ภาคตลาดทุนหนุน บจ. ไทย เติบโต ยั่งยืน เพิ่มความเชื่อมั่น

ยกระดับ เสริมแกร่ง ผ่าน 2 โครงการ Corporate Value Up โดย ก.ล.ต.และ JUMP+จากตลท.

มิถุนายน 27, 2025… “Corporate Value Up” ผลักดัน บจ. เพิ่มมูลค่าระยะยาว ด้วยธรรมาภิบาล แผนชัดเจน และการสื่อสารผู้ลงทุน หนุนด้วยกองทุน Thai ESG / ESGX “JUMP+” พัฒนา บจ. ต่อเนื่อง 3 ปี โปร่งใส ติดตามได้จริง เสริมภาพลักษณ์องค์กร ตั้งเป้า 100 บริษัท ปีนี้

พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า

“ตลาดทุนในเอเชียกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านผลตอบแทนและความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุน หลายประเทศจึงเริ่มขับเคลื่อนนโยบายการสร้างมูลค่าของกิจการในระยะยาว หรือ “Value Up” เพื่อยกระดับธรรมาภิบาลสร้างคุณค่าในระยะยาวแก่
ผู้ถือหุ้น ขณะที่ประเทศไทยกำลังยืนอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ หากเราต้องการให้บริษัทจดทะเบียนเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านสู่แนวทาง Value Up คือโอกาสสำคัญ ก.ล.ต. จึงผลักดันโครงการ “Corporate Value Up” ให้เป็นกลไกหลักในการยกระดับธรรมาภิบาลของภาคธุรกิจไทยทำหน้าที่เป็น ‘กรอบกลยุทธ์’ และ ‘กลไกส่งสัญญาณตลาด’ โดยเชื่อมโยงกับการออกแบบแรงจูงใจเชิงนโยบายผ่านกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) และโครงการ JUMP+ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านเชิงระบบอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การสร้างตลาดทุนไทยที่แข็งแกร่ง น่าเชื่อถือ และยั่งยืนในระดับสากล”

สำหรับโครงการ “Corporate Value Up” ภายใต้กรอบแนวคิดหลักที่ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่

(1)ธรรมาภิบาลระดับดีเลิศ
(2) แผน Value Up ที่ชัดเจนทั้งด้านแผนกลยุทธ์มุ่งเน้นเพิ่มมูลค่ากิจการและแผนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ระยะเวลาภายใน 2 ปี
(3) การสื่อสารกับนักลงทุนอย่างโปร่งใส

หากบริษัทจดทะเบียนมีองค์ประกอบครบถ้วนจะมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์เป็นหลักทรัพย์ที่ Thai ESG หรือ Thai ESGX สามารถลงทุนได้ ซึ่งปัจจุบันมี 2 บริษัทที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติดังกล่าวแล้ว”

อัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า

“ตลาดหลักทรัพย์ฯ ริเริ่มโครงการ “JUMP+” สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนพัฒนาการดำเนินงานและการขับเคลื่อนความยั่งยืน เพื่อประโยชน์แก่บริษัทจดทะเบียน ผู้ถือหุ้น และตลาดทุนโดยรวม ซึ่งบริษัทต้องทำแผน JUMP+ ประกอบด้วยแผนด้านธุรกิจ แผนด้านธรรมาภิบาล และแผนจัดการก๊าซเรือนกระจก โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตรสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนของ บจ. ที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ ค่าใช้จ่ายสำหรับการว่าจ้างที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) การขยาย visibility ทั้งในและต่างประเทศผ่านกิจกรรม roadshow กิจกรรม Opportunity Day การจัดทำบทวิเคราะห์ และโปรโมทผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ และพันธมิตร การที่บริษัทจดทะเบียนดำเนินการตามแผนดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่ง กระตุ้นการเติบโต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ขณะเดียวกัน ยังเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดทุนไทยด้วย เชื่อว่าในปีแรกจะมีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 100 บริษัท ทั้งนี้ บริษัทที่ร่วม JUMP+ จะได้เข้าสู่โครงการ “Corporate Value Up” หากมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ของ สำนักงาน ก.ล.ต.”

โครงการ “JUMP+” เป็นโครงการระยะยาว โดยบริษัทที่ร่วมโครงการจะมีการจัดทำแผนการเติบโต 3 ปี (2569-2571) เปิดเผยเป้าหมายและแผนงานให้ไปสู่เป้า เปิดเผยความคืบหน้า และสื่อสารกับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการ ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มเห็นแผนงาน Jump+ ของบริษัทจดทะเบียน ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2568 เป็นต้นไป และจะสามารถติดตามการดำเนินงานตามแผนงานของบริษัท ได้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2569

การดำเนินทั้ง 2 โครงการคือ “Corporate Value Up” และ “JUMP+” อย่างควบคู่ต่อเนื่องกัน สะท้อนถึงการที่หน่วยงานภาคตลาดทุนคือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. มีความมุ่งหมายที่ตรงกัน ในการพัฒนาคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งนอกจากจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของตลาดทุนแล้ว การที่บริษัทจดทะเบียนแข็งแกร่ง ยังส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศด้วย

สำหรับบริษัทจดทะเบียนและผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดทั้งสองโครงการ ได้ที่
Corporate Value Up https://www.set.or.th/th/market/information/securities-list/thaiesg
JUMP+ https://www.set.or.th/th/market/information/jump-plus/overview