NEXT GEN

‘ดุสิตธานี’ นับหนึ่ง ‘ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์’ ส่งกิจกรรมแบบยั่งยืน ต้อนรับนักท่องเที่ยวชุดแรก

1 กรกฎาคม 2564…โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต ภายใต้มาตรฐาน SHA Plus+ เปิดพื้นที่ในโรงแรมมีกิจกรรมหลากหลาย รับนักท่องเที่ยวชุดแรกที่เดินทางมาถึงเป็นชาวเนเธอร์แลนด์และชาวไทย โดยบินมาจากประเทศสิงคโปร์

ศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเริ่มต้นโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ทีมงานดุสิตธานีได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเปิดประเทศอย่างเข้มข้นโดยมีจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง จนถึงขณะนี้ก็ยังมีคำถามและมีความเป็นห่วงมากมาย แต่หลังจากการลงพื้นที่ สิ่งที่เราสัมผัสได้คือ ความมุ่งมั่นที่จะทำให้การเปิดประเทศใน “กล่องทราย” หรือ “แซนด์บ็อกซ์”

“ครั้งนี้เป็นการนำร่องและนำไปสู่การเรียนรู้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศในเดือนตุลาคม มีการเตรียมขั้นตอนและกฏเกณฑ์ที่เข้มงวดเพื่อป้องกันความเสี่ยงอย่างเต็มที่ และก็ได้ระดมฉีดวัคซีนกันเกือบ 70% แล้ว โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนขึ้นอีก ซึ่งจริง ๆ แล้ว เดือนกรกฎาคมหรือตลอด 3 เดือนในไตรมาสที่ 3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่น เพราะเป็นช่วงฤดูฝน ดังนั้น การที่จะหวังตัวเลขนักท่องเที่ยวในจำนวนมากคงเป็นไปได้ยาก แต่ชาวภูเก็ตก็ยอมจะเริ่มในช่วงเวลานี้ เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้และเตรียมความพร้อมสำหรับช่วงไฮซีซั่นตอนปลายปี รวมถึงยังเป็นโมเดลขยายต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ด้วย”

ในช่วงเวลา “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ดุสิตธานี ลากูน่า ได้นำเทรนด์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม มาบริการให้นักท่องเที่ยว ตั้งแต่ภายในพื้นที่โรงแรม และเชื่อมโยงไปถึงผู้คนในท้องถิ่น รูปแบบจึงออกมาที่


-โปรแกรมดูแลสุขภาพกายและใจแบบองค์รวมที่หลากหลาย อาทิเช่น โยคะ Mindfulness ในชีวิตประจำวัน ดนตรีบำบัด กิจกรรมทางน้ำอย่าง Stand up paddle board รวมไปถึงกิจกรรมสนุกสนานสำหรับเด็กๆ อย่าง Kid’s Camp

-การจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปแบบยั่งยืน เช่น การทำผ้ามัดย้อมธรรมชาติจากดอกไม้ การลองหัดทำอาหารพื้นบ้านจากสูตรดั้งเดิม พร้อมกับเรียนรู้แหล่งที่มาของวัตถุดิบพื้นถิ่นที่ปลอดสารพิษและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตลอดจน การเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมไทยแขนงอื่นๆ การจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปแบบยั่งยืน เช่น การทำผ้ามัดย้อมธรรมชาติจากดอกไม้ การลองหัดทำอาหารพื้นบ้านจากสูตรดั้งเดิม พร้อมกับเรียนรู้แหล่งที่มาของวัตถุดิบพื้นถิ่นที่ปลอดสารพิษและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตลอดจน การเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมไทยแขนงอื่นๆ

-การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สัมผัสและสนับสนุนอาชีพของคนท้องถิ่น เช่น วิถีชีวิตชาวประมงชายฝั่ง  เป็นต้น

 

ศุภจีเผยในท้ายที่สุดถึงยอดจองโรงแรมเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 40% ทำให้ภาพรวมของการท่องเที่ยวแม้จะไม่ได้คึกคัก แต่ก็เป็นลักษณะของการทยอยเดินทาง ซึ่งเชื่อว่าจะมีแนวโน้มค่อยๆ ดีขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นปลายปี ชี้ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เป็นจุดเริ่มต้นที่ “ต้องเรียนรู้” ถือเป็นกรณีศึกษาและเตรียมความพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวในจังหวัดอื่นๆ

 

You Might Also Like