SD DAILY

โครงการ Care the Bear ลดโลกร้อนเป็นรูปธรรมวัดผลได้ใน “ศูนย์ข่าวสีเขียว”

4 ธันวาคม 2565…ตลอด 6 วัน 14-19 พฤศจิกายน 2565@APEC2022 ลดก๊าซเรือนกระจกได้ 30,295.40 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่าการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 3,366 ต้น ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของทั้งพันธมิตรหลักและทุกองค์กรที่จัดแสดงนิทรรศการ รวมถึงสื่อมวลชนที่ร่วมใช้พื้นที่ศูนย์ข่าว ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มุ่งเป็นแบบอย่างในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างคุ้มค่า และบริหารจัดการขยะครบวงจร

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งหวังว่าโครงการ Care the Bear จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรและประชาชนเกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อน พร้อมขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้ในอนาคต โดยหลักปฏิบัติ 6 Cares ในโครงการ Care the Bear “ลดโลกร้อน” ประกอบด้วย การเดินทางโดยรถสาธารณะหรือเดินทางมาร่วมกัน การลดใช้กระดาษและพลาสติก การงดการใช้โฟม การลดใช้พลังงาน การใช้วัสดุตกแต่งที่สามารถกลับมาใช้ใหม่ได้ และการลดขยะจากอาหารเหลือทิ้ง

จากการดำเนินการใน “ศูนย์ข่าวสีเขียว” พบว่า

-ผู้จัดงานและผู้ร่วมงานส่วนใหญ่เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าและใช้บริการ Shuttle Bus ส่งผลให้ลดก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางได้ 5,343.59 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 594 ต้น
-ผู้ร่วมงานให้ความร่วมมือและเข้าใจหลักการคัดแยกขยะ ทำให้สามารถนำขยะไปรีไซเคิลได้เกือบ 100%
-ผู้ร่วมงานให้ความร่วมมือตักอาหารแต่พอดี ทำให้การคัดแยกขยะสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 11,383.82 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 1,265 ต้น
-องค์กรที่ร่วมจัดบูธนิทรรศการในการประชุมเอเปคต่างให้ความร่วมมือนำวัสดุตกแต่งกลับไปใช้ซ้ำ คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 5,043.37 kgCO2e เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 560 ต้น
-นอกจากนี้ หลังสิ้นสุดการประชุมเอเปค ด้าน SCG จะนำขยะกระดาษไปรีไซเคิลผลิตเป็นชั้นวางหนังสือ คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ 36.33 kgCO2e เทียบเท่ากับกับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีของต้นไม้ 4 ต้น

องค์กรที่สนใจลดโลกร้อนด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดงานอีเวนต์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.carethebear.com

 

You Might Also Like