8 มิถุนายน 2568…เนสท์เล่ (ไทย) เป็น 1 ใน 5 บริษัทแรกที่ได้รับการคัดเลือกเป็นพื้นที่นำร่องสำหรับการดำเนินงานอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตพื้นที่คุ้มครอง (Other Effective area-based Conservation Measures: OECMs) สำหรับพื้นที่บนบกและแหล่งน้ำบนบกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
เนสท์เล่ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมสร้างการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำในบริเวณพื้นที่ชุมชนคลองขนมจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเป็นเวลา 10 ปี และได้ต่อยอดสู่การให้ความรู้ และสร้างความร่วมมือในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชน
สลิลลา สีหพันธุ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์หลักของเนสท์เล่ในการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค (Good for You) และเพื่อโลกของเรา (Good for the Planet) ได้ดำเนินงานด้านความยั่งยืนอย่างครบทุกมิติเพื่อมุ่งสู่การลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero 2050)
“การที่โครงการเนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำถูกเลือกให้เป็น OECMs ในครั้งนี้ สะท้อนถึงความสำเร็จก้าวแรกในการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความยั่งยืนให้แก่สิ่งแวดล้อม และจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เนสท์เล่เดินหน้าตามแผนงานในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพนอกเขตพื้นที่คุ้มครอง ไปสู่เป้าหมายในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้โลกน่าอยู่มากยิ่งขึ้น”
ดร. ชญานันท์ ภักดีจิตต์ เลขาธิการสํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบายถึงสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. มีความมุ่งมั่นในการผลักดันและดำเนินงานในการอนุรักษ์ฟื้นฟูด้านความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับพื้นที่บนบกและแหล่งน้ำบนบกเพื่อให้เกิดความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
“การที่ภาคเอกชนอย่างบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ยกระดับพื้นที่บริเวณคลองขนมจีนให้เป็นพื้นที่นำร่อง OECMs ภายใต้มาตรฐานระดับสากล แสดงถึงความสำเร็จอันโดดเด่นของโครงการ เนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำในการส่งเสริมและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ครอบคลุมการดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำแบบองค์รวม รวมถึงการเสริมศักยภาพของชุมชนท้องถิ่นผ่านการให้ความรู้และการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในเชิงรุกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย”
โครงการ “เนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ เป็นโครงการด้านความยั่งยืนที่เนสท์เล่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานถึง 10ปี ที่บริเวณชุมชนรอบคลองขนมจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้แนวทางหลัก 3 ด้านอย่างครบวงจรเป็นรายแรก ได้แก่ เรียนรู้ ปกป้อง และฟื้นฟู ผ่านการให้ความรู้และปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์และจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ปกป้องแหล่งน้ำไม่ให้มีขยะหลุดลอด ผ่านกิจกรรม เช่น ตลาดนัดขยะชุมชนที่เปลี่ยนขยะเป็นรายได้ ฟื้นฟูแหล่งน้ำด้วยการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้ระบบนิเวศน้ำ เช่น การจัดทำบ่ออนุรักษ์พันธุ์ปลาท้องถิ่นหายาก เช่น ปลากระทิง ปลาหลด ปลาแดง ปลาหมู เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนการปลูกพืชน้ำ เช่น กระจับ แพงพวยน้ำ บัวสาย และกระเฉดที่ชาวบ้านสามารถนำไปบริโภค และสามารถสร้างรายได้ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการช่วยให้วิถีชีวิตของชาวบ้านโดยรอบบริเวณพื้นที่คลองขนมจีนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ด้วยการส่งเสริมให้ชาวบ้านเก็บผักตบชวาที่เป็นวัชพืชในแหล่งน้ำมาตากแห้งและถักเป็นกระเป๋าขาย เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้เสริมให้กับชาวบ้านบริเวณโดยรอบ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเนสท์เล่ได้ดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.), กรมชลประทาน, กรมประมง และ WWF ประเทศไทย รวมไปถึงวงษ์พาณิชย์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ และส่งต่อสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ให้กับคนรุ่นต่อไป
นอกจากนี้ โครงการเนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ ยังเป็นการสนับสนุน สผ. ในการผลักดันเป้าหมายด้านความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 30×30 OECMs และเนื่องในวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ เนสท์เล่ได้จัดกิจกรรมสร้างการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพผ่านการนำเสนอนิทรรศการที่บอกเล่าถึงทฤษฎีและแนวทางปฏิบัติของโครงการ “เนสท์เล่ น้ำรักษ์น้ำ” รวมถึงกิจกรรม DIY ที่ผู้เข้าร่วมจะได้ประดิษฐ์พวงกุญแจจากลูกปัดหลากสีซึ่งรีไซเคิลจากฝาขวดน้ำ และตกแต่งด้วยตัวแมลงปอหรือปลาตะเพียนจักสานจากผักตบชวา ภายใต้แนวคิด “Play and Learn” การสาธิตเชิงปฏิบัติการนี้มุ่งเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติ และการเปลี่ยนขยะให้เป็นสิ่งของที่มีคุณค่าอย่างสร้างสรรค์ ที่สื่อถึงการบรรลุผลลัพธ์เชิงบวกและความยั่งยืนในระยะยาวสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย