สิงหาคม 13 , 2025…ตอกย้ำบทบาทผู้นำธนาคารไทย พร้อมความร่วมมือระดับภูมิภาคกับ MUFG เพื่ออนาคตเศรษฐกิจสีเขียว
ในโอกาสครบรอบ 80 ปี “กรุงศรี” เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจหลัก (Core Banking) เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล สนับสนุนวัฒนธรรมเชิงนวัตกรรม และบูรณาการความยั่งยืนในทุกมิติ โดยตั้งเป้าหมาย “Net Zero” ภายในปี 2573 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
คาเนทสุกุ มิเกะ ประธานกรรมการ MUFG และเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ร่วมกันกล่าวถึง ก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในโอกาสครบรอบ 80 ปีกรุงศรี ตอกย้ำบทบาทผู้นำธนาคารไทย พร้อมความร่วมมือระดับภูมิภาคกับ MUFG
3 เสาหลักการดำเนินงาน
1.เชื่อมโยงกลยุทธ์และความร่วมมือ – สร้างพันธมิตรโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของไทย พร้อมใช้ประโยชน์จากเครือข่าย MUFG ทั่วโลก พัฒนาโซลูชันทางการเงินและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของลูกค้าทั่วอาเซียน
2.นวัตกรรมดิจิทัล – ลงทุนในโซลูชันดิจิทัลและเทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับบริการเหนือกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบด้าน
3.พันธกิจด้านความยั่งยืน – ตั้งเป้าสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (SSF) รวมกว่า 250,000 ล้านบาทภายในปี 2573 เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวและพัฒนาอย่างยั่งยืน
กลยุทธ์การเติบโตและความท้าทายของประเทศไทย
ประเทศไทยถูกระบุเป็นตลาดสำคัญภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางของ MFG ซึ่งภูมิภาคนี้มีสัดส่วน 6% ของธุรกิจทั่วโลก และ 45% ของธุรกิจในเอเชีย อย่างไรก็ตาม ประเทศยังเผชิญความท้าทายทั้งด้านโครงสร้างเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง และแรงกดดันในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
หลักการ Green Transformation ของ MUFG เน้น
“ไม่ถอนการลงทุน แต่เพิ่มการมีส่วนร่วม” เพื่อช่วยลูกค้าลดการปล่อยคาร์บอน
“เส้นทางที่ต่างสำหรับภูมิภาคที่ต่าง” เพื่อให้เหมาะสมกับความท้าทายเฉพาะพื้นที่
การสนับสนุนภาคการเงินและการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม
ทั้ง กรุงศรี และ MUFG พร้อมให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มที่ยังเข้าไม่ถึงระบบธนาคาร (Unbanked) รวมถึงสนับสนุนการปรับโครงสร้างภาคอุตสาหกรรมไทยให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและเทรนด์โลก โดย MFG พร้อมช่วยเหลือในกระบวนการปฏิรูป ออกแบบใหม่ และปรับโครงสร้างธุรกิจ
ESG และความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อม
ESG เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์องค์กร โดยปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถลดการปล่อย CO₂ ได้เกือบ 10% ผ่านโครงการเช่น การเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศและนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ พร้อมตั้งเป้าสนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนเพิ่มขึ้น 250,000 ล้านบาทภายในปี 2030
โอกาสและปัจจัยดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)
-ความชัดเจนด้านนโยบายอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานแบตเตอรี่
-ข้อตกลงไทย–สหรัฐฯ ในการตั้งเป้าหมายด้านภูมิอากาศ ช่วยสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียม
-ฐานเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งและการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม ช่วยเพิ่มความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
หนี้ครัวเรือนและการเติบโตเศรษฐกิจ
ปัญหาหนี้ครัวเรือนทำให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ รัฐบาลจึงดำเนินมาตรการควบคุมระดับหนี้ ขณะที่แนวทางระยะยาวคือการยกระดับเศรษฐกิจและการเติบโตของ GDP เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
พันธะสัญญาสู่อนาคตของประเทศไทย
Krungsri และ MUFG ยืนยันความมุ่งมั่นสนับสนุนประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เดินหน้าสอดคล้องกับความต้องการของสังคมไทย ลูกค้า และภาคธุรกิจ พร้อมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่อนาคตเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศ