ตุลาคม 19,2025…เข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียวได้ง่ายขึ้น และใช้เป็นเครื่องมือเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนในชีวิตจริง ภายใต้หลัก “Living Together” ที่เชื่อมโยงกับ SDGs 11 และ SDGs 14
ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าสายงานด้านความยั่งยืนองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น นิสากร หวั่งหลี รองผู้อำนวยการ บริษัท พันธวนิช จำกัด และเยาว์ณิชา หอมเศรษฐี หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ธนาคารทหารไทยธนชาติ จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงความร่วมมือ ครั้งแรกในเอเชีย ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดโมเดล “Green Financing Program” หนุนคู่ค้าเข้าถึงเงินทุน เพื่อความยั่งยืน เร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Scope 3 มุ่งสู่เป้า Net Zero 2050 ไปด้วยกัน
พันธวณิช ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม e-Procurement “Supplier 360” จะประเมินคุณภาพซัพพลายเออร์ผ่านระบบ Supplier Assessment ที่ตรวจสอบทั้งประวัติ ความมั่นคงทางการเงิน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Compliance) รวมถึงคะแนน GHG Emissions เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้สินเชื่อ
ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) ในฐานะพันธมิตรทางการเงินหลัก โดยออกแบบสินเชื่อสีเขียว 4 ประเภทให้ซัพพลายเออร์เลือกใช้ได้ตามความพร้อม ตั้งแต่ Green / Blue Loan สำหรับโครงการพลังงานสะอาด, Linked Loan ระยะสั้น สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์ ESG, Solar EPC Loan เพื่อการติดตั้งโซลาร์เซลล์ครบวงจร และ EV Loan สำหรับการเปลี่ยนยานพาหนะขนส่งเป็นไฟฟ้า
ในมุมปฏิบัติ ปัจจุบันมีซัพพลายเออร์กว่า 1,200 รายผ่านการประเมิน และมากกว่าครึ่งแสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการ
ภายใต้โมเดล “Green Financing Program” จะต้องมีเรื่องความปลอดภัยของคนทำงาน ทรูย้ำว่าความยั่งยืนจะไม่มีความหมายเลย หากคนที่อยู่ในระบบต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อขับเคลื่อนไปสู่ Net Zero ดังนั้นเป้าหมาย “Zero Fatalities” หรืออัตราการเสียชีวิตจากการทำงานเป็นศูนย์ จึงถูกกำหนดให้เป็นวัฒนธรรมหลักของทั้งองค์กรและซัพพลายเอ พร้อมถ่ายทอดแนวปฏิบัติ “Think Before Act, Report Immediately, Use Equipment Correctly, Educate Yourself” เพื่อให้ซัพพลายเออร์ในสายก่อสร้าง ติดตั้งโครงข่าย และซ่อมบำรุงกว่า 36% ของคู่ค้าทั้งหมด สามารถปรับมาตรฐานความปลอดภัยให้เทียบเท่าองค์กรหลักได้
ซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า
“เรามองว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อุปทาน ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนผ่านโครงการ Green Financing หรือการยกระดับมาตรฐานสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน เพราะเบื้องหลังเครือข่ายที่แข็งแกร่งของทรู คือการทำงานอย่างทุ่มเทของผู้คนในภาคสนาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘ความปลอดภัยของคนทำงาน’ เราตั้งเป้าหมาย Zero Fatalities หรือการไม่มีการสูญเสียชีวิตจากการทำงานแม้แต่รายเดียว พร้อมยกระดับมาตรฐานสุขภาพและความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยในทุกวัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ทรูตั้งใจเดินไปพร้อมกับพันธมิตรทุกคน”
การไม่มีการสูญเสียชีวิตจากการทำงานแม้แต่รายเดียว เป็นไปตามแนวทาง “Stay TRUE to Safety” เป็นหลักการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนในห่วงโซ่อุปทานเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันอย่างปลอดภัยสูงสุด
ทั้งนี้ ทรูยังได้ดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้นและเป็นระบบในทุกขั้นตอนของการทำงาน ได้แก่
-ปรับปรุงและเข้มงวดสัญญากับซัพพลายเออร์ในพื้นที่เสี่ยงสูง: เพิ่มข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่ชัดเจน กำหนดให้ต้องมีการอบรมกระบวนการปฏิบัติงานมาตรฐาน (SOP) อย่างเข้มงวด จัดหาอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) และกำหนดกรอบบทลงโทษและการชดเชยอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีความรับผิดชอบและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
-ยกระดับการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยให้กับซัพพลายเออร์: ผ่านการทดสอบหลังการอบรมและการรับรอง เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานภาคสนามมีความรู้ ความสามารถ และตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล: ในการติดตามความพร้อมของสัญญาและเฝ้าระวังประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ทรูทำอาจดูเหมือนเรื่องไกลตัวของผู้บริโภค แต่แท้จริงแล้วนี่คือ “โครงสร้างพื้นฐานของความไว้วางใจ” เมื่อคู่ค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อสีเขียว ติดตั้งโซลาร์รูฟ หรือเปลี่ยนรถขนส่งเป็น EV สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนกลับมาเป็นบริการที่สะอาด ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ทุกคน
เพราะสุดท้าย “ความยั่งยืน” ไม่ใช่เพียงนโยบายหรือรายงาน แต่คือการสร้างระบบที่คนทุกคนในเครือข่ายสามารถเติบโตและปลอดภัยไปพร้อมกัน หมัดตรงของทรูจึงไม่เพียง Hit to the Point ในเชิงธุรกิจ แต่ยัง Hit to the Heart ในความหมายของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนบนโลกใบเดียวกัน
