ALTERNATIVE

ผลศึกษาฉบับใหม่ระบุ ภาวะโลกเดือดทําให้คลื่นความร้อนอยู่ได้นานขึ้น ร้อนขึ้น ทําร้ายผู้คนมากขึ้น

8 เมษายน 2567…นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศได้ค้นพบเพิ่มเติมว่า ภาวะโลกเดือดส่งผลกระทบของคลื่นความร้อนทั่วโลกอย่างไร  โดยภาวะโลกเดือดกําลังทําให้คลื่นความร้อนขนาดยักษ์เคลื่อนที่ช้าลงทั่วโลก ที่สำคัญกว่าคือ กําลังอบผู้คนจำนวนมากขึ้นเป็นเวลานาน พร้อมอุณหภูมิสูงในพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้น

การศึกษาใน Science Advances ระบุว่า ตั้งแต่ปี 1979 คลื่นความร้อนทั่วโลกเคลื่อนที่ช้าลง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่าผู้คนจํานวนมากขึ้นจะร้อนนานขึ้น และเกิดขึ้นบ่อยขึ้น 67 เปอร์เซ็นต์

รายงานซึ่งร่วมเขียนโดยนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ Wei Zhang จาก Utah State University และ Gabriel Lau จาก Princeton University เน้นไปที่ระยะเวลาที่ความร้อนสูงคงอยู่ และการเคลื่อนตัวข้ามทวีป

นักวิทยาศาสตร์พบว่าอุณหภูมิสูงสุดในคลื่นความร้อนอุ่นขึ้นกว่า 40 ปีที่แล้ว และพื้นที่ใต้โดมความร้อนมีขนาดใหญ่กว่า

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าคลื่นความร้อนลดลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ แต่คลื่นนี้ครอบคลุมมากขึ้นและเน้นหนักไม่เพียง แต่อุณหภูมิและพื้นที่

การศึกษาค้นพบอะไรเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคลื่นความร้อน?

ตั้งแต่ปี 1979 ถึง 1983 คลื่นความร้อนทั่วโลกจะใช้เวลาเคลื่อนตัวโดยเฉลี่ยแปดวัน แต่ภายในปี 2016 ถึง 2020 นานถึง 12 วัน การศึกษาพบว่า ยูเรเซียได้รับผลกระทบหนักขึ้นเป็นพิเศษด้วยคลื่นความร้อนที่เดินทางนานขึ้น คลื่นความร้อนชะลอตัวลงมากที่สุดในแอฟริกา

ทีมงานได้ทําการจําลองด้วยคอมพิวเตอร์ที่แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการปล่อยก๊าซดักจับความร้อนที่มาจากการเผาไหม้ถ่านหินน้ํามันและก๊าซธรรมชาติ การศึกษาพบข้อมูลน่าสนใจของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโดยการจําลองโลกที่ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสรุปว่าไม่สามารถผลิตคลื่นความร้อนที่เลวร้ายลงในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังดูการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสภาพอากาศที่แพร่กระจายคลื่นความร้อน คลื่นบรรยากาศที่เคลื่อนระบบสภาพอากาศไปตาม เช่น กระแสน้ํา Jetstream กําลังอ่อนกําลังลง ดังนั้นจึงไม่เคลื่อนคลื่นความร้อนไปอย่างรวดเร็ว จากตะวันตกไปตะวันออกในส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่ทุกทวีป

ที่มา

 

You Might Also Like