กันยายน 5,2568…การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำไม่ใช่เพียงประเด็นสิ่งแวดล้อม แต่คือ เดิมพันสำคัญ ของภาคธุรกิจไทยที่ต้องเผชิญกับมาตรฐานสากลใหม่ ๆ และกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ก้าวสู่หมุดหมายใหม่ ด้วยการส่งต่อเครื่องมือ SET Carbon ให้กับ ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) กลายเป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่นำแพลตฟอร์มนี้ไปใช้ เพื่อช่วยลูกค้ากว่า 1,000 บริษัทในซัพพลายเชนเสี่ยงคาร์บอน วัดและจัดการการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลสู่การเข้าถึงสินเชื่อสีเขียว
สร้างระบบนิเวศการเงินเพื่อความยั่งยืน
อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลท. ย้ำว่า การเปิดเผยข้อมูลด้านคาร์บอนเป็นภารกิจที่ธุรกิจไทยเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไป โดยมาตรฐานใหม่อย่าง ISSB S1 และ S2 จะกำหนดให้ทุกองค์กรต้องรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างโปร่งใส
บทบาทของตลท. ในการสร้างแพลตฟอร์ม เช่น
-ESG Data Platform สร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวกลางช่วยให้บริษัทจดทะเบียน (และอนาคตคือบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน) โดยเฉพาะ SMEs สามารถกรอกและวัดข้อมูล ESG ได้ง่ายขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนสถาบันทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับข้อมูล ESG ในการตัดสินใจลงทุน
-SET Carbon Platform เปิดตัวเมื่อต้นปี 2567 เพื่อช่วยภาคอุตสาหกรรมในการเปิดเผยข้อมูลและวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เตรียมพร้อมสำหรับกฎหมาย (พ.ร.บ. ก๊าซเรือนกระจก) ที่อาจบังคับให้ลดคาร์บอน รวมถึงรองรับการซื้อขาย Carbon Credit ในอนาคต
“SET Carbon ไม่ใช่เพียงเครื่องมือวัด แต่เป็นสะพานเชื่อมให้ทั้งบริษัทใหญ่และ SMEs สามารถเปิดเผยข้อมูล ESG ได้ตามมาตรฐานโลก ภายใต้ต้นทุนที่ไม่สูง และยังช่วยธนาคารใช้ข้อมูลเพื่อปล่อย Green Loan ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
แพลตฟอร์มนี้ถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ครอบคลุมการเก็บและคำนวณข้อมูลแบบ end-to-end ตั้งแต่พลังงาน การเดินทาง การแยกขยะ ไปจนถึงการทวนสอบข้อมูล และในอนาคตจะรองรับ Scope 3 ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารความเสี่ยงซัพพลายเชน
อย่ารอจนวิกฤตบังคับ
ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีทีบี กล่าวถึงความจำเป็นของการปรับตัว โดยยกตัวอย่างอดีตที่ประเทศไทยเคยถูกบังคับมาตรฐานสากลแบบฉับพลัน ทั้ง IUU Fishing และ ICAO Aviation ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อเศรษฐกิจ
“จริง ๆ แล้ว เรากลับมาสู่ความเป็นจริงของ SMEs ที่ฝันหวานสวย ๆ ว่า SMEs มี Passion ลดโลกร้อนคือมันไม่มีอยู่จริง ปัญหาของ SMEs คือไม่มีรายได้มาก เรื่อง Carbon Transition Loan สวย ๆ กับ SMEs ไม่มีอยู่จริง เรารับความจริงตรงนั้นก่อนว่า เราอย่าโลกสวยกับเรื่องที่บอกให้ SMEs ลุกขึ้นมาทําอันนี้ เพราะฉันใช้พลังงานตอนกลางวันจากการติดโซล่าร์ คุ้มค่าต่อธุรกิจฉันยังขายได้อยู่ กลุ่มนี้อาจจะมี แต่ไม่ได้เยอะนัก”
ปิติกล่าวต่อเนื่อง สิ่งที่ควรทําก่อนคือ SMEs ที่เชื่อมกับบริษัทขนาดใหญ่ และเขาเห็นว่าจะต้องปรับ ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่ถูกเลือกจากบริษัทใหญ่ในฐานะซัพพลายเออร์ที่อยู่ใน Supply Chain เพราะบริษัทใหญ่ถูกกระทบลงมาเช่นกัน เขาส่งออกไม่ได้ จะเจอผลกระทบจากประเทศลูกค้า เขาก็ต้องเลือกบริษัทใน Supply Chain ที่สามารถ Comply ภายใต้กติกาเดียวกันได้ ดังนั้นขณะนี้ SMEs รู้ว่าต้องทำ เรื่อง Carbon เพราะเห็นภัยมาเยือน และ ต้องทำเพราะเห็นโอกาสทางธุรกิจ
“Carbon คือเดิมพันครั้งใหญ่ของประเทศ เราไม่ควรรอจนวิกฤตมาเยือน แต่ต้องเริ่มลงมือจากวันนี้”
TTB วางกรอบการทำงาน 4 ขั้นตอน ก่อนตัดสินใจใช้เครื่องมือจาก SET Carbon จะทำให้ธนาคารสามารถให้คำปรึกษาและปล่อยสินเชื่อสีเขียวอย่างมั่นใจมากขึ้น
Assess – ประเมินอุตสาหกรรมเสี่ยง เช่น เคมีภัณฑ์ การขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม
Analyze – วิเคราะห์ความเสี่ยงในพอร์ตสินเชื่อ และจัดลำดับความเร่งด่วน
Educate – ให้ความรู้ลูกค้าเรื่องผลกระทบและโอกาสใหม่
Provide Tools – มอบเครื่องมือวัดและจัดการคาร์บอน ซึ่ง SET Carbon ตอบโจทย์ตรงนี้
ประเดิม 1,000 บริษัทลูกค้าTTB ในห่วงโซ่เสี่ยงคาร์บอน
ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายที่ชัดเจน คือการช่วย 1,000 บริษัทลูกค้า TTB ในกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ การขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม และโรงแรม ซึ่งถือเป็นซัพพลายเชนที่มีความเสี่ยงสูงด้านคาร์บอน ให้สามารถใช้ข้อมูลจาก SET Carbon เป็น “พาสปอร์ต” ในการเข้าถึงสินเชื่อสีเขียวและอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า
ปัจจุบัน TTB ได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนแล้วกว่า 78,000 ล้านบาท โดยในปี 2568 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน 35,000 ล้านบาท และการเพิ่มเครื่องมือ SET Carbon จะช่วยให้ลูกค้าธนาคาร โดยเฉพาะ SMEs มีโอกาสในการเข้าถึงเงินทุนที่เป็นธรรมและแข่งขันได้ในตลาดโลก
-การปล่อยคาร์บอนคือความเสี่ยงใหม่ที่กระทบทั้งห่วงโซ่อุปทานและโอกาสทางการเงิน
-การใช้ SET Carbon ควบคู่กับ Green Loan และ Carbon Trading จะเปลี่ยน “ความเสี่ยง” ให้เป็น “โอกาส” ของธุรกิจไทย
SET และTTB จึงไม่ได้เพียงส่งต่อเครื่องมือ แต่กำลังส่งต่ออนาคต ที่ทำให้ธุรกิจไทยเดินสู่เส้นทางเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างมั่นคงและแข่งขันได้จริงบนเวทีโลก