ALTERNATIVE

จะทำธุรกิจอย่างไรให้ ‘ช่วยโลก’ + ‘ทำเงิน’ ด้วย นั่นคือโจทย์ที่ผู้นำต้องคิด

28 มิถุนายน 2566…ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับองค์กรพันธมิตร จัดสัมมนา “SET Sustainability Forum : จากเป้าหมายความยั่งยืน…สู่การปฏิบัติ” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขัน ขยายโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายที่ทุกภาคส่วนกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) รวมทั้งการออกกฎเกณฑ์การทำธุรกิจที่เข้มงวดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพยุโรป (CBAM) และการพิจารณาให้สินเชื่อที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีผลในไตรมาสที่ 3/2566

“สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อจัดการกับความเสี่ยงและหาโอกาสใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ ทั้งองค์กรต้องเคลื่อนไปพร้อมกัน โดยเริ่มจากผู้นำองค์กรในการกำหนดทิศทางและวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน เชื่อมโยงสู่ฝ่ายจัดการ พนักงานทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน และสุดท้าย ESG จะถูกบูรณาการให้กลายเป็น DNA และ Culture ขององค์กรในที่สุด”

สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะผู้นำองค์กรที่ต้องบริหารจัดการธุรกิจภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงและรวดเร็ว โดยเปิดเผยว่า

“ธุรกิจกับความยั่งยืน นั้นสามารถขับเคลื่อนไปบนถนนสายเดียวกันได้ เราจะทำธุรกิจอย่างไรที่จะ ‘ช่วยโลก’ ด้วย ‘ทำเงิน’ ด้วย นั่นคือโจทย์ที่ผู้นำองค์กรต้องคิด และบริหารจัดการเพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายและกลยุทธ์ที่ทำให้ทุกคนในองค์กรมองเห็นเป้าหมายเดียวกันและไปด้วยกัน และเราจะเป็นธุรกิจที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน”

วรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บมจ. เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ในฐานะผู้บริหารที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนในองค์กรสู่การปฏิบัติจริงว่า

“ทุกวันนี้ เป็นที่ยอมรับว่า ประเด็นด้านความยั่งยืน มีความสำคัญกับองค์กร ซึ่งในมิติความยั่งยืน E S และ G มีหลากหลายประเด็นที่ล้วนสำคัญทั้งในด้านการสร้างโอกาสทางธุรกิจ และการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ดังนั้น ESG Data จึงมีบทบาทในการช่วยจัดลำดับความสำคัญของประเด็นต่าง ๆ ที่กระทบกับองค์กร ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตอันใกล้ เราจะเห็นว่า ESG Data จะทวีความสำคัญเทียบเท่า Financial Data และข้อมูลทั้งสองประเภทจะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ทำให้ CFO ต้องเข้ามามีบทบาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้ถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์แนวทางบริหารจัดการและทิศทางการลงทุนในอนาคตของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ในฐานะผู้ลงทุนสถาบันที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนของประเทศไทยได้เน้นย้ำว่า

“ปัจจุบันเทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก ทำให้มีกระแสเงินลงทุนมหาศาลไหลเข้าสู่การลงทุนในกิจการที่คำนึงถึง ESG กบข. ตระหนักถึงบทบาทของการเป็น “นักลงทุนที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ทั่วโลก (Universal Owner)” เชื่อว่า กบข. สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีระยะยาวให้กับสมาชิกควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนทางสังคม จึงได้กำหนดกรอบนโยบายและแนวทางในการลงทุนที่สนับสนุนการนำปัจจัยด้าน ESG มาบูรณาการพร้อมทั้งเพิ่มกระบวนการ Positive Engagement เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมมือกันยกระดับการดำเนินงานด้าน ESG ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบที่ยั่งยืนต่อไป”

ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียรอบด้านและปฏิบัติตามหลักบรรษัทภิบาลอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งพัฒนา Ecosystem ของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างความรู้ความเข้าใจ รวมถึงสร้างเครื่องมือด้าน ESG เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจ อาทิ ระบบจัดการข้อมูลความยั่งยืน ESG Data Platform เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลด้าน ESG ระหว่างบริษัทจดทะเบียนกับผู้ลงทุน อีกทั้งรวบรวมบุคลากรที่ทำงานด้านความยั่งยืนในตลาดทุน (SET ESG Experts Pool) เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนา ESG ในวงกว้าง

 

You Might Also Like