17 กรกฎาคม 2567…สร้างเสริมประสบการณ์ด้านธุรกิจให้แก่เยาวชนระดับมัธยมศึกษาของจังหวัดน่าน จำนวน 50 คน จาก 13 โรงเรียน ตลอดระยะเวลา 79 วัน
ดร.อดิศวร์ หลายชูไทย กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา เปิดเผยผลการดำเนินโครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นปี 2567 ตลอดระยะเวลา 79 วัน เยาวชนได้เรียนรู้การทำธุรกิจและลงมือปฏิบัติจริงผ่านแคมป์เพาะกล้า เพื่อฝึกฝนทักษะเบื้องต้นในการเป็นผู้ประกอบการ เยี่ยมชมสถานประกอบการในจังหวัดน่าน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่แคมป์หลักอีก 3 แคมป์ ได้แก่
แคมป์ที่ 1 กล้าเรียน เพื่อปูพื้นฐานในการสร้างสรรค์ไอเดียธุรกิจ ความเป็นไปได้ และเรียนรู้สิ่งที่จำเป็นในการทำธุรกิจ นำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาไอเดียธุรกิจที่มีคุณค่า เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และนำไปทดลองตลาด (Minimum Viable Product: MVP)
แคมป์ที่ 2 กล้าลุย เพื่อบุกตลาด ลงมือขาย พบลูกค้าตัวจริง เรียนรู้จุดเด่น จุดด้อย เพื่อพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการ และเดินหน้าจัดจำหน่ายเป็นธุรกิจจริง
แคมป์ที่ 3 กล้าก้าว เพื่อรายงานและนำเสนอผลประกอบการจากการทำธุรกิจจริงในระยะเวลา 2 เดือนต่อคณะกรรมการ ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและนักธุรกิจตัวจริง รวมถึงผู้ถือหุ้นที่เป็นเจ้าของทุนที่ใช้ในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการยังได้เปิดโลกทัศน์เรียนรู้ประสบการณ์จากบุคคลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จด้านธุรกิจและผู้นำความคิดด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับประเทศตลอดช่วงเวลาของการเข้าแคมป์อีกด้วย
ในกระบวนการเรียนรู้ใช้การทำโครงงานฐานวิจัยเป็นกลไกในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น ซึ่งในกระบวนการทำโครงงานฐานวิจัย เยาวชนได้ใช้เรื่องการทำธุรกิจหรือการเป็นผู้ประกอบการมาเป็นหลัก และได้ลงมือทำจริงด้วยตนเอง จึงได้รับทั้งความรู้ ทักษะ และประสบการณ์จริง พร้อมได้รับแนวคิดจากผู้ประกอบการ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการในการประกอบอาชีพต่าง ๆ ได้ในอนาคต
โรงเรียนที่มีผลการประเมินพัฒนาการโดดเด่น 3 อันดับแรก ได้แก่
1.ทีมโรงเรียนเมืองยมวิทยาคารและโรงเรียนหนองบัวพิทยาคม
2.ทีมโรงเรียนนาหมื่นพิทยาคม
3.ทีมโรงเรียนแม่จริม และทีมโรงเรียนสาธุกิจประชาสรรค์ รัชมังคลาภิเษส่วนโรงเรียนสารทิศพิทยาคมที่ได้รับการประเมินว่าเป็นทีมที่สามารถปรับตัว แก้ปัญหา และเดินหน้าโครงการได้อย่างต่อเนื่องแม้จะเจออุปสรรคอย่างมากก็ตาม
ดร.อดิศวร์ กล่าวตอนท้ายว่า จุดมุ่งหมายของมูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา ไม่ใช่การสร้างนักธุรกิจที่เก่งที่สุดหรือหาทีมที่ขายสินค้าได้มากที่สุด แต่เป็นการให้โอกาสในการเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ประกอบการครั้งแรกในชีวิตให้กับเยาวชนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ต่อไปในอนาคต และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล ตลอดจนการเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ ที่จะเป็นผู้นำในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และสามารถเผยแพร่แบ่งปันความรู้ใหม่ ทักษะใหม่ และประสบการณ์ เพื่อทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเกิด ชุมชน สังคม และประเทศชาติได้อย่างยั่งยืน
ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์มูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา https://www.pohpunpanyafoundation.org/