NEXT GEN

 ESG Symposium 2022 เอสซีจีXพันธมิตร เร่งเปลี่ยน “ความเสี่ยง”เป็น “โอกาส” เคลื่อน ESG ทั่วอาเซียน

20 กรกฎาคม 2565… เอสซีจีรวมพลัง 315 พันธมิตร รัฐ เอกชน พลังหญิง-คนรุ่นใหม่ สู้วิกฤตโลกรวน เผยแผนเร่งด่วนดันนวัตกรรม Net Zero ครั้งแรกในประเทศ ผนึกความร่วมมือรัฐ เอกชน สู่เศรษฐกิจสังคมคาร์บอนต่ำ

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยในงาน ESG Symposium 2022 :Achieving ESG and Growing Sustainability ว่า ผลกระทบที่เกิดจาก Climate Change หรือโลกรวน ไม่ไ้ด้ทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงแบบที่คนทั่วโลกได้สัมผัสรวมถึงเป็นผู้ประสบภัยจริงเท่านั้น สิ่งนี้ก็ใกล้ตัวคนไทยมากที่สุด เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จู่ ๆ อากาศก็เย็นลง พื้นท่ีๆไม่เคยน้ำท่วมก็ท่วม อากาศร้อนมากขึ้น พืชผลทางการเกษตรก็เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ สิ่งแวดล้อมส่งผลต่อระบบนิเวศที่เกี่ยวข้องต่อสังคมในทุกมิติ ความเหลื่อมล้ำ กลุ่มคนเปราะบาง การคอรัปชั่น

“เราทุกคนได้รับผลกระทบจากวิกฤตเหล่านี้ร่วมกัน ดังนั้นจึงเป็นบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเราทุกคนที่ต้องร่วมแก้ไขวิกฤตของโลกครั้งนี้ โดยเริ่มต้นที่ตัวเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมง่าย ๆ รอบตัว ใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญที่มีร่วมกันหาทางออกเพื่อแก้ไ้ขปัญหาเพื่อโลกเพื่อเราในวันนี้และเพื่อโลกใบเดียวใบนี้ที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป”

ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี เปิดเผยว่า จากการระดมสมองของทุกภาคส่วนในงาน ESG Symposium 2022 ได้ข้อสรุป 2 แนวทาง ที่นำไปสู่การขยายผล และการลงมือปฏิบัติได้จริง เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยบรรลุ
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emissions) ภายในปี 2065 ดังนี้

1.จัดตั้งกลุ่มความร่วมมือ
เร่งสร้างนวัตกรรมเพื่อ Net Zero

ผ่านรูปแบบของ Industrial and Academic Consortium ครั้งแรกในไทย ที่ระดมความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชนจากระดับโลกและระดับประเทศ โดยมีนักวิชาการ ผู้บริหารระดับสูงจากหลากหลายส่วน ทั้งพลังงาน ขนส่ง ไฟฟ้า ปิโตรเคมี ก่อสร้าง อุปโภคบริโภค สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT-Massachusetts Institute of Technology) สมาคมคอนกรีตโลก (GCCA- Global Cement and Concrete Association) สภาอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีสำนักงานสภานโยบาย
การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ  (สอวช.) เป็นผู้ขับเคลื่อน ซึ่งความร่วมมือนี้ มีเป้าหมายเพื่อเร่งทำโรดแมปการสร้างนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนที่ดีที่สุดมาใช้ในประเทศไทย เช่น เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS – Carbon Capture, Utilization and Storage)  การเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงจากฟอสซิลเป็นพลังงานทางเลือก (Fuel Switching) พลังงานไฟฟ้า (Electrification) และระบบพลังงานที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง (Hydrogen Economy) คาดว่าจะมีความชัดเจนปลายปีนี้

Mr. Peter Bakker, ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCS) Ms. Bonnie Leung, Director, BlackRock Sustainable Investing Mrs. Elisabeth Brinton, Corporate Vice President, Sustainability, Microsoft H.E. Dato Lim Jock Hoi เลขาธิการอาเซียน อมินตา เพิ่มพูนวิวัฒน์ เยาวชนผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วม UN Youth for climate เมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ, CEO of Vulcan Coalition

