ตุลาคม 4,2025… “ความยั่งยืน” คือสิ่งชี้วัดการอยู่รอดและขีดความสามารถในการแข่งขัน องค์กรที่ยังไม่เข้าใจผลกระทบหรือไม่วางแผนเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาจต้องตามหลังคู่แข่งที่ปรับตัวได้เร็วกว่า
ในงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) หนึ่งในเวิร์กชอปที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ “How to Start Calculating Your Organization’s Carbon Footprint by KCLIMATE 1.5” โดยผกามาศ รัศมีจันทร์ รองกรรมการผู้จัดการ KCLIMATE 1.5 ธนาคารกสิกรไทย ซึ่ง KCLIMATE 1.5 ออกแบบมาเพื่อให้ทุกองค์กร ตั้งแต่รายใหญ่จนถึง SMEs ได้เข้าใจ “กระดุมเม็ดแรก” ของการเดินหน้าสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
ทำไมต้องเริ่มจากคาร์บอนฟุตพริ้นท์?
“คาร์บอนฟุตพริ้นท์” หมายถึง ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กร ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยวัดรวมเป็นหน่วยเดียวกันคือ ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO₂e)
ก๊าซเรือนกระจกมีหลายชนิด เช่น
คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂)
มีเทน (CH₄)
ไนตรัสออกไซด์ (N₂O)
แต่ละชนิดมีศักยภาพในการทำให้โลกร้อน (Global Warming Potential: GWP) ไม่เท่ากัน ระบบการคำนวณจึงใช้ค่ามาตรฐานสากล GWP ในการแปลงปริมาณก๊าซทั้งหมดให้อยู่ในรูปแบบเดียวกัน ทำให้เรามองเห็น “ภาพรวม” ที่ชัดเจนและเปรียบเทียบได้
3 Scopes กรอบสำคัญในการคำนวณ
การวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint of Organization: CFO) ต้องครอบคลุมทั้ง 3 ขอบเขตหลัก (Scopes)
Scope 1 Direct Emissions
การปล่อยตรงจากกิจกรรมขององค์กร เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงในเครื่องจักร การใช้ยานพาหนะขององค์กร การรั่วซึมจากกระบวนการผลิต
Scope 2 Energy Indirect Emissions
การปล่อยทางอ้อมจากการซื้อพลังงาน เช่น ไฟฟ้า ไอน้ำ หรือความร้อนที่องค์กรใช้
Scope 3 Other Indirect Emissions
การปล่อยทางอ้อมอื่น ๆ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เช่น การเดินทางของพนักงาน การขนส่งสินค้า การใช้วัตถุดิบและบริการจากซัพพลายเออร์
คำตอบที่ง่ายกว่า “แค่เริ่มต้น”
“หลายองค์กรอยากลดคาร์บอน แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์จึงเป็นจุดตั้งต้นที่สำคัญ”
เวิร์กชอปนี้ทำให้เห็นว่า การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน เพราะมีเครื่องมือจาก KCLIMATE 1.5 ที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สอดคล้องกับมาตรฐานขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และ GHG Protocol เหมาะสำหรับทุกองค์กร ไม่ว่าจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมหรือไม่ก็ตาม
CFO ไม่ใช่ภาระ แต่คือ “แต้มต่อ”
องค์กรที่เริ่มคำนวณแล้วพบว่าข้อมูลช่วย “เปลี่ยนวิธีคิด” ของทั้งผู้บริหารและพนักงาน เช่น การหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน ลดการเดินทาง หรือทำงานกับซัพพลายเออร์เพื่อปรับห่วงโซ่อุปทาน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ต้นทุนที่สูญเปล่า แต่คือโอกาสสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้า นักลงทุน และพันธมิตร
เพราะในโลกที่เปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว Carbon Footprint Organization (CFO) ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนจริง