SCG Decor โรงงานเวียดนาม ขยายฐานผลิต SCG Decor Vietnam production ASEAN growth resilience SCG Decor โรงงานเวียดนาม ขยายฐานผลิต SCG Decor Vietnam production ASEAN growth resilience

SCGD เดินหน้ารุกตลาดส่งออก ใช้เวียดนามเป็นฐานผลิตหลัก ลดเสี่ยงจากภาษีสหรัฐฯ

แม้ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ สูงถึง 36%

กรกฎาคม 8, 2025…บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCG Decor (SCGD) ยืนยันความแข็งแกร่งกลยุทธ์การเติบโตและความยืนหยุ่นของธุรกิจ

สถานการณ์ดังกล่าวฯ ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัท มีรายได้จากการส่งออกสหรัฐฯ น้อยกว่าร้อยละ 1 ของยอดขายทั้งหมด พร้อมเดินหน้ารุกขยายการส่งออกจากเวียดนามโดยใช้เวียดนามเป็นฐานการผลิต ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์รับมือเศรษฐกิจผันผวนพร้อมรับมือสภาวะตลาดที่ผันผวนไม่แน่นอนและท้าทาย

นำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCG Decor (SCGD) กล่าวว่า

“เรามองเห็นศักยภาพการเติบโตและความสามารถการแข่งขันในระยะยาวของเวียดนาม ด้วยเศรษฐกิจเวียดนามที่เติบโตต่อเนื่อง โครงสร้างประชากรในวัยทำงานที่เอื้อต่อการจ้างงาน และต้นทุนการผลิตที่สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก และยังเป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่มีข้อตกลงทางภาษีศุลกากรของสินค้าเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่ระดับ 20%”

scg-decor-asean-vietnam-production
นำผล และการผลิต Glazed porcelain ซึ่งเป็นกระเบื้อง HVA และกระเบื้องขนาดใหญ่

ทั้งนี้ บริษัทมีฐานการผลิตที่สำคัญที่เวียดนาม ในเครือ PRIME GROUP ซึ่งเป็นผู้นำตลาดกระเบื้องอันดับ 1 ของเวียดนาม โดยครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20% และมีแผนขยายสู่ภาคใต้ของประเทศ โดยอาศัยความได้เปรียบจากเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งและแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูง

scg-decor-asean-vietnam-production
การผลิต Glazed porcelain ซึ่งเป็นกระเบื้อง HVA และกระเบื้องขนาดใหญ่

ปัจจุบัน SCGD เดินเครื่องผลิต Glazed porcelain เต็มกำลัง และได้เริ่มขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมที่โรงงาน Pho Yen โดยระยะที่ 1 แล้วเสร็จกว่า 2.5 ล้านตารางเมตร และคาดว่าจะแล้วเสร็จระยะที่ 2 อีก 2.5 ล้านตารางเมตร ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ รวมถึงแผนพัฒนากระเบื้อง HVA และกระเบื้องขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และยุโรป ซึ่งสามารถใช้ความได้เปรียบด้านต้นทุนและภาษีเพื่อขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับซัพพลายเออร์ระดับแนวหน้าเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้ SCGD มีคุณภาพระดับโลก ซึ่งรวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์พรีเมียมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ร่วมมือกับพันธมิตรจากยุโรป เพื่อแข่งขันกับสินค้าจากผู้เล่นระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแสวงหาโอกาสใน Merger and Partnership และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์โดยเฉพาะในเวียดนาม เพื่อขยายธุรกิจเซรามิกและสุขภัณฑ์ให้ครอบคลุมมากขึ้นในอนาคต