NEXT GEN

เทรนด์การเติบโตพันธบัตรลดความเหลื่อมล้ำทางเพศ (Gender Bond) ในปี 2022

11-14 สิงหาคม 2565… ความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งรวมปัจจัยตามเพศสภาพ เช่นความเป็นผู้นําของผู้หญิง การจ้างงานหรือการบริโภคเข้ากับกลยุทธ์และการวิเคราะห์การลงทุนของนักลงทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงชี้ให้เห็นว่าในตลาดตราสารหนี้เกี่ยวกับความยั่งยืนที่มีมากมายนั้น ให้ความสำคัญลำดับแรก ๆ กับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ

การลงทุนอย่างยั่งยืนเติบโตอย่างมีนัยสําคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมุ่งเน้นปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล ( ESG ) จากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มนี้คาดว่าจะดําเนินต่อไป โดยคาดว่าการออกพันธบัตร ESG ทั่วโลกจะเกิน 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปี 2022 อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางฉากหลังของความต้องการที่เพิ่มขึ้นสําหรับการจัดหาเงินทุนที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความพร้อมของผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ทุ่มเทให้กับการแก้ไขปัญหาเรื่องเพศและการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศยังคงมีจํากัด มีสินทรัพย์ทั่วโลกเพียง 17,000 ล้านเหรียญสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีป้ายกํากับเพศ เป็นเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ของภาพรวมการลงทุนด้านความยั่งยืนทั่วโลกที่มีมูลค่าสูงกว่า 40 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อปลายปีที่แล้ว สมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (International Capital Markets Association -ICMA) ร่วมกับบรรษัทการเงินระหว่างประเทศและ UN Women ออกเอกสารให้ข้อมูลเกี่ยวกับพันธบัตรเพื่อลดช่องว่างระหว่างเพศ หรือโดยสรุปคือ เป็นพันธบัตรที่เน้นความเท่าเทียมทางเพศ

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2565 โครงการพลังงานคาร์บอนต่ำของอาเซียน (ได้รับทุนจากสํานักงานต่างประเทศเครือจักรภพและการพัฒนาแห่งสหราชอาณาจักร) ได้เผยแพร่คู่มือการบูรณาการการพิจารณาเรื่องเพศสภาพกับพันธบัตรยั่งยืน ร่วมกับ Gender Smart สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (“IISD) “) และ Kite Insights ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ของ ICMA และ UN Women

ที่มา คลิกที่ภาพ

คู่มือนี้ตั้งข้อสังเกตว่า ความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการเงินซึ่งรวมปัจจัยตามเพศสภาพ เช่นความเป็นผู้นําของผู้หญิง การจ้างงานหรือการบริโภคเข้ากับกลยุทธ์และการวิเคราะห์การลงทุนของนักลงทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงชี้ให้เห็นว่าในตลาดตราสารหนี้เกี่ยวกับความยั่งยืนที่มีมากมายนั้น ให้ความสำคัญลำดับแรกๆ กับเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ กล่าวได้ว่าเป็นโอกาสสําหรับผู้ออกตราสารหนี้ที่จะสร้างความแตกต่างและตอบสนองความคาดหวังของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น

จากประมาณการที่ว่า ตราสารหนี้ประเภทนี้ จะสามารถเพิ่ม GDP โลกได้มากถึง 28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 26 เปอร์เซ็นต์ในปี 2025 จากการปิดช่องว่างระหว่างชายหญิงในระบบเศรษฐกิจ คู่มือชี้ชัดว่าความเท่าเทียมทางเพศจะยังคงเป็นประเด็นสําคัญในตลาดตราสารหนี้ในปี 2022 สิ่งที่เกิดขึ้นและสอดคล้องกับมุมมองนี้ คือ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 ตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์กและ UN Women ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและส่งเสริมความคิดริเริ่มร่วมกันเพื่อพัฒนาการเงินทางเพศ

Gender Bond เป็นพันธบัตรที่รวมการพิจารณาเรื่องเพศเข้ากับวัตถุประสงค์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักในความไม่เท่าเทียมกันทางเพศและเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิง จุดมุ่งหมายของ Gender Bond คือการเข้าถึงความสนใจของนักลงทุนในการผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมทางเพศผ่านการออกพันธบัตร

เช่นเดียวกับพันธบัตรอื่น ๆ นักลงทุนสามารถซื้อ Gender Bond ได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ เอกชนในประเทศหรือต่างประเทศ Gender Bond สามารถใช้กับโครงการที่หลากหลาย รวมถึงโครงการความคิดสร้างสรรค์ เช่น การจ่ายค่าจ้างในอัตราสูงกว่าเดิมให้แก่ผู้หญิง ซึ่งมีเป้าหมายหลักคือให้หลุดพ้นจากความยากจน หรือกําหนดเป้าหมายการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลสําหรับผู้ประกอบการสตรี

การออก Gender Bond ทำได้ 2 วิธี

การใช้เงินตามขั้นตอน ซึ่งกําหนดให้ผู้ออกหุ้นกู้ต้องใช้เงินทั้งหมดจากการออกพันธบัตรเพื่อดําเนินการตามประเภทของโครงการที่ระบุก่อนการออกพันธบัตร และการใช้เงินตามประสิทธิภาพของงาน ซึ่งรวมตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลักเชิงปริมาณเพื่อประเมินและเปรียบเทียบผลกระทบ ตลอดจนเพื่อประเมินการปรับปรุงเป้าหมายประสิทธิภาพความยั่งยืนภายในวันที่กําหนด

