ธันวาคม 3,2025…วิกฤติอุทกภัยในภาคใต้เป็นสถานการณ์เร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันเข้าไปช่วยเหลือ เอสซีจีและมูลนิธิเอสซีจีได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรสาธารณกุศล สื่อมวลชน จิตอาสา และพนักงาน เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
เอสซีจีร่วมกับสำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้ง “ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยบรรเทาภาระภาครัฐ” ณ สำนักงานเอสซีจี ภาคใต้ (หาดใหญ่) พร้อมเปิดสายด่วน 092-932-0070 เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างทันท่วงที
มูลนิธิเอสซีจีได้สนับสนุนอุปกรณ์จำเป็น ทั้งถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค เตียงสนามกระดาษ สุขากระดาษ ผ้าห่ม และชุดเครื่องนอนสำหรับศูนย์อพยพ พร้อมจัดตั้งโรงครัว 5 จุด และมอบเงินช่วยเหลือนักเรียนทุน ขณะเดียวกัน SCGC ยังสนับสนุน “ทุ่นลอยน้ำคุณภาพสูง” ให้กองทัพเรือใช้เป็น “แพกู้ภัย” ในภารกิจช่วยผู้ประสบภัยในจังหวัดต่าง ๆ
หลังน้ำลดในหลายพื้นที่ ปริมาณขยะตกค้างจำนวนมากเป็นภารกิจเร่งด่วนที่เอสซีจีทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อรวบรวม แยก และจัดการอย่างเป็นระบบ โดยใช้ถุง Big Bag ในการเคลื่อนย้ายและเตรียมนำขยะส่วนหนึ่งไปแปรรูปเป็นพลังงานเชื้อเพลิง ลดภาระการฝังกลบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร
ในด้านการฟื้นฟูบ้านเรือนและชุมชน เอสซีจีสนับสนุน Fix It Center จำนวน 46 จุด ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์จำเป็นมาซ่อมแซมได้ฟรี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการสร้างขยะใหม่ และเป็นโอกาสในการเสริมทักษะ Re-skill ให้ช่างท้องถิ่นและเยาวชนอาชีวะ ขณะเดียวกัน “คิวช่าง” ลงพื้นที่สำรวจบ้านฟรีจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม และเผยแพร่คู่มือ “หลังน้ำลด” เพื่อให้ประชาชนสามารถดูแลบ้านได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ทั้งหมดนี้คือการ Up-skill แรงงานรุ่นใหม่ผ่านงานซ่อมแซมจริงในสถานการณ์วิกฤติ
เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน เอสซีจีมอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 80% สำหรับสินค้าวัสดุก่อสร้างกว่า 20–50 รายการ ณ SCG Home และร้านผู้แทนจำหน่ายตลอดเดือนธันวาคม พร้อมส่วนลดท้ายบิลผ่าน SCG Family ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคมเป็นต้นไป ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัสดุซ่อมบ้านที่จำเป็นได้อย่างเท่าเทียมในช่วงฟื้นตัวหลังภัยพิบัติ
เอสซีจีและมูลนิธิเอสซีจียังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานเครือข่ายทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับมาดำเนินชีวิตได้โดยเร็วที่สุด โดยคงหลักการช่วยเหลือที่บูรณาการ ESG ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการพัฒนาทักษะแรงงานเข้าสู่การฟื้นฟูหลังอุทกภัยอย่างเป็นรูปธรรม






