สิงหาคม 27,2025…ยกระดับทักษะนักศึกษา ผ่าน Experiential Learning ที่ผสานองค์ความรู้กับโจทย์ธุรกิจจริง เพื่อสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ (Future Workforce) ที่พร้อมเป็นผู้นำในโลกธุรกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า
“เอสซีจี เชื่อว่า ‘คน’ คือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรและประเทศสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน คนรุ่นใหม่มีพลังและมองหาเวทีที่จะปล่อยพลังออกมา ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของเอสซีจี ที่เป็น ‘องค์กรแห่งโอกาส’ เปิดพื้นที่ให้ลองคิด ลองทำ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขับเคลื่อนองค์กรให้ทันโลกที่เปลี่ยนไว”
เขาย้ำว่า โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงเวทีฝึกงาน แต่เป็นการปูทางสู่การสร้าง Future Workforce ที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาไอเดียนวัตกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่สามารถต่อยอดเชิงธุรกิจได้จริง
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือกับเอสซีจีสอดคล้องกับแนวทางของธรรมศาสตร์ที่มุ่งสร้างการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ให้นักศึกษาไม่เพียงมีความรู้ทางวิชาการ แต่ยังมีทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานจริง
“การได้ทำงานกับโจทย์ธุรกิจจริงขององค์กรชั้นนำ เป็นโอกาสล้ำค่าที่จะช่วยให้นักศึกษามีความพร้อมทั้งด้านความคิด การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของบัณฑิตยุคใหม่”
โครงการ Possibilities Space: Shaping Future Workforce เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างเอสซีจี และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่มุ่งสร้าง “สนามแห่งโอกาส” ให้คนรุ่นใหม่ โดยเปิดให้นักศึกษาได้เรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจริง (Experiential Learning) ที่ผสานความรู้เชิงวิชาการกับโจทย์ธุรกิจจริงของ เอสซีจีมีโอกาสได้พัฒนาทักษะ รอบด้าน ทั้งด้าน นวัตกรรม การคิดเชิงธุรกิจ และการทำงานเป็นทีม ข้ามสาขา วิชา เปิดมุมมองที่แตกต่างจากการเรียนในห้องเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมก้าวสู่โลกการทำงานจริง พร้อมเติบโตสู่การเป็น Future Workforce ผู้ขับเคลื่อนอนาคตในโลกธุรกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ในปีแรก นักศึกษาได้มีโอกาสร่วมแก้โจทย์ธุรกิจจริงของเอสซีจีโดยเฉพาะในประเด็นด้าน Smart Living และ ESG (Environment, Social and Governance) ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือทำ (Learning by Doing) ตั้งแต่การวิจัย พัฒนาแนวคิด ออกแบบต้นแบบ ไปจนถึงการนำเสนอผลงานบนเวที Final Pitching ต่อคณะผู้บริหารของเอสซีจีและคณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เป็นกรรมการซึ่งได้พบว่า
- ศักยภาพและความเข้าใจของนักศึกษารุ่นใหม่
- ไอเดียสดใหม่ นักศึกษามีศักยภาพและนำเสนอไอเดียที่ช่วยให้องค์กรฉุกคิดในมุมที่อาจยังไม่ได้พิจารณา เช่น การนำผักตบชวามาผสานกับธุรกิจในเชิง ESG หรือการเสนอผลิตภัณฑ์ราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายองค์กร
- การบูรณาการทักษะ โครงการนี้ช่วยให้นักศึกษาจากต่างคณะได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันและบูรณาการทักษะที่หลากหลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่การเรียนในคณะเดียวอาจไม่ได้รับ
- ความเข้าใจเรื่องแบรนดิ้งและนวัตกรรม นักศึกษาไม่มีข้อจำกัดทางความคิด เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และซึมซับแก่นของนวัตกรรมและแบรนดิ้งโดยไม่รู้ตัว โครงการช่วยจัดระเบียบข้อมูลและแนวคิดของพวกเขาให้ชัดเจนขึ้น
- ความเข้าใจเรื่อง Green Innovation และ ESG นักศึกษารับรู้และสัมผัสได้ถึงความสำคัญของ ESG เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดจากปัญหาในโลกปัจจุบัน (เช่น ฝุ่น อุณหภูมิสูงขึ้น) พวกเขาเห็นว่านี่คือ “ความเสี่ยงและโอกาส” และมักคิดหาทางช่วยเหลือโลกเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
“น้อง ๆ สามารถนำเสนอนวัตกรรมใหม่ได้โดยไม่รู้สึกมีแรงกดดัน เพราะพวกเขาได้เขียนไอเดียขึ้นมาเองและสามารถจัดการให้กลายเป็นนวัตกรรมได้แบบอัตโนมัติ”
- ความท้าทายในการโค้ช
- เชื่อมโยงทฤษฎีกับความจริง การสอนต้องก้าวข้ามการนำเสนอแค่กรณีศึกษาเก่าๆ หรือข้อมูลที่เข้าถึงง่าย (เช่น จาก AI) ไปสู่การประยุกต์ใช้จริงและสร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรม
- ก้าวข้ามแนวคิดในกระดาษสู่โลกจริง นักศึกษาต้องเรียนรู้ว่าการทำธุรกิจจริงมีปัจจัยซับซ้อนกว่าแค่การคำนวณในทฤษฎี
- การรวมกลุ่มต่างคณะ ความหลากหลายทางความคิดและมุมมองของนักศึกษาจากต่างคณะเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสในการเรียนรู้การทำงานร่วมกัน
- การปลูกฝัง ESG อย่างเป็นธรรมชาติ ความท้าทายคือการทำให้นักศึกษาเห็นว่า ESG คือจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหา ไม่ใช่สิ่งที่ต้อง “แปะ” เข้าไปทีหลัง และไม่ใช่วิชา “จิตพิสัย”
“ความท้าทายหลักในการสอนเรื่องดิจิทัลอินโนเวชั่นให้กับน้อง ๆ รุ่นใหม่คือ การเชื่อมโยงแนวคิดและข้อมูลที่ทันสมัยกับการประยุกต์ใช้งานในชีวิตจริง เนื่องจากน้อง ๆ มีการเข้าถึงข้อมูลจำนวนมากแล้ว แต่มีความไม่แน่ใจในวิธีการที่จะนำไปใช้จริง โดยเฉพาะเมื่อเขาอาจจะมองว่า ข้อมูลบางอย่างที่สอนไปนั้น ล้าสมัยแล้ว”
หนึ่งกรรมการกล่าวต่อเนื่อง ถึงความท้าทายที่เกี่ยวกับการทำให้เนื้อหานั้นสำคัญและใกล้ตัวกับน้อง ๆ โดยไม่ให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ต้องถูกบังคับหรือแยกออกจากสิ่งที่เขาสนใจหรือเผชิญอยู่ในสังคม
สุดท้าย การสร้างพื้นที่สำหรับการสอบถามและการแลกเปลี่ยนความคิดที่เปิดกว้างก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปได้ด้วยดี
- สิ่งที่กรรมการได้รับบางมุมจากนักศึกษา
- คิดนอกกรอบ นักศึกษาช่วยเปิดโลกทัศน์ และนำเสนอไอเดียที่ไม่เคยถูกคิดในบริบทขององค์กรมาก่อน (เช่น หมอนข้างระบายอากาศ)
- การสื่อสารและโค้ช เด็กรุ่นใหม่ให้ “ซื้อ” ไอเดียและปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงทางธุรกิจ โดยใช้เหตุผล
- การพัฒนาที่รวดเร็ว เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่รวดเร็วของนักศึกษาภายในระยะเวลาอันสั้น แม้จะมาจากพื้นฐานที่ต่างกัน
นับเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้นักศึกษาได้บูรณาการทักษะจากหลากหลายสาขา เชื่อมโยงทฤษฎีกับประสบการณ์จริงในธุรกิจ และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านการทำงานร่วมกัน ขณะเดียวกันยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาแนวคิดใหม่ที่ตอบโจทย์สังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG) เสริมทักษะการทำงานเป็นทีมข้ามคณะ และสร้างความมั่นใจในศักยภาพของตนเองจากการได้ลงมือทำและเห็นผลงานจริงอย่างเป็นรูปธรรม
โครงการ Possibilities Space: Shaping Future Workforce สะท้อนแนวคิด “องค์กรแห่งโอกาส” ของเอสซีจี ที่ไม่เพียงเปิดเวทีให้นักศึกษาได้เรียนรู้และขยายขีดจำกัดของตนเอง เกิดผลลัพธ์จริง นักศึกษาได้ทักษะและความมั่นใจจากประสบการณ์ทำงาน มหาวิทยาลัยยกระดับหลักสูตรให้สอดรับกับภาคอุตสาหกรรม อนาคตอันใกล้ เอสซีจีจะได้บุคลากรคุณภาพและไอเดียใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ ขณะที่สังคมได้รับโซลูชันและโมเดลธุรกิจที่สร้างความยั่งยืนอย่างแท้จริง