กรกฎาคม 20,2025…การเปลี่ยนผ่านพลังงานของไทยเดินหน้าอีกขั้นสู่เป้าหมาย Net Zero 2608 เมื่อสองบริษัทยักษ์ใหญ่ “ราช กรุ๊ป” (RATCH) และ “สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง (SPI)” ร่วมจัดงานสัมมนาระดับนานาชาติ “Thailand’s SMR Energy Forum – A Global Dialogue on SMR Deployment” วางหมากอนาคตพลังงานไทยผ่านเทคโนโลยี SMR

เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ (Small Modular Reactors: SMRs) เป็นทางเลือกพลังงานยุคใหม่ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนโฉมระบบพลังงานของประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการความมั่นคง ความสะอาด และประสิทธิภาพด้านพลังงาน ท่ามกลางแนวโน้มความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นและแรงกดดันในการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเร่งด่วน SMR จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“เทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ หรือ SMR เป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยเสริมความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าให้สามารถรองรับไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนได้มากขึ้น ลดความเสี่ยงจากไฟตก หรือไฟดับในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงได้เป็นอย่างดี ซึ่งนานาประเทศได้ขานรับกันอย่างกว้างขวางและมีการพัฒนาเทคโนโลยี SMR รุดหน้าเป็นอย่างมาก ขณะที่ประเทศไทยก็มีแผนที่จะนำ SMR เข้ามาใช้ โดยมีการศึกษาและเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ แล้ว บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานสัมมนาครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้เกิดองค์ความรู้ด้าน SMR ในประเทศไทยที่จะปูทางไปยังการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต”
วิชัย กุลสมภพ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI กล่าวว่า ประวัติศาสตร์ของสหพัฒน์คุ้นเคยกับพลังงานจากนิวเคลียร์ เพราะมีพาร์ทเนอร์สำคัญจากประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ของบริษัท แต่ดูจะเป็นเรื่องใหม่ของประทศไทย โดยเฉพาะ SMR
“ในระดับโลกถือเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยคาดหมายว่า SMR จะเป็นส่วนหนึ่งของพลังงานสะอาดที่จะมาแทนที่โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลในอนาคตในประเทศไทย แม้ยังอยู่ในช่วงของการศึกษาและวางแผน ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการในหลายด้าน ทั้งด้านกฎหมาย การกำกับดูแล การคัดเลือกเทคโนโลยี การเลือกพื้นที่ติดตั้ง และการก่อสร้างโรงไฟฟ้า”

SPI ในฐานะภาคเอกชนที่มีบทบาทในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง เล็งเห็นว่า อนาคตของพลังงานไม่ควรพึ่งพาแหล่งพลังงานรูปแบบเดิมเพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป การหาทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยั่งยืนจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นความท้าทายระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Carbon Neutrality และพลังงานสีเขียว การเปิดเวทีระดับนานาชาติในวันนี้ จึงเป็นก้าวแรกของความร่วมมือที่มีศักยภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคตพลังงานของไทย
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวถึงความพร้อมของสำนักงานฯที่จะนำเสนอกฎหมายเรื่องนี้ และมีความหวังว่าภายใน 5 ปีคงจะได้เห็นกฎหมาย SMR ใช้ได้จริง

ภายในงานสัมมนา ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เผยข้อมูลว่า ประเทศไทยยังนำเข้าน้ำมัน 90% นำเข้าก๊าซธรรมชาติ 40% พึ่งพาจากเมียนมา ซึ่งช่วงเวลาที่ประเทศไทยใช้ไฟฟ้ามากที่สุดคือ 4 ทุ่ม เป็นเวลานี้มานานหลายปีแล้ว ไม่ใช่บ่าย 3 โมง ตามที่เคยมีข้อมูล ดังนั้นไฟที่มาจากแผงโซล่าร์ถ้าจะใช้กลางคืนจะต้องมีเครื่องเก็บไฟซึ่งยังมีราคาค่อนสูงอยู่ ต่อเมื่อมาดูตัวเลขการใช้รถ EV100% พบว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีเพียง 1,200 คัน ปัจจุบัน 280,000 คัน เพิ่มขึ้น 100 เท่า แม้ว่าปัจจุบันตลาดรถ EV ไม่ได้โตมากแบบ 3 ปีที่แล้วก็ตาม ทว่าอนาคตคนใช้รถ EV จะเพิ่มขึ้นโดยตลอด สุดท้ายการลงทุนทำ Data Center เป็นการลงทุนสำคัญของประเทศไทยเช่นกัน แต่ผู้ลงทุนมี 1 เงื่อนไขคือ จะลงทุนในประเทศที่ใช้ “พลังงานสะอาด” !
มีนักลงทุนเชื่อว่า “เทคโนโลยี SMR จะเปลี่ยนเกมส์พลังงาน และนักลงทุนก็พร้อมลงทุน”
ปัจจุบัน ใครไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น จีนก็มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเดิมหลายโรง และ SMR ทำหน้าที่ส่งพลังงานสะอาดใช้ในประเทศกันอยู่ โดยเฉพาะเมืองฉินซาน (秦山, Qínshān) มณฑลเจ้อเจียง (浙江省, Zhèjiāng Shěng) อยู่ในเขตการปกครองของเมืองหางโจว (杭州, Hángzhōu) นับเป็น “เมืองนิวเคลียร์แห่งแรกของจีน”
ติดตามตอน 2 จากเวที “Thailand’s SMR Energy Forum – A Global Dialogue on SMR Deployment”