ตัวอย่างกิจกรรมเกี่ยวกับ Gender Bond ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ประกอบด้วย

-เดือนมกราคม พ.ศ. 2565 Mibanco ได้ออกพันธบัตรสังคมจํานวน 28.4 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราดอกเบี้ย 9% ซึ่งจะครบกําหนดในเดือนมกราคม พ.ศ. 2025 นี่เป็นตราสารหนี้ที่เน้นเรื่องเพศชุดแรกที่นำเสนอต่อสาธารณะในโคลอมเบีย เงินจำนวนดังกล่าวคาดว่าจะถูกนําไปใช้เพื่อเป็นทุนสร้างการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอขององค์กรขนาดเล็กที่นําและ / หรือเป็นเจ้าของโดยผู้ประกอบการสตรีในโคลอมเบีย

ที่มา คลิกภาพ

-วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ในแทนซาเนีย NMB Bank Plc ได้ออกพันธบัตร มูลค่าประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราดอกเบี้ย 8.5 % ครบกําหนดเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินดังกล่าวเพื่อขยายสินเชื่อราคาไม่แพงสําหรับองค์กรและธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของหรือควบคุมโดยผู้หญิงและธุรกิจที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้หญิง นี่เป็นพันธบัตรชุดแรกที่ออกในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก มุ่งเป้าไปที่การเพิ่มขีดความสามารถ ลดความเหลื่อมล้ำทางเพศโดยเฉพาะ

-วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 ในคาซัคสถาน ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียได้ออกพันธบัตรมูลค่า 32 ล้านเหรียญสหรัฐ อัตราดอกเบี้ย 11% ซึ่งจะครบกําหนดในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2573 ซึ่งเป็น Gender Bond ฉบับที่ 2 ที่ออกในประเทศ เงินจำนวนดังกล่าว คาดว่าจะถูกนํามาใช้เพื่อขยายการให้สินเชื่อของธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ แก่ผู้ประกอบการสตรีในพื้นที่ชนบทส่วนใหญ่

-เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2565 อิมแพค อินเวสเมนท์ เอ็กซ์เชนจ์ (“IIX”) ซึ่งเป็นบริษัทในสิงคโปร์ที่มุ่งเน้นการจัดหาเงินทุนเพื่อสังคม เปิดตัว “Orange Bond Initiative” โครงการนี้ตั้งชื่อตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ (“SDG5”) โดยมีเป้าหมายเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงและเด็กหญิงประมาณ 100 ล้านคนทั่วโลกผ่านการใช้เงินลงทุน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนเป้าหมายในปี 2573

แม้มีความคืบหน้าน่าสนใจมากมาย ดังกล่าวข้างต้น กระนั้น ดูเหมือนว่า ตลาดเงินตอบรับ Gender Bond ค่อนข้างช้า เมื่อเทียบกับพันธบัตรสีเขียว (Green Bond) และพันธบัตรที่เชื่อมโยงกับสังคมและความยั่งยืน (Social and sustainability-linked bond)

ที่มา คลิกที่ภาพ

ท้ายสุด ปัจจัยสำคัญ 3 เรื่องที่ส่งผลกระทบโดยตรง ประกอบด้วย

1.โครงสร้างการใช้เงินแบบดั้งเดิมของพันธบัตร ESG กำหนดให้ผู้ออกหุ้นกู้ต้องจัดสรรเงินที่ระดมไปยังหมวดหมู่โครงการกำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งสอดคล้องกับหลักความสมัครใจที่กำหนดโดย ICMA สิ่งนี้จำกัดความสามารถของผู้ออกตราสารบางรายในการเข้าร่วมตลาดตราสารหนี้ที่ยั่งยืน เนื่องจากโครงสร้างองค์กรหรือลักษณะธุรกิจทำให้ไม่สามารถจัดสรรเงินทุนด้วยวิธีนี้

2. อ้างอิงจากการทบทวนกรอบการทำงานเกี่ยวกับพันธบัตรความยั่งยืนทางสังคมมากกว่า 300 ชุดที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (ICMA) ซึ่งคัดเลือกองค์ประกอบที่บ่งบอกถึงการพิจารณาเรื่องเพศ กรอบพันธะที่กำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันทางเพศนั้นค่อนข้างหายาก กรณีของพันธบัตร ESG ที่เน้นเรื่องเพศที่ยังมีค่อนข้างน้อยนั้นน่าจะเกิดจากการที่ผู้ออกหลักทรัพย์จัดลำดับความสำคัญของวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนอื่น ๆ ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับการขาดความรู้ด้านเทคนิค

3. การบูรณาการเป้าหมายทางเพศนั้นไม่ตรงไปตรงมาเหมือนพันธบัตรสีเขียว เนื่องจากกรอบงานตามคำจำกัดความของพันธบัตรสีเขียวนั้นไม่รวมโครงการเพื่อสังคม (และด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดหมวดหมู่แบบเฉพาะเพศ) ผู้ออกหลักทรัพย์จึงไม่สามารถทำตามตัวอย่างพันธบัตรทางสังคมและความยั่งยืนก่อนหน้านี้โดยรวมเป้าหมายทางเพศได้

ที่มา

ที่มา ภาพเปิดเรื่อง คลิก

 

You Might Also Like