2.การผนึกกำลังขยายเครือข่าย
มีความร่วมมือสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

ผ่านความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตภาคเอกชน 60 องค์กร ครอบคลุมมิติด้านพลังงานทางเลือก เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดการบริโภคอย่างยั่งยืน เช่น 
กลุ่มเครือข่ายความร่วมมือ 23 องค์กรธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (CECI-Circular Economy in Construction Industry) และโครงการความร่วมมือ PPP Plastics (Public Private Partnership for Sustainable Plastic and Waste Management) สร้างต้นแบบการจัดการขยะพลาสติก นำกลับมาสู่กระบวนการรีไซเคิล ขับเคลื่อนโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) องค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) และพันธมิตรกว่า 30 องค์กร โดยจากการระดมสมองของภาคเอกชนในครั้งนี้ ได้นำไปสู่ความร่วมมือกับภาครัฐเดินหน้า 10 แนวทางการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ อาทิ โครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน สนับสนุนด้านเงินทุน สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับพลังงานสะอาด การจัดระบบการจัดเก็บขยะที่มีประสิทธิภาพ การส่งเสริมวินัยการคัดแยกขยะตั้งแต่ครัวเรือน รวมถึงสนับสนุนองค์ความรู้ เทคโนโลยีการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตร
ต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ งาน ESG Symposium 2022 ยังให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยส่งเสริมบทบาทของผู้หญิงและกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแก้ไขวิกฤตต่างๆ ร่วมกัน เนื่องจากผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการดูแล จุนเจือครอบครัว รวมถึงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของชุมชน และประเทศชาติ โดยจัดให้มีการแลกเปลี่ยนมุมมอง สร้างแรงบันดาลใจ ให้ผู้หญิงทุกคนมองเห็นศักยภาพในตนเอง  พร้อมพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถในการก้าวผ่านความยากลำบากต่างๆ ในชีวิต มีรายได้ มีอาชีพมั่นคง พึ่งพาตนเองได้ สอดคล้องกับการส่งเสริมบทบาทสตรี ตามวัตถุประสงค์ของการจัดประชุม APEC 2022 Thailand

เสวนา โลกป่วยขั้นวิกฤต จะกู้โลกได้อย่างไร…New Gen 30% ตอนนี้ แต่เราคือ 100% ในอนาคต…เลิกตั้งคำถามโดยไม่หาคำตอบ ลงมือทำช่วยหาคำตอบ…นวัตกรรมวันนี้ใหม่ พรุ่งนี้ใหม่ นวัตกรรมใหม่เสมอ…เริ่มต้นที่ตัวเรา แยกขยะที่ต้นทาง ไม่ต้องคิดว่าคนเก็บก็รวมขึ้นรถ เพราะคนเก็บเขาก็แยก

พร้อมชวนสังคมให้เชื่อมั่นในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวคิด มีความสามารถที่แตกต่างหลากหลาย เป็นพลังช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางทั่วอาเซียน เช่น ตัวแทนเยาวชนจากอินโดนีเซีย ที่พัฒนานวัตกรรมม้วนฟิล์มพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับคนมีรายได้น้อย หรือตัวแทนเยาวชนไทยที่พัฒนาโปรแกรมแปลภาษามือ เพื่อช่วยให้คนพิการใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น

“การแก้วิกฤตโลกถือเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกคน ทุกหน่วยงาน ต้องเริ่มลงมือแก้ไขด้วยตนเอง รวมทั้งผนึกกำลังความร่วมมือให้เกิดผลจริง เชื่อมั่นว่าข้อสรุปความร่วมมือจากเวที ESG Symposium 2022 จะได้นำไปปฏิบัติ
ให้เกิดผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมและขยายผลในวงกว้างตามแผนงานต่อไป โดยเอสซีจี ยินดีเป็นตัวกลางประสานกับทุกๆ ฝ่าย ไปพร้อมกับเร่งติดตามความคืบหน้า เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนคือความร่วมมือต่างๆ มีความก้าวหน้า และทุกคนในห่วงโซ่คุณค่าได้รับประโยชน์ และส่งต่อโลกที่ยั่งยืนให้กับลูกหลานต่อไป” รุ่งโรจน์ กล่าวสรุป

 

You Might Also Like