NEXT GEN

2 แบรนด์มุ่งมั่นสิ่งเดียวกัน “ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์”

12-13 กันยายน 2563…ความมุ่งมั่นดังกล่าวประกาศให้ Stakeholder ทั่วโลก รู้ว่า ภายใต้เรื่องนี้ สตาร์บัคส์ เน้นใช้ทรัพยากรเชิงบวก และคิดค้นบรรจุภัณฑ์รียูส ส่วนซีพีเอฟต่อยอดนวัตกรรมถาดพลาสติกใสชีวภาพPLA ย่อยสลายง่าย ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวถึงสตาร์บัคส์ มุ่งสู่การเป็นผู้นำเรื่องความยั่งยืนในธุรกิจกาแฟ ประกาศพันธกิจที่จะใช้ทรัพยากรในเชิงบวก (Resource Positive) หรือคืนทรัพยากรให้กับโลกมากกว่าที่ใช้ไป เพื่อร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อมและโลกของเรา

สตาร์บัคส์ได้กำหนดเป้าหมายไว้ 3 เรื่องหลัก คือ การควบคุมดูแลปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากกว่าปริมาณที่ปล่อย การฟื้นฟูน้ำและเพิ่มปริมาณน้ำสะอาดให้มากกว่าที่ใช้ไป และการช่วยลดปริมาณขยะ

สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความมุ่งมั่นเรื่องสิ่งแวดล้อมเรื่อยมา ตั้งแต่การรณรงค์เรื่องการใช้แก้วส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง (ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ได้ประกาศงดรับแก้วส่วนตัวชั่วคราวเนื่องด้วยวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจุบัน สถานการณ์คลี่คลายยิ่งขึ้น สตาร์บัคส์จึงได้กลับมารับแก้วส่วนตัวอีกครั้ง) ด้วยการมอบส่วนลด 10 บาทแก่ลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มที่ร้านตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อ 20 ปีมาแล้ว การใช้ถุงกระดาษ และกระดาษแบบรีไซเคิลตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ การสร้างร้านกาแฟสีเขียว และเมื่อต้นปีที่ผ่าน ได้เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษ เพื่อช่วยลดการใช้หลอดพลาสติกกว่า 39 ล้านชิ้นต่อปี

“ตลอดระยะเวลาที่แบรนด์สตาร์บัคส์ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อ 49 ปีที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพราะเชื่อว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทั้งบริษัท พาร์ทเนอร์ และลูกค้าสตาร์บัคส์มีจุดมุ่งหมายร่วมกัน การที่เราจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอนาคตได้นั้น จะต้องลงทุนทั้งด้านเวลาและเงิน รวมไปถึงการคิดค้นนวัตกรรม ตลอดจนสร้างพันธมิตรใหม่ๆ มากขึ้น เพื่อร่วมกันปกป้องโลกของเรา เราเชื่อมั่นว่าพันธกิจใหม่นี้ ไม่เพียงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เราทุกคนพึงกระทำ”

กิตติ หวังวิวัฒน์ศิลป์  ประธานคณะทำงานบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวถึงที่มาของการพัฒนาถาด PLAว่า เกิดจากนโยบายและแนวทางปฏิบัติด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนของบริษัท ที่นอกจากจะคำนึงถึงความปลอดภัยของอาหารแล้ว ซีพีเอฟยังให้ความสำคัญกับการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุแทนพลาสติก หรือ พลาสติกที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ ควบคู่กับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เอื้อต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ได้(Recycle) ให้มากที่สุด

ในช่วง 5ที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้ใช้ถาดชนิดดังกล่าวไปแล้วกว่า 20ล้านชิ้น ช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 807,700กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากความสำเร็จนี้ นวัตกรรมถาดPLA ของซีพีเอฟ จึงได้รับรางวัลชมเชย จากกิจกรรม Thailand Research Expo 2020 Award ในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563

“นอกจากถาดชีวภาพแล้ว ซีพีเอฟยังเดินหน้าศึกษาและออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหารเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การใช้วัสดุชนิดเดียว (mono material) ตลอดทั้งชิ้นกับสินค้าไก่ปรุงสุกแช่แข็ง ตรา Kitchen Joy ที่วางจำหน่ายในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย เพื่อให้สามารถนำบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ 100% และมีการต่อยอดใช้กับสินค้าอื่น ๆ ต่อไป”

จากเป้าหมายนโยบายบรรจุภัณฑ์พลาสติกของบริษัทฯที่นำมาใช้จะต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) นำมาใช้ใหม่ (Recyclable) นำไปผลิตเป็นสินค้าอื่นใหม่ได้ (Upcyclable) หรือ สามารถย่อยสลายได้ (Compostable) 100%สำหรับกิจการในประเทศไทย ในปี 2568และกิจการในต่างประเทศจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี2573

“ปัจจุบันซีพีเอฟได้ออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารทำมาจากพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Recyclable plastic) คิดเป็นร้อยละ99.5 ของปริมาณบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ทั้งหมดสำหรับกิจการในประเทศ”

You Might Also Like