กรมบัญชีกลาง รุกหนัก “จัดซื้อจัดจ้างสีเขียว” คาดเริ่มปีงบประมาณ 2569 

7-8 พฤษภาคม 2568… แพตริเซีย มงคลวนิช  อธิบดีกรมบัญชีกลาง เผยความพร้อม “จัดซื้อจัดจ้างสีเขียว” ที่กรมบัญชีกลางจะต้องเป็นแม่งาน โดยมีความชัดเจน

7-8 พฤษภาคม 2568… แพตริเซีย มงคลวนิช  อธิบดีกรมบัญชีกลาง เผยความพร้อม “จัดซื้อจัดจ้างสีเขียว” ที่กรมบัญชีกลางจะต้องเป็นแม่งาน โดยมีความชัดเจนทั้ง Direction  FarmeWork  Milestone  เพื่อ ภาครัฐสีเขียว ลดต้นทุนประเทศ

แพตริเซีย กล่าวภายในงานสัมมนาเรื่อง “Net Zero ด้วยการจัดซื้อจัดจ้างที่ยั่งยืน” โดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development หรือ TBCSD) ในฐานะเครือข่ายธุรกิจด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดเครือข่ายหนึ่งของประเทศที่เกิดจากการรวมตัวกันขององค์กรภาคธุรกิจไทยและรัฐวิสาหกิจชั้นแนวหน้า จำนวน 46 องค์กรที่เป็นผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน อันครอบคลุมทุกกลุ่ม อุตสาหกรรมหลักของประเทศ ได้มีความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานองค์กรภาคธุรกิจไทยไปสู่ องค์กรต้นแบบธุรกิจคาร์บอนต่ำและยั่งยืน ร่วมกับ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (Thailand Environment Institute หรือ TEI) เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมที่มีบทบาทสำคัญในการมีส่วนร่วมในการยกระดับการบริหารจัดการ สิ่งแวดล้อมอันครอบคลุมทุกมิติ

Direction

อธิบดีกรมบัญชีกลาง ขอโฟกัสที่ Good Governance กรมบัญชีกลางละเลยเรื่อง Good Governance ไม่ได้เลย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการคุมกฎหลายหลายอย่าง เพราะฉะนั้น Good Governance จะต้องเป็นตัวใหญ่ ที่จะต้องขับเคลื่อนองค์กรและประเทศตามมาอีกเรื่อง คือ Green and Sustainable  Procurement

 

 

 

“เราใส่เรื่องนี้เข้าไปในตัว Direction ของกรมบัญชีกลาง เพราะเราอยากเห็นเรื่องนี้จริง ๆ ภาครัฐสีเขียว ลดต้นทุนประเทศ”

 

แพตริเซีย กล่าวต่อเนื่อง ภาครัฐสีเขียว ลดต้นทุนประเทศ เพราะเชื่อว่าในระยะยาว ถ้าไม่เริ่มวันนี้ Cost ของประเทศสูงขึ้นแน่ เพราะประเทศจะต้องมีการใช้จ่ายมากขึ้น ทั้งในแง่ของภาครัฐเอง บริษัทเอกชนเอง ไปไกลแน่ถ้าไม่เริ่มวันนี้ แต่ถ้าอ่านแยกกันภาครัฐสีเขียว ก็คือตัว G จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้กับการลดต้นทุนประเทศ

 

“ที่กรมบัญชีกลางทํา คือลดเวลาในการทํางานทางภาครัฐ และก็ภาคเอกชน ในการดีลกับกรมบัญชีกลาง ลด Cost ของประเทศทั้งหมด ในการลดงานเรารู้ว่าภาคเอกชนในการประสานงานกับภาครัฐ ใช้ข้อมูล ใช้เอกสารจำนวนมาก ใช้เวลามาก  ถ้าเราทำให้ท่านลดเรื่องดังกล่าว 1 ชั่วโมง ท่านไปทํางานได้เพิ่มขึ้น”

FrameWork

“เราไปเซ็นต์ COP 26 มี Commitment ทั้งเรื่องของ Carbon Neutrality แล้วก็ Net Zero ซึ่งภาครัฐ Commit  แต่เป็น Commitment ให้เอกชนทํา แล้วภาครัฐทําอะไร  ในฐานะที่ตัวเองเป็นมนุษย์กรีน  ก็คิดว่า Green Procurement  ต้องมี กรมบัญชีกลางจะต้องเป็นองค์กรหลักของรัฐในการเดินหน้าเรื่องนี้  เราก็ต้องไปศึกษาว่าประเทศต่าง ๆ ที่ผลักดันเรื่อง Green Public Procurement มีอะไรบ้าง”

 

แพตริเซีย กล่าวต่อเนื่องว่า คนที่ดูแลเรื่องนี้ ต้องลุกขึ้นมาทําให้ชัดเจน  และคนที่มีบทบาทหลักคนหนึ่งคือกรมบัญชีกลาง จึงจับเรื่องนี้ขึ้นมาทํา เพื่อเป็นหลักให้ประเทศไทย  อย่างน้อยมีเป้าหมายแล้วก็มีตัวเลข และก็มีอิมแพค มีผลว่าประเทศไทยกําลังมุ่งเข้าสู่ SDGs จริง Carbon neutrality จริง Net Zero จริง

 

นอกจากนี้ การกำหนดรายการสินค้า/บริการ/วัสดุก่อสร้างสีเขียว ต้องเริ่มจาก “Green” ก่อน “Sustainable” กรมบัญชีกลางเตรียมคัดเลือกรายการสินค้าบริการและวัสดุก่อสร้างที่จะเข้าระบบจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว โดยใช้ฐานข้อมูล “ตะกร้าเขียว” ที่มีอยู่แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะจัดกลุ่มหรือปรับให้ใช้งานง่ายขึ้นอย่างไร

 

ประเดิมการกำหนด “ผู้เล่น” และ “หน่วยงานนำร่อง” โดยเน้นเริ่มต้นจากภายใน เช่น บังคับใช้กับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง หรือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนขยายผลไปทั่วทั้งระบบ เพราะการเปลี่ยนแปลงจากภาครัฐจะส่งผลกระทบสูงและรวดเร็ว  โดยที่สุดของ FrameWork คือ “การติดตามและประเมินผล” เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม

Milestone

อธิบดีกรมบัญชีกลางเกล่าวต่อเนื่อง ตรียมเริ่มบังคับใช้ “สินค้าเขียว” กับหน่วยงานรัฐในปีแรก โดยเน้น สินค้าที่มีอยู่แล้วในตลาด และมีราคาที่แข่งขันได้ เพราะรัฐต้องใช้งบประมาณอย่างจำกัดและมีประสิทธิภาพ ไม่สามารถใช้สินค้าสีเขียวในทุกหมวดหมู่ได้พร้อมกันทันที หากราคายังสูงเกินไป

 

 

 

อย่างไรก็ตาม สินค้าเขียวไม่ได้แพงเสมอไป  ปัจจุบันมีหลายรายการที่ผลิตได้ในราคาที่ใกล้เคียงกับสินค้าทั่วไป และสามารถขยายการใช้งานในภาครัฐได้จริง

“การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเฉพาะผ่าน พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้าง คิดเป็น 7% ของ GDP ประเทศไทย แต่ละปีก็หลายแสนล้านบาท และหากรวมงบประมาณผ่าน PPP หรือเงินนอกงบประมาณ อาจสูงถึง 10% ของ GDP ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่มีสินค้าสีเขียวในการเข้าสู่ระบบราชการได้มากขึ้น  ในอนาคตท่านจะมีตลาดจากภาครัฐแน่นอนปีที่ 1 บังคับประมาณ 44 ประเภท 12 สินค้าบริการ  ปีที่2 ก็จะเพิ่มขึ้นมาอีก 3 ประเภท 5 สินค้าบริการ  ปีที่ 3 อีก 2 ประเภท 3 สินค้าบริการ ”

“เชิญเลยนะคะ ขึ้นทะเบียนได้” ข้อความเปิดเชิญตรงจากอธิบดีกรมบัญชีกลางถึงผู้ประกอบการที่พร้อมเข้าสู่ตลาดจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว

 

แพตริเซีย ไม่ปฏิเสธว่า เส้นทางสู่การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว มองระยะสั้นราคาก็จะสูง แต่เชื่อว่าค่าใช้จ่ายในการระยะยาวประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้  โดยทางกรมบัญชีกลางวางเป้าหมายให้ใช้ได้ในปีงบประมาณ 2569

 

อย่างไรก็ตาม ด้านหนึ่งกรมบัญชีกลางเดินหน้าการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว  อีกด้านก็ต้องเร่งการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนต้องเริ่มจาก “สามัญสำนึก” และการศึกษาประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนไม่มากพอ ทั้งการ รียูส รีไซเคิล และการจัดการขยะ โดยเฉพาะ ขยะอาหาร (Food Waste) ที่ยังถูกมองข้าม แม้จะสูญเสียงบประมาณไปมหาศาลจากพฤติกรรม “กินทิ้งกินขว้าง”

 

 

หนึ่งในปัญหาคือ การศึกษาที่ไม่ปลูกฝังแนวคิดนี้ตั้งแต่เด็ก ต่างจากบางประเทศที่สอนเด็กให้เห็นคุณค่าของขยะ เช่น ขวดนมต้องพับ-ล้าง-แยกอย่างถูกวิธี  แม้จะมีหลายแห่งเริ่มทำงานเรื่องนี้ แต่ยังไม่เพียงพอในสังคมไทย

 

ความเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจาก “ตัวเรา คนรอบตัว และการสร้างสามัญสำนึกใหม่ให้กับสังคม”

 

มาถึงช่วงท้าย อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงความท้าทายที่สุดระหว่างส้นทางสู่การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว

“เรื่อง Green Washing ก็คือ การฟอกให้กรีน ไม่ได้กรีนแท้  หรือการหาช่องโหว่ ต่าง ๆ คนไทยหาช่องโหว่เก่งมาก ทําให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เยอะแยะนะคะ ก็คนที่ควบคุมก็ต้องดูว่า Green Washing เขาจะทําอย่างไร  เรื่องต่อมาภาครัฐต้องไม่เป็นอุปสรรคของการขับเคลื่อนเรื่องนี้ เพราะว่าเวลาภาคเอกชนยื่นขอเรื่องใดเรื่องหนึ่งทราบอยู่ว่า โอ้โห!ใช้เวลาแต่ละเรื่อง กว่าจะอนุมัติยากเหลือเกิน  เวลายาวนานเหลือเกิน Speed ต้องมา  แต่ไม่ใช่ Speed เป็นเรื่องนํา  เรื่อง Compliance เป็นเรื่องหลัก เรื่อง Risk ด้วย เมื่อ Speed แล้วตามมาด้วย Seamless การควบคุมต้องไม่ใช่อุปสรรค   เชื่อว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ Green and Sustainable  Procurement ได้อย่างแท้จริง”