NEXT GEN

หลายบริษัทกำลังทํางานเพื่อลดปริมาณการใช้น้ำในการผลิต

17 พฤศจิกายน 2563…ขณะที่รายงานขององค์กรเกี่ยวกับความเสี่ยงเรื่องน้ำเพิ่มขึ้น, แต่การกระทำอยู่ไกลความจริง หลังการขาดแคลนที่เพิ่มขึ้นของทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของโลก ข้อมูลที่นำเสนอนี้ เป็นแนวโน้ม และแสดงให้เห็นว่าภาคการเงินกำลังตื่น เพื่อแก้ไขวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพ

มองออกไปบนถนนที่มีฝนตกพรำของเดือนพฤศจิกายนในกรุงลอนดอน  มันเป็นเรื่องยากที่จะหยั่งรู้ถึงความรุนแรงของวิกฤติน้ําทั่วโลก แต่ขณะที่ Laurie Goering ของ Thomson Reuters รายงานข้อมูลสรุปของเดือนนี้ น้ำจืด กำลังกลายเป็นทรัพยากรที่หายากอย่างรวดเร็วตามข้อมูลของสหประชาชาติ ขณะนี้ 1 ใน 4 ของประชากรของโลกใช้น้ำเร็วกว่าแหล่งธรรมชาติสามารถผลิต และจะเพิ่มมากขึ้นโดยผลกระทบที่เลวร้ายของ Climate Change ประชากรที่เพิ่มขึ้น, การเกษตรที่ขยายตัว และประชากรที่เข้าสู่เมืองมากขึ้น

ความขัดแย้งระหว่างคนเมือง และการเกษตรเป็นหลักฐานชัดเจนที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ําในชิลี เป็นสถานที่ ๆ เกษตรกรผู้ปลูกอะโวคาโดกำลังรดน้ําผลผลิตของพวกเขาทุกวัน โดยอาศัยน้ําดื่มจากรถบรรทุกที่ส่งให้บ้านผู้อยู่อาศัย

ขณะที่ Peter Gleick ของสถาบันแปซิฟิกกล่าวกับ Goering ว่า “เราจะต้องทําสิ่งที่แตกต่างออกไป และต้องก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนให้เร็วกว่าที่เรากําลังขับเคลื่อนกันอยู่ในวันนี้”

หนึ่งในเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบกับความเสี่ยงซึ่งกระทบบริษัทต่างๆ จากปัญหาน้ําขาดแคลนคือ Cate Lamb, Global Director สำหรับเรื่องความเพียงพอเรื่องน้ำที่ CDP เธอเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ จากคณะทำงาน High Level Climate Champions ที่ งานCOP26 ในกลาสโกว์ โดยเป็นผู้นําในประเด็นน้ํา ในการสัมภาษณ์เธอบอกว่า เธอตั้งใจที่จะไม่เพียงให้เห็นรายละเอียดของข้อมูลเรื่องน้ําเท่านั้น แต่นำเสนอในฐานะเป็นภาคทีมีศักยภาพไม่ได้ใช้แก้ปัญหาการลดปัญหาสภาพภูมิอากาศด้วย

Credit: Adriano Machado/Reuters

เรามองเห็น 2 ภาคส่วนในแถวหน้าของความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเรื่องน้ํา รายงานช่วงแรกๆ เมื่อครั้งเกิดพายุ Catherine ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ซึ่งเป็นภาคส่วนของประเทศที่ขาดแคลนน้ํามากที่สุดในโลกอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้วัตถุดิบสําคัญสําหรับการปฏิวัติพลังงานสะอาด มีผลกระทบรุนแรงสําหรับมลพิษน้ําใต้ดิน ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมอื่น ๆ ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่า พื้นที่บริเวณนี้จะใช้น้ําจืดลดลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030

กับการที่ 70% ของน้ําจืดใช้ไปกับการเกษตร Mark Hillsdon เฝ้าศึกษาวิธีการที่ 3 บริษัทชั้นนําในเซ็คเตอร์อาหาร เครื่องดื่ม และการเกษตร คือ Cargill, Unilever และ Diageo, ว่าทุกๆ หยดที่ใช้ จะช่วยลด Water Footprints

วงการอุตสาหกรรมเป็นผู้ใช้เกือบ 20% ของการใช้น้ําทั่วโลก รายงานของ Angeli Mehta ระบุว่า การใช้น้ำเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีจํานวนบริษัทที่ตั้งเป้าหมายลดการใช้น้ําของพวกเขาเพิ่มอีก 2 เท่าก็ตาม

Angeli Mehta ให้ข้อมูลว่า เธอศึกษาวิธีการที่ L’Oréal, Microsoft, BASF และ Procter & Gamble มีนวัตกรรมเพื่อลดการใช้น้ําในการดําเนินงาน และในอนาคต

ส่วนรายงาน Nadine Hawa มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลงค่อนช้างช้า แต่เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนมากกว่า รวมถึงบริโภคน้ําน้อยกว่าในบริเวณอ่าวอาหรับ โดย 2 ใน 3 ของความต้องการน้ําจะทำโดยนำน้ำทะเลมากลั่น

Cate Lamb เรียกร้องให้ออกแบบอุตสาหกรรมแฟชั่นออกแบบกระบวนการผลิตใหม่ เพราะมีข้อมูลระบุว่า มีเพียง 10% ของบริษัท ซึ่งกล่าวได้ว่า อยู่ในเซ็คเตอร์ที่มลพิษสูงนี้ แสดงตระหนักของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สุดท้ายนี้ ทุกๆฝ่ายกำลังหวังว่า สิ้นปีนี้ จะได้ข้อสรุปการตรวจสอบวิธีการที่น่าเชื่อถือ นำสู่การได้มาของ Net-zero ก่อนที่งาน COP26 ในกลาสโกว์ ปลายปีหน้าจะเริ่มขึ้น

ที่มา

 

You Might Also Like