ACTIVITIES

กทม. x GC เปลี่ยนกองขยะอ่อนนุช 55 ไร่ ให้เป็นป่า ฟอกปอดให้คนกรุง

1 พฤศจิกายน 2565…ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการเปิดโครงการ “ยิ่งปลูก ยิ่งดี” ให้ผู้เชี่ยวชาญจากคณะวนศาสตร์ มก.ร่วมฟื้นฟูพื้นที่บ่อขยะเดิมให้เป็นพื้นที่สีเขียว ในรูปแบบป่านิเวศ เป็นการศึกษาและพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบในการปลูกป่าเพื่อคาร์บอนเครดิต

ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ร่วมเปิดโครงการ “ยิ่งปลูก ยิ่งดี” ปลูกป่าสร้างพื้นที่ สีเขียวในรูปแบบป่านิเวศบนพื้นที่ 55 ไร่ ณ พื้นที่บ่อขยะ บริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยอ่อนนุช แขวงประเวศ กรุงเทพฯ

“การปลูกต้นไม้ของ GC ครั้งนี้แตกต่างจากที่อื่น ๆ เพราะปลูกในที่ยาก เช่นที่นี่เดิมเป็นชานเมืองและเราเรียกว่าหัวกอง เป็นที่เอาขยะมาเทกองเป็นภูเขา และมีพี่น้องเราเลือกเอาขยะไปขายต่อ ซึ่งการทำงาน GC ตรงนี้เป็นการพัฒนาพื้นที่ที่เคยเป็นมลพิษให้กลับมาเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแล วางแผนในพื้นที่ที่ตอนนี้ไม่ใช่ชานเมือง มีที่อยู่อาศัยจำนวนมากอยู่รอบ และในอนาคตพื้นที่แห่งนี้ก็จะมีความเกี่ยวเนื่องกับคาร์บอนเครดิตที่จะสร้างรายได้ต่อไปเช่นเดียวกับการปลูกต้นไม้ล้านต้นที่จะเป็นทรัพย์สินของกทม.” ชัชชาติกล่าว

การที่ GC ได้เข้ามาพัฒนาพื้นที่บริเวณศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เพื่อนำพื้นที่หลุมฝังกลบขยะที่ปิดการใช้งาน 12 ปี มาดำเนินการปลูกป่า 55 ไร่ และเป็นการศึกษา พร้อมทั้งพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบในการปลูกป่าเพื่อคาร์บอนเครดิต นับว่าเป็นการสนองตอบนโยบายของกรุงเทพมหานครในการปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียว และกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง ที่สร้างสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ ให้กับชาวกรุงเทพมหานครได้ดียิ่งขึ้น

“โครงการ “ยิ่งปลูก ยิ่งดี” เพื่อช่วยกันปลูกต้นไม้ มีวัตถุประสงค์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทยปี 2065 และยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของกรุงเทพมหานครในการปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ GC ที่บูรณาการความยั่งยืน ภายใต้ความสมดุล ทั้ง 3 มิติ คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ โดย GC ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ หรือเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050”ดร.คงกระพันกล่าว

ภายใต้โครงการ “ยิ่งปลูก ยิ่งดี” 3 ปี GC จะฟื้นฟูพื้นที่ฝังกลบขยะมาเป็นเวลานาน มีสภาพพื้นที่และสภาพดินที่มีความเสื่อมโทรมให้กลับฟื้นเป็นพื้นที่ป่าสีเขียว สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์แบบธรรมชาติ ตามหลักวิชาการ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง GC, กทม. และผู้เชี่ยวชาญจากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

การปลูกป่าครั้งนี้ สามารถช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ยปีละ 165 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และจะปลดปล่อยออกซิเจนให้กับบรรยากาศได้โดยเฉลี่ยปีละ 120 ตัน ออกซิเจน

 

You Might Also Like