CSR

“สิงห์อาสา”สู้ไฟป่า เฝ้าระวังพื้นที่&ได้จ้างงานชุมชนที่มีผลกระทบจาก #COVID19

7 พฤษภาคม 2563…“บุญรอด” เริ่มแล้ว โครงการแรกตามนโยบายเร่งด่วน ในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เป็นนโยบายช่วยเหลือทั้งในเรื่องปากท้องและการสร้างอาชีพเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ผ่าน 10 โครงการสิงห์อาสาทั่วประเทศ โดยโครงการที่จัดทำขึ้นช่วยเหลือประชาชนครั้งนี้มีทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเพื่อความยั่งยืน กำหนดดีเดย์ในต้นเดือนพฤษภาคม โดยเริ่มด้วยโครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” ที่จังหวัดเชียงราย เป็นที่แรก

โครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” เป็นการอบรมให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องไฟป่า การป้องกันไฟป่า การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ในการดับไฟป่า แก่ชาวบ้านจาก 5 หมู่บ้านของ ตำบลแม่กรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า คือ หมู่บ้านปางกอก หมู่บ้านปางริมกรณ์ หมู่บ้านปางป่าอ้อ หมู่บ้านหนองเขียว หมู่บ้านปางกลาง ส่วนในช่วงบ่ายเป็นการฝึกปฏิบัติการดับไฟป่า เพื่อให้ชาวบ้านในชุมชน เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการจัดการปัญหาไฟป่า ทำให้สามารถที่จะดูแลพื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชน ของตนเองได้หากเกิดไฟป่าขึ้นและสามารถทำแนวป้องกันไฟป่าได้อย่างถูกวิธี

นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างรายได้ให้ผู้เข้าร่วมอบรม ผู้ที่เข้ารับการอบรมในโครงการสิงห์อาสาสู้ไฟป่า ของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ครั้งนี้เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในแต่ละปี อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยผู้เข้ารับการอบรมทุกคนจะได้รับเบี้ยเลี้ยงคนละ 200 บาทต่อวัน พร้อมได้รับอาหารแห้งและข้าวตราพันดี เป็นการช่วยบรรเทาปัญหาปากท้องเบื้องต้น

ที่สถานีควบคุมไฟป่าลำน้ำกก ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้มีพิธีเปิดโครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” รุ่นที่ 1 มี ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ปรีชา ทองคำเอี่ยม ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า กมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เพลินพิศ หาญเจริญวนะภูษิต ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สิงห์ปาร์คเชียงราย จำกัด ร่วม เปิดโครงการ

ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ โรจนโสทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงพื้นที่เชียงรายเกิดไฟป่าลดลงเหลือ 7,000 กว่า จุด ซึ่งถือว่าลดลงได้เกินร้อยละ60 แต่อย่างไรก็ตามพบว่า ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน 72 ซึ่งถือว่าเกิดจากสภาพอากาศทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และเกิดหมอกควันข้ามแดนเข้ามาปกคลุมในจังหวัดเชียงราย แต่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนเรื่องโควิด-19 จังหวัดมีผู้ป่วยเพียง 9 ราย ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด และขณะนี้เรารักษาหายทั้งหมดแล้ว

“โครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่สอดคล้องกัน ตั้งแต่หมอกควันจนถึงโควิด เพราะก่อให้เกิดรายได้ของชาวบ้านขึ้นมา ที่ได้ความรู้เรื่องของการดับไฟป่า อุปกรณ์ดับไฟป่า และมีรายในช่วงวิกฤตโควิด และโครงการฯ ยังทำที่หลากหลาย เพราะสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่แท้จริง”

ผู้เข้าร่วมโครงการกล่าวว่า โครงการในวันนี้มีประโยชน์กับพวกเราเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านการให้ความรู้การดับไฟป่า ที่สำคัญชาวบ้านได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดทำให้ไม่มีงาน ไม่มีรายได้

“โครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” ทำให้พวกเรามีงานและรายได้ที่เพิ่มขึ้นและเป็นรายได้เสริม รวมทั้งผู้พิการก็ยังมีรายได้อีกด้วย เพราะโครงการนี้ไม่จำกัดเฉพาะบุคคลทั่วไป ทั้งนี้ การอบรมครั้งนี้ยังสามารถไปถ่ายทอดต่อคนในหมู่บ้านได้ เป็นประโยชน์ในระยะยาวให้พวกเราได้ดูแลท้องถิ่นของตนเองต่อไป”

การอบรม โครงการ “สิงห์อาสาสู้ไฟป่า” ของ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด มีการจัดอบรมต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าในหลายจังหวัด ทั้งทางภาคเหนือ และภาคตะวันออก โดยผู้เข้ารับการอบรมได้รับประกาศนียบัตรรับรองการผ่านการอบรม

 

 

You Might Also Like