กันยายน 4, 2025…ในยุคที่โลกธุรกิจเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความท้าทายใหม่ ๆ กลุ่มธุรกิจ TCP ยืนหยัดสร้างความแตกต่างด้วยแนวคิด “Sustainable Growth” หรือการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมาย แต่คือ หนทางและรากฐานในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวข้ามวิกฤต พร้อมสร้างคุณค่าในระยะยาว ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ผลิตภัณฑ์ การจัดการทรัพยากร ไปจนถึงการพัฒนาชุมชน
สราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า
“โลกในวันนี้กำลังบอกเราว่า การเติบโตแบบเดิมไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป การเติบโตที่รวดเร็วเพียงตัวเลข หากปราศจากความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาจทิ้งภาระให้คนรุ่นต่อไปต้องแบกรับ นี่คือช่วงเวลาแห่งการปรับสมดุลและสร้างสรรค์สิ่งใหม่”
แนวคิดความยั่งยืนของ กลุ่มธุรกิจ TCP ถูกนำเสนอผ่านเวที TCP Sustainability Forum 2025 ปีที่ 4 ภายใต้หัวข้อ “Sustainable Growth: The Future of Growth” ซึ่งเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคมมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และแนวคิดเชิงลึกในการเติบโตอย่างสมดุล โดยสราวุฒิเน้นย้ำว่า “Sustainable Growth” ไม่ใช่เพียงเป้าหมาย แต่คือรากฐานที่จะพาธุรกิจและสังคมก้าวข้ามวิกฤต และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ถ้ามองภาพรวมเศรษฐกิจโลกและไทย จะเห็นว่ายังคงเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่อง แม้ IMF จะคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ที่ 3% และประเทศไทยที่ 2% แต่ความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น ทั้งจากวิกฤตโลกร้อน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และผลกระทบจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI ซึ่งส่งผลต่อแรงงานทั่วโลก
กลุ่มธุรกิจ TCP เห็นโอกาสในการปรับสมดุล (Rebalancing) เพื่อทบทวนและจัดลำดับความสำคัญใหม่ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Reinvention) ด้วยการเปลี่ยนวิธีการทำงาน วิธีคิด และรูปแบบธุรกิจให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น
“หัวใจของ Sustainable Growth อยู่ที่ Adaptability หรือความสามารถในการปรับตัวขององค์กร ความยั่งยืนที่แท้จริงไม่ใช่การยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิม แต่คือการพร้อมเผชิญและปรับตัวในทุกการเปลี่ยนแปลง” สราวุฒิกล่าว พร้อมเสริมว่า “ในทุกวิกฤตมีโอกาส หากเราใช้ช่องว่างนั้นให้เป็นประโยชน์ จะกลายเป็นข้อได้เปรียบระยะยาวที่ต่อยอดสู่การเติบโตในอนาคต”
กลุ่มธุรกิจ TCP จึงวางกลยุทธ์ Sustainable Growth ผ่าน 3 แกนหลัก ได้แก่
การขยายการเติบโตอย่างหลากหลาย (Growth Diversification)
ศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พร้อมลดการพึ่งพาเครื่องดื่มชูกำลัง และขยายสู่เครื่องดื่มเกลือแร่ สปอร์ตดริงก์ และ Functional Drink
การยกระดับประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน (Operational Efficiency & Competitive Excellence)
ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและ AI ในการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการดำเนินธุรกิจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน พร้อมเสริมศักยภาพบุคลากร

การสร้างรากฐานเพื่ออนาคต (Future-Ready Foundation)
พัฒนาศักยภาพของบุคลากรและฝังแนวคิด ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) เพื่อทำให้ความยั่งยืนเป็นแนวคิดหลักในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และเป็นรากฐานของการเติบโตในระยะยาว
โดยสราวุฒิย้อนให้ฟังถึงโรดแมพด้านความยั่งยืนและความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาว่า โครงการความยั่งยืนของ กลุ่มธุรกิจ TCP ครอบคลุมตั้งแต่ การจัดการผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ 100% การลดการปล่อยคาร์บอนด้วยเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ไปจนถึง โครงการอนุรักษ์ระบบนิเวศควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่เช่น ป่าชายเลนยี่สาร จังหวัดสมุทรสงคราม และโครงการป่าไม้เพื่อคาร์บอนเครดิตที่เวียงแห จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสราวุฒิมองว่า “หากคุณดูแลป่า เราก็จะดูแลคุณ” ซึ่งสะท้อนความเชื่อของ กลุ่มธุรกิจ TCP ว่าความยั่งยืนต้องสร้างคุณค่าให้ทั้งธุรกิจและชุมชนควบคู่กัน
ในมิติเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจ TCP ใช้ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหลายส่วน ตัวอย่างเช่น Smart Manufacturing ที่ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มจาก 88% เป็น 93% พร้อมการฝึกอบรมพนักงานให้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลและการทำงานประจำวัน
“ภายในปี 2030 ผมอยากเห็นการทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี พร้อมด้วย Mindset ที่เปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะนี่คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน”
นอกจากการปรับตัวในองค์กร กลุ่มธุรกิจ TCP ยังให้ความสำคัญกับ การสร้างความเข้มแข็งให้ SME ไทย ผ่านโครงการ Big Brother ที่ช่วยฝึกอบรมด้านการตลาด การเงิน และ HR
“การพัฒนาคนและธุรกิจรากหญ้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเติบโตที่ยั่งยืนต้องเกิดขึ้นในทุกระดับของสังคม ไม่ใช่เพียงแค่ยอดขายของบริษัทใหญ่”
การเติบโตที่ยั่งยืนของ กลุ่มธุรกิจ TCP ในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงการสร้างผลประกอบการ หรือการเพิ่มตัวเลขกำไร แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่เข้มแข็ง เตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และพร้อมรับมือกับความท้าทายระดับโลก ผ่านการปรับตัว เรียนรู้ และทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีรากฐานจากทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยี และความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการปลุกพลังเพื่อก้าวสู่อนาคตที่ดีกว่า ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง






