ALTERNATIVE

แบรนด์ไทยในระดับโลก นักลงทุนต่างประเทศสนใจ แล้วเราเกี่ยวอะไรด้วย ?

17 ธันวาคม 2562…เช้าถึงค่ำ Product ในตลาดทุนเกี่ยวข้องกับชึวิตเราทุกคน และยังมีพนักงาน คนงานเกี่ยวเนื่องไม่ต่ำกว่า 1 ล้านอัตราใน 700 บจ.ใน SET มีซัพพลายเชนที่เป็น SME จำนวนมากที่เป็นพาร์ทเนอร์ คู่ค้ากับ 700 บจ. เก็บภาษีเงินได้ไม่ต่ำกว่า 30% มีคนเปิดบัญชีล้านกว่าบัญชี มีเงินลงทุนจำนวนหนึ่ง


ดร.กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคยแบ่งปันข้อมูลในงาน TBCSD เรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ถือเป็นเป้าหมายหนึ่งของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมย้ำว่า ตลท.ใช้ตัวย่อ ESG มีไกด์ไลน์ มี Process Model ตั้งต้นให้บจ. ต่อมาตลท.ส่งเสริมให้บจ. Impliment นำ ESG (Environment,Social,Governance) ไปใช้ในองค์กร

“เราแนะนำให้บจ.คลี Value Chain ดู Stakeholder ที่อยู่ใกล้ไไกล มีการทำ Disclose เปิดเผยข้อมูล ต้องการให้เห็นการทำงานผูก ESG นอกจากนี้มีเรื่อง CG,THSI,SET Awards เป็นกรอบ่วยส่งเสริมความยั่งยืน อีกทั้งบจ.ของเราอยู่ในระดับโลก DJSI นักลงทุน กองทุนรวมต่าง ๆ สนใจในเรื่องความยั่งยืนมาก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีที่จะแชร์เรื่องนี้”

สิ่งเหล่านี้คือหน้าที่ของแบรนด์ไทยข้างต้น และทุกแบรนด์ที่อยู่ในตลท. จะต้องดำเนินการ เพราะการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็น 1 ใน 4 เรื่อง เป็นความน่าสนใจของหุ้นไทย ในสายตานักลงทุนต่างประเทศ

ทั้งนี้ SET Note ฉบับส่งท้ายปี ขอจัดอันดับขนาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกันทั่วโลก เพื่อบันทึกเป็นสถิติ และติดตามการเปลี่ยนแปลงในปีต่อๆ ไป โดยใช้ market capitalization ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับ

ในจำนวน 27 กลุ่มอุตสาหกรรม หุ้นไทยมีขนาดใหญ่ติด top 10 ของโลกอยู่ 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มสนามบิน กลุ่มการแพทย์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ดังนี้

· AOT มี market capitalization ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มสนามบิน

· BDMS มี market capitalization ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในกลุ่มการแพทย์

· SCC มี market capitalization ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลกในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

เมื่อพิจารณาในระดับอาเซียน หุ้นไทยมีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนใน 7 อุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มสนามบิน กลุ่มการแพทย์ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มสินเชื่อเพื่ออุปโภคบริโภค กลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงแรม และกลุ่มค้าปลีก

อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนหุ้นที่แตกต่างกันในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม จึงคำนวณอันดับของหุ้นไทยเทียบกับจำนวนหุ้นทั่วโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น พบว่า หุ้นไทยใหญ่ติดอันดับ top decile หรือ อยู่ในกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 10% แรกของอุตสาหกรรมใน 17 กลุ่มอุตสาหกรรม  ซึ่งด้วยศักยภาพของธุรกิจไทย โอกาสในการเติบโตจะสะท้อนในราคาหุ้น และ market capitalization ที่เพิ่มขึ้น และมีอันดับที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับหุ้นทั่วโลกในปีต่อๆ ไป

 

 

You Might Also Like