12 ตุลาคม 2561…CSR หลัก ของRATCHมุ่งหมายส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ผ่านการบริหารจัดการ ‘ป่าชุมชน’ ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการฟื้นฟู รักษาและเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ
การประกาศผลการประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ประจำปี 2561 โดยมีป่าชุมชนบ้านเหล่าเหนือ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยพลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล
กิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปัจจุบัน โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ได้ส่งเสริมชุมชนที่มีการบริหารจัดการป่าชุมชนแบบมีส่วนร่วมและมีพัฒนาการโดดเด่น โดยประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชูเป็นป่าชุมชนต้นแบบรวมกว่า 1,500 แห่ง อีกทั้งยังเสริมหนุนการสร้างเครือข่ายทั้งคนรุ่นปัจจุบันและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมการสัมมนาผู้นำป่าชุมชน และค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม
“บริษัทฯ มีเจตนารมณ์ที่จะดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเชื่อมั่นในแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของผืนป่าในรูปแบบของ ‘ป่าชุมชน’ ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการป่าไม้ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ประชาชน-ภาครัฐ-เอกชน ที่มีประสิทธิภาพและได้ผลเป็นรูปธรรม เพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้เป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกทั้งจากกระบวนการผลิตควบคู่กับการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ และตอบสนองกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศในเป้าหมายที่ 12 ว่าด้วยการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน และเป้าหมายที่ 13 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดการก๊าซเรือนกระจก”
สำหรับการประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” มีจำนวนป่าชุมชนที่เข้าร่วม 1,171 แห่ง ในจำนวนนี้มี 144 ป่าชุมชนที่ได้รับรางวัล รวมพื้นที่ป่า 136,896.27 ไร่ ซึ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 273,792.54 ตัน
ผลการประกวดรางวัล
ป่าชุมชนบ้านเหล่าเหนือ หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกลาง อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ได้รับรางวัลป่าชุมชนรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัลจำนวน 200,000 บาท ป่าแห่งนี้โดดเด่นจากการวางกลยุทธ์พลิกฟื้นผืนป่า ด้วยวิธี “ปิดป่า” ห้ามทุกคนเข้าไปใช้ประโยชน์จากป่าทุกรูปแบบเป็นเวลา 3 ปี เป็นการเยียวยาด้วยวิธีธรรมชาติจนกระทั่งผืนป่าคืนสู่สภาพสมบูรณ์อีกครั้ง ชุมชนได้รวมตัวกันยื่นขอจัดตั้งเป็นป่าชุมชน 2,720 ไร่ และปัจจุบันได้พึ่งพิงประโยชน์จากป่าชุมชน ช่วยลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ในครัวเรือนจากการหาของป่าเพื่อบริโภค มีแหล่งต้นน้ำจนสามารถพัฒนาเป็นระบบประปาภูเขา หล่อเลี้ยงวิถีอาชีพทางการเกษตร
รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศ จำนวน 3 รางวัล จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลแห่งละ 100,000 บาท ได้แก่
– ป่าชุมชนบ้านเขาวัง หมู่ที่ 12 ตำบลหินตก อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
– ป่าชุมชนบ้านปากหมัน หมู่ที่ 4 ตำบลปากหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
– ป่าชุมชนตำบลสหกรณ์นิคม ตำบลสหกรณ์คม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
สำหรับรางวัลเฉพาะด้านในปีนี้ เน้นที่การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ป่าชุมชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ ป่าชุมชนบ้านภูเขาแก้ว หมู่ที่ 8 ตำบลเชียงเคี่ยน อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ จำนวน 3 รางวัล จะได้รับถ้วยรางวัลและเงินรางวัลแห่งละ 25,000 บาท ได้แก่
– ป่าชุมชนบ้านยางงอย หมู่ที่ 3 และ หมู่ที่ 10 ตำบลศรีสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม
– ป่าชุมชนบ้านหนองบัว หมู่ที่ 1 ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
– ป่าชุมชนบ้านบนควน หมู่ที่ 6 ตำบลเขาพระ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
นอกจากนี้รางวัลป่าชุมชนดีเด่นระดับภาค จำนวน 4 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแห่งละ 30,000 บาท รางวัลป่าชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด จำนวน 66 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแห่งละ 25,000 บาท และรางวัลชมเชย จำนวน 66 รางวัล ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลแห่งละ 10,000 บาท และเพื่อส่งเสริมและเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่และเครือข่ายป่าชุมชนที่เข้มแข็ง โครงการได้มอบโล่รางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ป่าชุมชนในความรับผิดชอบได้รับรางวัลระดับประเทศและรางวัลดีเด่นเฉพาะด้าน และยังมอบให้แก่เครือข่ายป่าชุมชนต้นแบบ “กล้ายิ้ม” อีกด้วย