ALTERNATIVE

“สมาพันธ์สนับสนุนการดื่มที่บ้าน” ชูนโยบายดื่มอย่างรับผิดชอบ

3 พฤษภาคม 2563…เกิดโดย 7 องค์กรตัวแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นำโดยชมรมผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายคราฟท์เบียร์ ชมรมผู้ประกอบการร้านคราฟท์เบียร์ สมาคมผู้ประกอบการไวน์ไทย สมาคมผู้ผลิตไวน์ผลไม้และสุราพื้นบ้านไทย สมาคมบาร์เทนเดอร์ประเทศไทย ชมรมเบียร์บรูเออร์แห่งประเทศไทย และชมรมผู้ค้าและตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์และวัตถุดิบทำเบียร์

หลังการประกาศอนุญาตให้จำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันนี้ พบว่าช่วง 11.00 – 14.00 น. ที่เริ่มมีการอนุญาตขายรอบแรก มีประชาชนต่างพากันซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ทาง 7 องค์กรตัวแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นำโดยชมรมผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายคราฟท์เบียร์ ชมรมผู้ประกอบการร้านคราฟท์เบียร์ จึงมีมติเห็นควรให้จัดตั้งสมาพันธ์สนับสนุนการดื่มที่บ้าน ในชื่อย่อ สสบ. ภายใต้โลโก้ คนชูแก้วใต้ชายคา เพื่อสนับสนุนการทำงานของ สสส ตามแคมเปญ #สัญญาว่าจะอยู่บ้าน โดยทางกลุ่มถือเป็นกระบอกเสียงจากคนที่เข้าใจความหวังดีของภาครัฐและเข้าใจสิทธิและเสรีภาพของผู้ดื่ม จึงต้องการสื่อสารผ่านภาษาของคนหัวอกเดียวกัน โดยคาดว่าจะได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ สื่อมวลชน และภาคประชาชน ในการรณรงค์แคมเปญที่สร้างสรรค์นี้

“วัตถุประสงค์ของสมาพันธ์สนับสนุนการดื่มที่บ้านคือ การรณรงค์สร้างทัศนคติในการดื่มอย่างมีสติและความรับผิดชอบ ดื่มเพื่อความสุนทรีย์มากกว่าเพื่อเมา ซึ่งเป็นการรณรงค์ที่ต่างจากที่เคยมีมาตลอด เราจะชูนโยบายการดื่มที่ไม่สร้างปัญหากับสังคมหรือสร้างความเสี่ยงให้กับบุคคลอื่นในสังคม โดยแคมเปญที่ทำจะมุ่งเน้นให้กลุ่มผู้ดื่มต้องรับผิดชอบตัวเองและรับผิดชอบต่อสังคม โดยหากผู้ดื่มให้ความร่วมมือกับแคมเปญจนส่งผลให้เห็นถึงความแตกต่างในเชิงสถิติแบบวัดผลได้แล้ว ก็เชื่อว่าจะสามารถสร้างความเชื่อใจและการให้เกียรติ รวมถึงการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันต่อกลุ่มคนที่คิดต่าง หรือคนที่ต่อต้านการดื่มได้”

อาชิระวัสส์ วรรณศรีสวัสดิ์ ตัวแทนจากชมรมผู้นำเข้าและจำหน่ายคราฟท์เบียร์ ขยายความต่อว่าทางกลุ่มคาดหวังว่าอยากให้สังคมรับรู้การมีอยู่ของกลุ่มคนดื่มที่ไม่ได้ก่อปัญหาให้สังคม ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะถูกตราหน้าเหมารวมว่าเป็นคนบาปแต่ก็อยากให้ทุกคนให้เกียรติกันและมองถึงสิทธิและเสรีภาพเฉพาะบุคคล เพราะในขณะเดียวกันหากมองในแง่เศรษฐกิจ ภาครัฐก็ได้เงินนำส่งภาษีจากภาคธุรกิจนี้ไปปีละกว่าหลายแสนล้านบาท

“เราต้องขอขอบคุณภาครัฐ และสื่อมวลชน ที่ฟังเสียงผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลบภาพการเป็นผู้ร้ายในสังคม ซึ่งทางชมรมได้วางแผนที่จะขับเคลื่อนและรณรงค์แคมเปญอื่นๆ เพิ่มเติม ภายใต้นโยบาย “การดื่มอย่างรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม” และจะมีการปลูกฝังเรื่องเมาไม่ขับ ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่สร้างความรำคาญ รับผิดชอบชีวิตตนเองเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี และรับผิดชอบต่อสังคม โดยเราหวังว่าภาษาเดียวกันที่เราคุยกันกับนักดื่ม จะสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้น และเป็นทิศทางใหม่ๆ ในการทำแคมเปญร่วมกับภาครัฐในอนาคต ” อาชิระวัสส์ กล่าวทิ้งท้าย

 

You Might Also Like