ACTIVITIES

รณรงค์เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด ลดมลพิษ PM 2.5

1 เมษายน 2562… สยามคูโบต้า กลุ่มวังขนาย และสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดมหาสารคามร่วมรณรงค์เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด ลดมลพิษ PM 2.5
ด้วยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจร

ศราวุธ ภูนาสี เลขาธิการสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดมหาสารคาม ธัญรักษ์ ณ วังขนาย ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มวังขนาย และสมบูรณ์ จินตนาผล ที่ปรึกษา-สำนักงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ร่วมกันรณรงค์ “ตัดอ้อยสด ลดมลพิษ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร” โดยขอความร่วมมือให้ทุกโรงงานกำหนดมาตรการแนวทางแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ฤดูการผลิตปี 2561/62

ผู้ว่าราชการจ.มหาสารคาม ผู้บริหารสยามคูโบต้า แสดงมุมมองและเปิดตัวโครงการด้วยการรดน้ำดับอ้อยไฟไหม้

 

กลุ่มวังขนายได้ประกาศนโยบายเป็นปีแห่งการรณรงค์ ตัดอ้อยสด สะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อน โดยเริ่มตั้งแต่

  1. การลงพื้นที่ประชุมสัญจรเพื่อชี้แจงให้ชาวไร่อ้อยเข้าใจ รับทราบถึงปัญหา ผลกระทบจากการตัดอัอยไฟไหม้ อ้อยมีสิ่งปนเปื้อน ที่มีผลต่อโรงงานและตัวชาวไร่เอง ที่ต้องถูกหักราคาอ้อยไฟไหม้ตันละ 30 บาท อ้อยยอดยาวและอ้อยปนเปื้อนตันละ 20 บาท
  2. ติดป้ายประชาสัมพันธ์หน้าโรงงานและทุกสถานีขนถ่าย เพื่อชี้แจงบทลงโทษและผลกระทบที่เกิดขึ้นของมลพิษทางอากาศ
  3. ตั้งคณะทำงานให้ทำหน้าที่เป็นหน่วยตรวจสอบคุณภาพอ้อยหน้าโรงงานและสถานีขนถ่ายทุกแห่งในเขตส่งเสริม หากตรวจพบอ้อยปนเปื้อนจะมีมาตรการตัดราคาจนถึงขั้นปฏิเสธการรับซื้อ
  4. จัดทำโปรโมชั่นพิเศษให้กับชาวไร่ที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานโดยการสะสมบิลรับอ้อยสดเพื่อนำมาแลกของสมนาคุณ ซึ่งจากผลการดำเนินงานปีการผลิต 2561/62 มีสัดส่วนอ้อยไฟไหม้ลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 15 % และวางเป้าหมายปี 62/63 ให้มีสัดส่วนอ้อยไฟไหม้ลดลง 30%

สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองพิษ PM 2.5 กลุ่มวังขนายได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและบริษัท สยามคูโบต้า จำกัด ทำเกษตรแบบไม่เผา ด้วยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรแบบครบวงจรในไร่อ้อย พร้อมการทำเกษตรแบบไม่เผาด้วยวิธี KAS เกษตรครบวงจรเอกลักษณ์เฉพาะของคูโบต้า เพื่อเสนอเป็นทางเลือกในการบริหารจัดการไร่อ้อยอย่างมืออาชีพ และเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์การทำเกษตรไม่เผา ช่วยลดมลพิษ

เครื่องคีบอ้อย เครื่องตัดอ้อย เครื่องสางใบอ้อย เครื่องอัดใบอ้อย

นับเป็นปัญหาระดับชาติที่องค์กรเอกชนและภาครัฐต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง อีกทั้งสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของอินทรีย์วัตถุในดินและการรักษาความชื้นในดิน เพื่อการทำเกษตรอย่างยั่งยืน

You Might Also Like