31 ตุลาคม 2567…ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนอาจก้าวหน้าและทรงพลังมากกว่าที่เคย แต่ก็ยังเจอปัญหาเดียวกันกับที่รุ่นแรกๆเคยประสบเมื่อกว่าสองทศวรรษก่อน หน้าจอแตก พอร์ตชาร์จสึกหรอ และแบตเตอรี่หมด อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างจากโทรศัพท์มือถือในอดีต คือ การออกแบบที่ซับซ้อนของสมาร์ทโฟนสมัยใหม่ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่บวมหรือกำลังจะหมดได้
แน่นอนว่า นั่นเป็นเพราะบริษัทต่างๆ ต้องการปกป้องแบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญาของพวกเขา ตอนนี้ โชคดีที่พวกเขาคิดใหม่ ทำใหม่ โดย Apple เพิ่งทำสิ่งที่อาจเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นอกเหนือจากการปล่อยให้เจ้าของถอดฝาหลัง iPhone 16 ถอดแบตเตอรี่เก่าออกและใส่อันใหม่เข้าไป
“ฟีเจอร์” ใหม่ที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันในอินเทอร์เน็ตนั้นเกี่ยวข้องกับการถอด “แถบดึง” ที่เทอะทะออกไป ซึ่งเพิ่มงานเป็นสองเท่า เนื่องจากคุณมักจะยังต้องใช้แอลกอฮอล์ไอโซโพรพิลในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการ แทนที่จะเป็นเช่นนั้น กาวใหม่ของ Apple สามารถละลายได้ภายใต้กระแสไฟฟ้าต่ำ
หมายความว่าคุณสามารถเชื่อมต่อด้านหลังของ iPhone 16 หรือ 16 Plus ที่สัมผัสกับแบตเตอรี่ 9V ทั่วไป และกาวนั้นก็จะหลุดออกภายในเวลาหนึ่งนาทีครึ่ง แรงดันไฟจะกำหนดระยะเวลาในการรอ และการทดสอบของ iFixit แสดงให้เห็นว่าการชาร์จไฟที่ 20V จะทำให้แบตเตอรี่พร้อมถอดออกในเวลาเพียง 20 วินาที
ทำให้การเปลี่ยนแบตเตอรี่ง่ายขึ้นมาก และโอกาสเกิดข้อผิดพลาดน้อยลง แม้ว่าคุณจะยังต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์เพื่อขจัดคราบกาวออกให้หมดก่อนติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่ก็ตาม เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นสิ่งแรกๆ ในสมาร์ทโฟนที่จะเสื่อมสภาพจากการสึกหรอตามธรรมชาติ แบตเตอรี่จึงเป็นชิ้นส่วนที่จำเป็นต้องได้รับการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนบ่อยที่สุด การปรับปรุงที่สำคัญในด้านความสามารถในการซ่อมแซมนี้ยังช่วยปรับปรุงความยั่งยืนโดยรวมของ iPhone 16 เนื่องจากช่วยลดการปล่อย Co2 ระยะยาว
สิ่งสำคัญคือกาวล้ำสมัยนี้มีเฉพาะใน iPhone 16 และ iPhone 16 Plus เท่านั้น รุ่น Pro ที่ล้ำหน้ากว่านั้นยังคงใช้ระบบดึงแถบ แต่ Apple ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อลดความกังวลลง เปลือกของแบตเตอรี่เหล่านี้ทำจากเหล็กแข็งแทนที่จะเป็นถุงนิ่ม ดังนั้น โอกาสที่จะเจาะแบตเตอรี่ที่บอบบางเหล่านี้โดยไม่ได้ตั้งใจจึงลดลง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากคุณยังต้องงัดออกโดยไม่ต้องใช้กาววิเศษนี้
การแกะส่วนที่เหลือของ iPhone 16 ก็ไม่มีอะไรมากนัก ซึ่งหมายความว่า Apple ยังคงรักษาประสบการณ์การซ่อมด้วยตัวเองที่มีการพัฒนาในปีนี้เอาไว้ได้ ซึ่งช่วยให้ iPhone 16 ได้รับคะแนน 7 จาก 10 คะแนน นั่นคือคะแนนความง่ายในการซ่อมแซมของ iFixit ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับสมาร์ทโฟน “ทั่วไป” ที่การซ่อมแซมไม่ง่าย และไม่มีความยั่งยืนแบบเดียวกับ Fairphone ซึ่งหวังว่า ปีหน้า วัสดุใหม่จะนำมาใช้กับ iPhone Pro ในที่สุด และจะกลายเป็นคุณสมบัติความยั่งยืนที่สำคัญของ iPhone ทุกเครื่องในอนาคต
ที่มา
