CIRCULAR ECONOMY

Thaibev x GC x Thai Union และ Thailand Supply Chain Network ผนึกกำลังการพัฒนาอย่างยั่งยืน @ Thailand Sustainability Expo 2020

15 ตุลาคม 2563…มิติการขับเคลื่อนด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” (Sufficiency for Sustainability) เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาส และสร้างเครือข่ายสังคมของการมีส่วนร่วมสู่การนำไปปฏิบัติที่ใช้ได้ผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง

ภายในพื้นที่ Thailand Sustainability Expo 2020 (TSX) ซึ่งผู้จัดมีความตั้งใจที่จะนำพื้นที่เรียนรู้ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาสื่อสารกลางเมือง ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งแวดล้อมด้วยสถาบันการศึกษาทุกระดับ ธุรกิจต่าง ๆ และหน่วยงานรัฐ โดยมีเวทีพูดคุยของผู้เกี่ยวข้องทำงานด้านความยั่งยืนหลากหลายด้าน นักออกแบบ นักวิชาการ สื่อ รวมถึง CEO ของ 3 บริษัทใหญ่ระดับสากลคือ

-ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
-ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)
-ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ทั้ง 3 องค์กรได้รับมาตรฐานดัชนีความยั่งยืน Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหัวข้อ Decade of Sustainability in Action

ฐาปนกล่าวว่าที่ผ่านมา ไทยเบฟฯ ยึดมั่นและทุ่มเทเพื่อ “สร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยมุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมถือเป็นรากฐานของชุมชนและสังคมที่แข็งแกร่ง และส่งผลให้การวางรากฐานทางธุรกิจมั่นคงเช่นกัน

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตทางธุรกิจของไทยเบฟที่เป็นไปตามเป้าหมายการ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียนอย่างมั่นคงและยั่งยืน

“แม้หลายองค์กรในประเทศไทยจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนก็ตาม แต่ที่ผ่านมายังเป็นในลักษณะต่างคนต่างทำ และทำในประเด็นที่แตกต่างกันไปตามความสนใจ และบริบทขององค์กร ดังนั้นจึงเกิดการจับมือกันสร้างเครือข่าย Thailand Supply Chain Network เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพราะต้องการให้แต่ละองค์กรมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และนำประเด็นการพูดคุยต่างๆ มาเป็น Agenda ร่วมกันซึ่งจะก่อให้เกิดพลังบวกมหาศาล แต่งาน Thailand Sustainability Expo 2020 จะเป็นอีกหนึ่งมิติ ที่เรียกว่า Collaboration Platform เสมือนเป็นกระดานกลางที่ทำให้ทุกฝ่ายมีโอกาสได้ทำงานด้านความยั่งยืนร่วมกัน”

ดร.คงกระพัน มีความเชื่อว่าความยั่งยืน หรือ Sustainability เป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ การที่ Thai Bev, Thai Union และ GC  ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ แสดงให้เห็นถึงการเป็นบริษัทของคนไทยที่นำกระบวนการความยั่งยืนฝังเข้าไปอยู่ในการทำธุรกิจอย่างจริงจัง

“ผมคิดว่าการที่บริษัทต่างคนต่างทำ ก็จะได้ผลลัพธ์ประมาณหนึ่ง แต่เมื่อทุกฝ่ายนำความรู้ และประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนกัน รวมถึงสร้างแนวร่วม สร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมร่วมกัน ก็จะสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ และผู้ร่วมงานทั้งสังคมได้นำไปใช้ต่อ หรือต่อยอดความคิดเพื่อขยายกิ่งก้านสาขาของความยั่งยืนออกไปได้ไม่สิ้นสุด”

ดร.คงกระพัน มองว่า Sustainability เป็นเรื่องของคนทั้งองค์กรไม่ว่าจะผู้บริหารหรือพนักงาน ที่จะต้องมีความเชื่อร่วมกันแต่เท่านี้ไม่พอ เพราะทุกคนต้องทำเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการทำงานของธุรกิจ ไม่ใช่แค่ซีเอสอาร์

“เรามีกลยุทธ์ 3 เสาหลัก เสาแรกเป็นเรื่องความสามารถทางการแข่งขัน และการขยายธุรกิจเป็นเสาที่ 2 แต่เสาที่ 3 คือ ความยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ และ GC ทำมานานนับ 10 ปี ล่าสุดเรามีการยกระดับความยั่งยืนด้วยการแบ่งปัน และสร้างแนวร่วม เพราะปัญหาของโลกในทุกวันนี้ไม่สามารถแก้ไขด้วยองค์กรใดองค์กรหนึ่งได้ แต่ทุกองค์กรต้องมีบทบาทในการเข้าไปช่วยจุดประกายให้องค์กร หรือหน่วยงานอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งคนในสังคมตระหนัก และต่อยอดด้านความยั่งยืนด้วย ผมย้ำเสมอว่ามาโครงการความยั่งยืนไม่จำเป็นต้องเล็ก หรือ ใหญ่ แต่สิ่งสำคัญต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคต ก็จะมีการขยายให้เป็นโครงการใหญ่ๆ ได้ ”

การดำเนินการธุรกิจที่มีเรื่องราวการพัฒนาอย่างยั่งยืนสอดแทรกในทุกส่วน สร้างความแตกต่างให้กับ GC กับ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ในโลกนี้ที่มีบริษัทแบบนี้มากมาย นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนรุ่นใหม่สนใจ GC เสมือนเป็นประภาคาร การให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในมุมเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy มีผลต่อคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมาสมัครงานกับ GC

“GC น่าจะถือเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ ไม่กี่แห่งของโลกที่มีเรื่อง Sustainability เป็นกลยุทธ์หลัก และมีของจับต้องได้ โดยไอเดียนี้เราพยายามเผยแพร่ และคิดว่าเยาวชนเห็น เขาจะสนใจเรื่องนี้กันมาก เราจะบอกว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องความยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่อเจาะลงไปที่ขยะพลาสติกต่าง ๆ เราต้องมีคำตอบเป็นทางออกให้กับทุกคน ห เพราะฉะนั้นคนอยากใช้พลาสติกมี 2 ทาง ใช้แบบชีวิตปกติก็ใช้ไปดื่มน้ำจากขวดพลาสติกแล้วทิ้งให้ถูก ซึ่งเรามีกระบวนการนำมา Recycle หรือ Upcycle เป็นเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น หรือของใช้ดี ๆ อื่น ๆ ได้มากมาย แต่คนที่รักษ์โลกมากขึ้นก็ใช้พลาสติกชีวภาพ (Bioplastics) ย่อยสลายได้ ฝังดินก็กลายเป็นปุ๋ย เราสามารถใช้ชีวิตปกติได้ แต่ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น “

ดร.คงกระพัน กล่าวต่อเนื่อง เรื่องที่กล่าวข้างต้น GC พยายามเผยแพร่ และสร้าง Loop Connecting เริ่มต้นเล็กกับโรงเรียน วัด เช่นวัดจากแดง ซึ่งมีการคัดแยกขวดพลาสติกใช้แล้วอย่างถูกวิธี ก็นำมาผ่านการ Upcycle กลายเป็นจีวรรีไซเคิล เป็นการเริ่มต้นจากชุมชนเชื่อมโยงราชการ เอกชน ส่วนระดับประเทศ GC ก็ทำงานกับอุทยานแห่งชาติ

ธีรพงศ์ แลกเปลี่ยนมุมมองว่า ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนมาโดยตลอดและดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี นอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบสากลแล้ว เรายังมุ่งมั่นในพันธกิจที่จะเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก โดยมีนโยบายความยั่งยืนตามกลยุทธ์ SeaChange® ที่ดำเนินควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

“ไทยยูเนี่ยนคิดเสมอว่า เราต้องมีมาตรการจัดการดูแลภายในองค์กรให้ถูกต้อง แต่เป็นครั้งแรกที่เราได้เรียนรู้ว่าแค่นั้นยังไม่เพียงพอ ผมถือว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้นำที่จะต้องทำให้เกิดความมั่นใจว่า ต้องดูแลทั้งกระบวนการซัพพลายเชนให้ถูกต้องไปด้วยกันทั้งหมด นั่นหมายความว่า แม้เราไม่ได้เป็นเจ้าของเรือจับปลา เราก็ต้องไปดูแลเรือจับปลาว่าเขาทำถูกต้องไหม ทั้งเรื่องการปฏิบัติต่อลูกเรือ การจับในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต รวมถึงการใช้อุปกรณ์การจับที่ถูกต้องด้วย เช่นเดียวกับเรื่องแรงงาน ไม่เพียงแต่จะดูแลแรงงานในโรงงานของเราให้ถูกต้องเท่านั้น แต่เราต้องเข้าไปดูแลโรงงานที่เป็นซัพพลายเออร์ของเราทั้งกระบวนการว่ามีวิธีการจัดการที่ถูกต้องตามข้อปฏิบัติ นี่เป็นจุดที่เราตระหนักถึงในเวลานี้”

การดูแลทั้งซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ทำให้เกิดความมั่นใจว่า ทุกชีวิตที่ออกไปทำงานในส่วนนี้จำได้รับความปลอดภัย สิ่งดี ๆ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นความเป็นอยู่ของคนที่จะต้องดีขึ้น เป็นความยั่งยืนของชาวประมง

งาน Thailand Sustainability Expo 2020 ประกอบไปด้วย Exhibitors รวมมากกว่า 70 บูธที่จัดแสดงภายใน โดยแบ่งเป็น 5 โซนหลัก ดังนี้

1. โซน Main Exhibition เป็นการจัดแสดงแนวทางการจัดการปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม การบริหารโครงการด้านความยั่งยืน และการลดผลกระทบที่เกิดแก่สังคมในวงกว้างจากเครือข่ายองค์กรภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐ รวมไปถึงมูลนิธิขนาดใหญ่ในประเทศไทย
2. โซน Win Win WAR Village เป็นการแสดงไอเดียธุรกิจเพื่อสังคมจาก 12 นักธุรกิจแบ่งปันจากรายการ Win Win WAR Thailand ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของการทำธุรกิจที่สร้างผลกระทบด้านดีให้กับสังคม
3. โซน Sustainable Lifestyle เป็นการให้ความรู้และจัดแสดงแนวคิดการนำหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาใช้ในการทำธุรกิจ พร้อมกันนี้มีการจัดแสดงภาพถ่ายที่ได้รับรางวัลจากโครงการ Sustainability Action Hero Photo Contest

GC ได้สื่อสารภายในบูธแบ่งเป็น 5 โซนด้วยกัน
1 .Corporate Information
2. EEC และ Bio/Green Business
3. Bio show case : Biofuel/ Biochemicals/Bioplastics
4.Medical Platform (ชุด PPE/ ชุด PAPR/หุ่นยนต์แบ่งปัน)
5. Upcycling Showcase & Upcycling UpStyling วัสดุเหลือใช้+ความคิดสร้างสรรค์= สินค้าแฟชั่นที่มีมูลค่า

ดร.คงกระพันได้เล่าถึงนิทรรศการจัดแสดงนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ GC ภายในงาน TSX ได้มีการนำเสนอภายใต้แนวคิด “Circular for Better Living”

“GC เราต้องการสื่อสารเรื่องความยังยืนอย่างครบวงจร เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่จะต้องมีความสมดุลทั้ง 3เรื่อง เราอยู่คนเดียวไม่ได้ Key Message คือต้องสร้างความสมดุล วันนี้เราต้องการสื่อสารเรื่องการแก้ปัญหาต่าง ๆ ต้อง Inclusive ต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

Thailand Sustainability Expo 2020 แสดงให้เห็นถึงพลังจาก 3 CEO ที่ต่างให้ความสำคัญกับนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างสมดุลย์ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ของประเทศไทยและของโลก ในฐานะ Corporate Citizen อย่างแท้จริง

 

You Might Also Like