NEXT GEN

UN เตือน ! แก้ปัญหาโลกเดือด ทุกประเทศต้องทำระดับ Supernova 

27 พฤศจิกายน 2566…เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงปารีส โดยรายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติระบุว่า รัฐบาลทั่วโลกยังคง “ออกนอกลู่นอกทาง” ในการทำเรื่องนี้

การวิเคราะห์แผนสภาพภูมิอากาศแห่งชาติฉบับใหม่ก่อนการประชุม COP28 พบว่าสิ่งที่ทำอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะรักษาอุณหภูมิโลกให้สูงขึ้นภายในขอบเขตข้อตกลงปารีส

ภายใต้แผนปัจจุบันของประเทศต่าง ๆ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเพิ่มขึ้น 9% ภายในปี  2030  เมื่อเทียบกับระดับปี 2010 ทั้ง ๆ ที่จําเป็นต้องลดลง 45% ภายในสิ้นทศวรรษนี้เพื่อจํากัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส

“โลกกําลังล้มเหลวในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ นั่นคือข้อความของรายงานล่าสุดของ UNFCCC ซึ่งให้หลักฐานเพิ่มเติมว่าโลกยังคงอยู่นอกเส้นทางในการจํากัดภาวะโลกเดือดไว้ที่ 1.5 องศาเซลเซียส และหลีกเลี่ยงภัยพิบัติจากภาวะโลกเดือนที่เลวร้ายที่สุด” อันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติกล่าว

รัฐบาลกําลังดําเนินการ “ขั้นตอนทารก” เกี่ยวกับการดําเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ

รายงานวิเคราะห์แผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศหรือการมีส่วนร่วมระดับชาติ (NDCs) ของผู้ลงนาม 195 ประเทศตามข้อตกลงปารีส ถึงวันที่ 25 กันยายนปีนี้มีแผนใหม่หรือแผนอัปเดตประมาณ 20 แผนเท่านั้น แม้บางประเทศจะพยายามเพิ่มขึ้น แต่ก็แสดงให้เห็นว่าจําเป็นต้องลงแรงมากกว่าเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การปล่อยมลพิษที่ลดลงเป็น 9% ถือว่าเป็นการพัฒนาขึ้นเล็กน้อยจากรายงานปีที่แล้ว 11% และ 14 % จากปี 2021

Simon Stiell เลขาธิการคณะกรรมการบริหารของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UN Framework Convention on Climate Change-UNFCCC) กล่าวว่า รัฐบาลหลายๆประเทศกำลังทำเหมือนทารกเริ่มหัดเดิน เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤต

“รายงานการสังเคราะห์แผนสภาพภูมิอากาศแห่งชาติในวันนี้ เน้นย้ําความจําเป็นที่เราต้องดําเนินการด้วยความทุ่มเทและเร่งด่วนมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของข้อตกลงปารีส – ไม่มีเวลาเหลือสําหรับความล่าช้าแล้ว” Sultan Al Jaber.ประธาน COP28 และ CEO บริษัทน้ํามันของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าว

COP28 ต้องเป็นจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ในทศวรรษที่สําคัญนี้สําหรับฝ่ายต่างๆ ที่จะยึดช่วงเวลาของ Global Stocktake มุ่งมั่นที่จะยกระดับความทะเยอทะยาน รวมตัวลงมือทํา และส่งมอบผลลัพธ์ที่รักษา 1.5C ให้อยู่ในมือ ขณะที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ทั้งนี้ Global Stocktake หรือการประเมินสถานการณ์ดำเนินงานระดับโลก สู่เป้าหมายข้อตกลงปารีส – น่าจะเป็นหนึ่งในจุดสนใจหลักของ COP28 ในดูไบในปีนี้ เพราะจะแจ้ง NDC รอบต่อไปว่าประเทศต่างๆ ต้องรายงานความคืบหน้าภายในปี 2025

“รายงาน Global Stocktake ที่เผยแพร่โดย UN Climate Change ในปีนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความคืบหน้าช้าเกินไป อย่างไรก็ตาม มีเครื่องมือและโซลูชันมากมายที่นําเสนอโดยประเทศต่างๆ ทำให้ผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลกหวังที่จะเห็นรัฐบาลของพวกเขาหยิบเครื่องมือนี้ขึ้นมาและนําไปใช้” Stiell กล่าว

การวิเคราะห์ของ UNFCCC บ่งชี้ว่า การปล่อยมลพิษจะลดลง 2% ภายในสิ้นทศวรรษเมื่อเทียบกับในปี 2019 แม้ว่านี่จะแสดงให้เห็นว่า การปล่อยมลพิษมีแนวโน้มที่จะสูงสุดภายในปี 2030 แต่ก็ยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ลดลงอย่างรวดเร็วที่วิทยาศาสตร์ระบุว่า เป็นสิ่งจําเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

องค์ประกอบทั้งหมดของ NDC ของประเทศซึ่งสรุปความพยายามและการดําเนินการเฉพาะที่พวกเขากําลังดําเนินการเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจําเป็นต้องเร่งดําเนินการ ซึ่งรวมถึงเงื่อนไขที่ต้องพึ่งพาการเข้าถึงการเงิน เทคโนโลยี และความร่วมมือระหว่างประเทศ

Guterres กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกประเทศ เมือง และทุกภาคส่วนต้องทุ่มสุดพลัง

“ต้องเร่งไทม์ไลน์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์เพื่อให้ประเทศที่พัฒนาแล้วใกล้เป้าหมายมากขึ้นภายในปี 2040  และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ทำได้ใกล้ปี 2050 มากที่สุด”

เขาเสริมว่า โลกต้องเพิ่มกําลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน ต้องเลิกใช้ถ่านหินและเชื้อเพลิงฟอสซิล ประเทศที่พัฒนาแล้วจำเป็นต้องสร้างความไว้วางใจครั้งใหม่ ทำตามคํามั่นสัญญาว่าจะสนับสนุนเงินลงทุนแก้ปัญหาโลกเดือด

“COP28 ต้องมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการแก้ปัญหาโลกเดือดอย่างเร่งด่วน” Guterres เลขาธิการสหประชาชาติกล่าว

 

ที่มาเรื่องและรูป

You Might Also Like