กันยายน 14,2025…COP30 ที่มีบราซิลเป็นเจ้าภาพได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ สถาบันการเงิน ผู้นำชนเผ่าพื้นเมือง และองค์กรภาคประชาสังคม จัดตั้งกองทุนถาวรเพื่อป่าไม้เขตร้อน-Tropical Forests Forever Fund-TFFF เป็นกลไกเชิงนวัตกรรม ออกแบบให้จ่ายเงินตามผลงานอนุรักษ์ป่าที่ทำได้ดีกว่าในอดีตแก่ประเทศที่มีป่าเขตร้อน
กองทุนถาวรเพื่อป่าไม้เขตร้อน-TFFF เป็นภารกิจสำคัญอันดับต้นๆ ของบราซิลในฐานะประธานการประชุม COP30 ซึ่งเป็นการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติ จะจัดขึ้นที่เมืองเบเลง จังหวัดปารา ในเดือนพฤศจิกายน
รูปแบบการจัดหาเงินทุนของ TFFF ผสานการลงทุนของภาครัฐเข้ากับการระดมทุนในตลาดเอกชน โดยมีเป้าหมายระดมเงินประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพื่อแจกจ่ายให้กับประเทศที่มีป่าเขตร้อน โดยจะได้รับเงินชดเชยตามสัดส่วนของพื้นที่อนุรักษ์ที่เป็นป่าชื้นเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนก็ต่อเมื่อภาพถ่ายดาวเทียมยืนยันว่า ระดับการตัดไม้ทำลายป่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และหักเงินสำหรับทุกเฮกตาร์ที่ป่าถูกทำลายหรือเสื่อมโทรม
จำนวนเงินนี้คิดเป็น 3-4 เท่าของงบประมาณตามดุลยพินิจของกระทรวงสิ่งแวดล้อมในประเทศที่มีป่าไม้ขนาดใหญ่ และมากกว่างบประมาณที่จ่ายผ่านตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจในปัจจุบันหลายสิบหรือหลายร้อยเท่า ดังนั้น TFFF จึงส่งผลกระทบเชิงปฏิรูปต่อนโยบายการอนุรักษ์ป่าไม้แห่งชาติได้
กองทุน TFFF แตกต่างจากการให้ทุนรูปแบบเดิมหลายประการ ประกอบด้วย
1.เป็นกองทุนเพื่อการลงทุนที่สร้างรายได้ ไม่ใช่กลไกการบริจาค กองทุนนี้จ่ายผลตอบแทนตามผลงานมากกว่าการให้ทุนสนับสนุนโครงการ
2.กองทุนให้รางวัลแก่ป่าที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ แทนที่จะชดเชยการตัดไม้ทำลายป่าที่หลีกเลี่ยงได้
3.กองทุนรักษาความสัมพันธ์อันดีกับชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น ซึ่งมีบทบาทโดยตรงในการปกป้องผืนป่า โดยจัดสรรเงินช่วยเหลืออย่างน้อย 20% ของเงินช่วยเหลือระดับชาติให้ชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น
รัฐบาลบราซิลนำเสนอโครงการ TFFF ในงาน COP28 ณ นครดูไบ ในฐานะกลไกนวัตกรรมที่จะช่วยให้ประเทศต่างๆ ที่มีป่าเขตร้อนได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนมาก คาดการณ์ได้ และอิงตามผลงาน เพื่อรักษาและขยายพื้นที่ป่า โดยมอบแรงจูงใจเชิงบวกที่สอดคล้องกับการวางแผนการคลังของประเทศ โครงการมีแผนขับเคลื่อนจริง เริ่มในการประชุม COP30
ต้นเดือนกรกฎาคม ณ กรุงลอนดอน ประเทศต่างๆ ที่อาจเป็นผู้สนับสนุน TFFF เช่น สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงประเทศที่อาศัยอยู่ในเขตป่าเขตร้อนที่อาจมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือสำหรับพื้นที่อนุรักษ์ เช่น โคลอมเบีย เปรู สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก อินโดนีเซีย และกานา แสดงความสนใจและสนับสนุนโครงการริเริ่มนี้ต่อสาธารณะ
นอกจากนี้ TFFF ยังได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากภาคเอกชน เช่น PIMCO หนึ่งในผู้จัดการการลงทุนพันธบัตรรายใหญ่ที่สุดของโลก ธนาคารแห่งอเมริกา และบาร์เคลย์ส ควบคู่ไปกับองค์กรภาคประชาสังคมและสถาบันพหุภาคี เช่น โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ผู้นำชนเผ่าพื้นเมืองยังได้มีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบที่ครอบคลุมของกองทุน
เอ็ด มิลิแบนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า การเกิดขึ้นของกองทุนถาวรเพื่อป่าไม้เขตร้อน-TFFF ของบราซิลเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง เรามองว่านี่เป็นทางออกที่กล้าหาญ สร้างแรงบันดาลใจ และให้ความหวังอย่างยิ่ง เราภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลบราซิล กองทุนนี้เปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ ทั้งเหนือและใต้ได้ร่วมมือกันในฐานะพันธมิตรของผู้มีความหวัง และความมุ่งมั่นในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน”
อันเดรียส บีเยลลันด์ เอริกเซน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของนอร์เวย์ กล่าวว่า TFFF มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดหาเงินทุนเพื่อการอนุรักษ์ป่าเขตร้อน การที่จะประสบความสำเร็จได้จำเป็นต้องมีการคุ้มครองด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่แข็งแกร่ง การสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประเทศที่มีป่าเขตร้อนและชนพื้นเมือง เงินทุนที่มุ่งมั่นจากทั้งผู้บริจาคแบบดั้งเดิมและพันธมิตรใหม่ นอร์เวย์กำลังพิจารณาที่จะร่วมสนับสนุน และขอให้ประเทศอื่นๆ ดำเนินการเช่นเดียวกัน”
ศาสตราจารย์โจเซฟ มาลาสซี ที่ปรึกษาด้านสภาพภูมิอากาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก กล่าวว่า ประเทศของเขาสนับสนุนเต็มกำลังต่อความคิดริเริ่มของรัฐบาลบราซิลในการจัดตั้งกองทุน TFFF
“เรามองว่าเป็นการตอบสนองอย่างทันท่วงที และเป็นรูปธรรมต่อช่องว่างที่ประเทศต่างๆ ในลุ่มน้ำคองโกเน้นย้ำในเวทีระหว่างประเทศหลายครั้ง เราขอเรียกร้องให้พันธมิตรทั้งทวิภาคี พหุภาคี และภาคเอกชนร่วมมือ เพื่อให้มั่นใจว่า TFFF จะได้รับเงินทุนอย่างเต็มที่ โปร่งใส เข้าถึงได้ และเป็นธรรม ป่าเขตร้อนรอไม่ได้ อนาคตของป่าของเราต้องได้รับการดูแลด้วยความเร่งด่วน และความสามัคคีที่จำเป็น”
คริสเตียน สแทรค ประธาน PIMCO กล่าวว่า ยินดีต้อนรับกองทุนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ (TFFF) ในฐานะแบบจำลองนวัตกรรมที่มีศักยภาพในการขยายขนาดและพึ่งพาตนเองได้ กลไกที่ครอบคลุมนี้สามารถระดมทุนภาคเอกชนในวงกว้าง ขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและความเสื่อมโทรมของป่า”
มารินา ซิลวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของบราซิล กล่าวว่า TFFF เป็นกลไกที่แข็งแกร่งและสร้างสรรค์สำหรับการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งจัดสรรทรัพยากรตรงให้ผู้อนุรักษ์ป่าไม้ โดยรับประกันอย่างน้อย 20% สำหรับชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น เพราะในอดีต ชนพื้นเมืองได้รับเงินสนับสนุนเพียง 1% เท่านั้น
“กลไกจะระดมเงินทุนขนาดใหญ่ด้วยกระแสเงินทุนไหลเวียนต่อเนื่อง เพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การประชุม COP30 ใกล้เข้ามาแล้ว เราต้องกล้าสร้างข้อตกลงใหม่ สำหรับแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศและป่าไม้ สร้างวัฏจักรความเจริญรุ่งเรืองใหม่ ซึ่งต้องอาศัยความกล้าหาญและความสามารถในการเปลี่ยนแปลงก้าวกระโดด ก่อนที่อาจต้องเปลี่ยนตัวเองแบบมัดมือชกจากภาวะโลกร้อน”
ป่าเขตร้อนควบคุมสภาพภูมิอากาศโลก เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของความหลากหลายทางชีวภาพที่ไม่อาจทดแทนได้ เป็นแหล่งน้ำจืด สนับสนุนการดำรงชีพของผู้คนหลายพันล้านคน ความอยู่รอดของมนุษยชาติขึ้นอยู่กับป่าเขตร้อน TFFF มอบโอกาสขยายการสนับสนุนทางการเงินให้ประเทศที่มีป่าเขตร้อนอย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา COP30