20-21 เมษายน 2567…พลาสติกเป็นสิ่งที่ดี มีคุณสมบัติหลายอย่าง ทั้งยึดเส้นใยของเสื้อยืด สร้างกาวที่ติดถุงชาเข้าด้วยกัน แต่พลาสติกก็ยังมีด้านลบด้วย คือเป็นพิษต่อมหาสมุทร พลาสติกครั้งละชิ้น รวมกันเป็นขยะขนาดใหญ่
ข้อมูลของ CNN ระบุว่า ความเป็นจริง ขยะพลาสติคขนาดใหญ่มี 5 แห่ง แห่งหนึ่งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย สองแห่งในมหาสมุทรแอตแลนติก และอีกสองแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิก แหล่งที่มีชื่อเสียงที่สุดตั้งอยู่ระหว่างแคลิฟอร์เนียและฮาวาย ครอบคลุมพื้นที่ 620,000 ตารางไมล์ ไม่มีใครเห็น “รอยปะ” เหล่านี้ได้ด้วยตาเปล่า
ในทางกลับกัน ขยะจะแพร่กระจายไปตามผืนแผ่นดิน จากนั้นลงสู่มหาสมุทร ทำให้เกิดเป็นเหมือนซุปไมโครพลาสติกที่ไม่สามารถตักหรือกำจัดออกไปได้ ไมโครพลาสติกจะถูกย่อยสลายเมื่อเวลาผ่านไป จากชิ้นพลาสติกขนาดใหญ่จนกลายเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มม. เป็นอันตรายต่อความเป็นอยู่ที่ดีของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
แต่ละปีมีการผลิตพลาสติกมากกว่า 400 ล้านตันทั่วโลก หรือ 8 ล้านตันเมตริกตันซึ่งจบลงในมหาสมุทร ตามที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ การขยายขนาดนี้ มีอนุภาคไมโครพลาสติกในมหาสมุทรมากกว่าดวงดาวในกาแล็กซีถึง 500 เท่า พลาสติกทุกชิ้นที่ผลิตมาแล้วยังคงมีอยู่จนทุกวันนี้ และจะคงอยู่ต่อไปอีกอย่างน้อย 500 ปี
มีผลการวิจัยฉบับใหม่แสดงให้เห็นว่า นกทะเลส่วนใหญ่กินพลาสติกมากจนทำให้เกิดโรคใหม่ คือพลาสติกซิส ทำให้เกิดแผลเป็นในกระเพาะอาหารและเบื่ออาหาร ผลที่ตามมาคือนกหิวน้อยลง เรื่องนี้เปลี่ยนช่วงการเติบโตของพวกมันได้ ตัวอย่างเช่น ปีกของ Island Flesh-footed Shearwater ความยาวปากนก และขนาดลำตัวหดตัวลงในช่วง 13 ปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากพลาสติกซิส
ไม่ใช่แค่นกทะเลเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากพลาสติก วาฬก็เป็นเหยื่อพลาสติกเช่นกัน ปี 2019 มีผู้พบวาฬตัวหนึ่งตาย โดยมีพลาสติกหนัก 88 ปอนด์อยู่ในท้อง ในความเป็นจริง กระเพาะของวาฬนั้นแข็งพอๆ กับลูกเบสบอล และเกือบจะแน่นอนว่ามันต้องเจ็บปวดเป็นเวลานานก่อนตาย ซึ่งอาจกินเวลานานกว่าหนึ่งปี
ตามที่นักชีววิทยาทางทะเลและนักสิ่งแวดล้อม ดาร์เรล แบลทช์ลีย์ กล่าว เขากับทีมได้พบวาฬและโลมาอีกนับไม่ถ้วนที่ได้รับพิษแบบเดียวกันนี้ รายงานของศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพเพิ่มเติมข้อมูลว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลหลายพันสายพันธุ์เสียชีวิตทุกปีจากการกินหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับพลาสติกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
AIDAN CHARRON ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการแก้ปัญหาพลาสติกของ EARTHDAY.ORG กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ปัญหาเรื่องสิ่งมีชีวิตขนาดเท่าปลาวาฬได้รับผลกระทบจากพลาสติกไม่เคยเกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าพวกมันกินสิ่งที่อยู่ในมหาสมุทร ไม่ว่าจะเป็นขยะพลาสติกชิ้นใหญ่หรือขนาดจิ๋ว วิธีเดียวที่จะหยุดขยะพลาสติกที่เป็นอันตรายทั้งหมดนี้ได้คือผลิตให้น้อยลงตั้งแต่จุดเริ่ม
ไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตในน้ำเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังรวมถึงชีวิตมนุษย์ด้วย ไมโครพลาสติกและสารเคมีเพิ่มเติมจะเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ อาจนำไปสู่มะเร็งและปัญหาสุขภาพทั้งหมด การวิจัยใหม่พบว่าไมโครพลาสติกถูกพบในรกมนุษย์ หัวใจ กระแสเลือด ปอด และสมอง
ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ตัวแทนจาก 175 ประเทศได้ทำงานเพื่อตกลงในสนธิสัญญาพลาสติกระดับโลกของสหประชาชาติ เพื่อเจรจาวิธีจัดการปัญหาพลาสติก เซสชั่นที่ 4 ของคณะกรรมการเจรจาระหว่างประเทศ ซึ่งจัดขึ้นในวันคุ้มครองโลกปีนี้ที่เมืองออตตาวา ประเทศแคนาดา
ผู้อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตพลาสติกเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา กำลังใช้เวลาและเงิน เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการลดการผลิตพลาสติกทั่วโลก ไปจนถึงการพูดคุยเกี่ยวกับการรีไซเคิลพลาสติก การสร้างเศรษฐกิจพลาสติกแบบหมุนเวียน การ รีไซเคิลพลาสติกเป็นเรื่องโกหกที่อุตสาหกรรมส่งเสริมมานานหลายทศวรรษ
พลาสติกจำนวนมากไม่สามารถรีไซเคิลได้ ตัวอย่างเช่น ด้านบนของขวดโซดาทำจากเทอร์โมเซ็ตหรือเทอร์โมพลาสติกโพลีเมอร์ซึ่งก่อตัวขึ้นด้วยพันธะเคมีที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้นสิ่งใดก็ตามที่ทำจากขวดเหล่านี้ไม่สามารถรีไซเคิล ในความเป็นจริง มีพลาสติกเพียง 9% ทั่วโลกที่ถูกรีไซเคิล ในสหรัฐอเมริกา มีพลาสติกเพียง 5% เท่านั้นที่ถูกรีไซเคิล อุตสาหกรรมพลาสติกไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Circular Economy มากนัก
อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมพลาสติก และเนื่องจากพลาสติกทำจากน้ำมัน พวกเขาจะไม่ละทิ้ง Cash Cow ตัวนี้ไปง่ายๆ แต่หากการผลิตพลาสติกไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดอาจสร้างหายนะยิ่งใหญ่เช่นกัน
Planet vs. Plastic “โลกปะทะพลาสติก” จึงเรียกร้องให้ลดการผลิตพลาสติกทั้งหมดลง 60% ภายในปี 2583
ที่มา
