเป็นตัวแทนกลุ่มศิลปิน​ นักคิด​ และ​นักกิจกรรม อยากชวนทุกคนในสังคมให้มีความเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย โดยเราจะเชื่อมต่อกันด้วยศักยภาพที่เรามี ระหว่างภาคสังคม ภาคบันเทิง ภาคธุรกิจ เพื่อให้คนไทยทุกคนเห็นความมหัศจรรย์ของความร่วมมือร่วมใจ และเป็นแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือสังคมต่อๆ ไป”

การได้ทำงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง โดยแต่ละภาคส่วนมีจุดแข็งในการทำงานและความตั้งใจ ถ้าเราได้ทำงานร่วมกันบนแพลตฟอร์มของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นพลังและเพิ่มพื้นที่ของสังคมที่จะได้รับประโยชน์มากยิ่งๆ ขึ้น

ดร. ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการโครงการพอแล้วดี กล่าวว่า ในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมนั้น ภาคธุรกิจมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง การสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ทุกส่วนมีโอกาสเจริญเติบโตร่วมกันนั้น

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีความสำคัญยิ่งต่อการกำหนดกลยุทธ์ และนี้คือเหตุผลที่ “พอแล้วดี” ถือเป็นเกียรติที่ได้ร่วมในการ “พัฒนา” ทั้งคนและธุรกิจ ในหลักสูตรต่างๆ และ ร่วมออกแบบ ทางออก ให้กับความยั่งยืน ในงานครั้งนี้

 

“SET Social Impact Day 2019 ออกแบบ ทางออก มหาชน” ถือเป็นรูปธรรมของการเชื่อมความร่วมมือในการออกแบบแก้ไขปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่

1.Impact Seminar การเสวนาอย่างมีส่วนร่วมเพื่อออกแบบโมเดลที่ Win Win ด้วยการดึงศักยภาพและไอเดียของผู้ร่วมงานเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการเสวนา โดยมี 40 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและมีชื่อเสียงจากทั้งภาคตลาดทุน ภาคบันเทิง และภาคสังคม ที่เต็มเปี่ยมด้วยพลัง โดยมีเนื้อหาครอบคลุม 5 ด้านปัญหาและทางออก ได้แก่

  • การศึกษาไทย (Education)
  • ปัญหาสุขภาพคนไทย (Heart & Health) โดยเฉพาะปัญหาที่ถูกมองข้าม พร้อมหาทางออกทั้งเรื่องระบบ บุคลากร และกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
  • สิ่งแวดล้อม (Environment) ในมิติของผู้บริโภคและหาวิธีขยายผลลัพธ์
  • กลุ่มเปราะบาง (Vulnerable Group)
  • การออกแบบวิถีชุมชนและเกษตรยั่งยืน (Agriculture & Community Development) ทางเลือกหนึ่งในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพของเกษตรกรรายย่อย

2.Impact Gallery 60 บูธผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคมที่นำเสนอนวัตกรรมและวิธีการทางธุรกิจในรูปแบบที่สร้างสรรค์ โดยแบ่งเป็น 5 มิติปัญหาและทางออก ได้แก่ Education, Heart & Health, Environment, Vulnerable Group และ Agriculture & Community Development พร้อมเปิดโอกาสในการจับคู่สร้างความร่วมมือ สร้างเครือข่าย และเป็นพื้นที่ในการเจราจากับทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาสังคม ผลักดันให้เกิดการทำงานและร่วมพัฒนาศักยภาพธุรกิจเพื่อสังคมในอนาคต สร้างผลลัพธ์เชิงบวกแก่คนไทยทั่วประเทศ

3.Impact Market สินค้าและบริการที่มีคุณค่าและความหมาย ผู้ร่วมงานสามารถร่วมสนับสนุนธุรกิจเพื่อสังคมผ่านการอุดหนุนสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม และความเข้มแข็งให้กับชุมชน ผู้ด้อยโอกาส ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสังคมไทยร่วมกันทั้งผู้ผลิตและผู้ซื้อ

SET Social Impact Day เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ SET Social Impact Platform ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาขึ้นต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงระหว่างภาคธุรกิจและภาคสังคม จากการนำเสนอใน Online Platform สู่การทำงานในรูปแบบ Offline ทั้งเสวนา การสร้างเครือข่าย การเจรจาธุรกิจ และการนำเสนอการทำงานในส่วนภาคธุรกิจและภาคสังคม

ในพื้นที่นี้ บริษัทจดทะเบียน บริษัทจำกัด ทั้งที่เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ จะได้ประโยชน์จากการร่วมงาน ขยายเครือข่าย และความรู้ สร้างโมเดลการทำงานที่ยั่งยืนร่วมกับพันธมิตรใหม่ ๆ รวมทั้งภาคราชการ สมาคม มูลนิธิ ธุรกิจเพื่อสังคม หน่วยงานภาคสังคม ประชาชนทั่วไปที่สนใจบริบทของการสร้างความยั่งยืน เพื่อการต่อเชื่อมและขยายผลการพัฒนาสังคมได้อย่างกว้างขวาง

งานดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 17-18 กรกฏาคม 2562 เวลา 8.30-17.00 น. อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ รายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนร่วมงานที่ www.setsocialimpact.com หรือสอบถาม SET Contact Center 0 2009 9999

เนื้อหาเกี่ยวข้อง

 

You Might Also Like