กรกฎาคม 25,2025…นับเป็นเครือข่ายล่าสุด ส่งผลให้มีมากกว่า 2,900 จุดทั่วประเทศ ครอบคลุมห้างฯ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ และชุมชนท้องถิ่นกว่า 245 แห่ง
ประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ AIS ร่วมกันกล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า
ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในภาคการเกษตรที่เปราะบางต่อผลกระทบจากสารพิษในขยะอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แคดเมียม ปรอท และตะกั่ว ซึ่งอาจปนเปื้อนในดิน น้ำ และอากาศ ส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตและสุขภาพในระยะยาว

“โครงการคนไทยไร้ E-Waste จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเข้าใจเรื่องการจัดการขยะอย่างถูกวิธี พร้อมส่งเสริมพฤติกรรมที่ปลอดภัยทั้งในหมู่ประชาชนและเกษตรกร อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบาย Go Green และ BCG Model ของกระทรวงฯ”
AIS ยึดมั่นในบทบาทองค์กรที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดการทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ
“ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา โครงการคนไทยไร้ E-Waste ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยกระดับเป็น ‘AIS HUB of E-Waste’ ศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ เราต้องการเปลี่ยนมุมมองของคนไทยที่มองว่า e-Waste เป็นเรื่องไกลตัว ทั้งที่จริงแล้วมีผลกระทบต่อระบบนิเวศและคุณภาพชีวิตอย่างลึกซึ้ง หากไม่จัดการอย่างถูกวิธี”
ท่ามกลางกระแสดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปริมาณ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ที่สูงถึง 460,000 ตันต่อปี ขณะเดียวกัน กลับมีการจัดการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการเพียง ไม่ถึง 10% นี่คือจุดเริ่มต้นของโครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” จาก AIS ที่พลิกวิกฤติขยะให้กลายเป็นโอกาสในการยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน และสนับสนุนการเข้าถึงดิจิทัลของชุมชนทั่วประเทศ
ทำไม E-Waste จึงกระทบภาคเกษตร เพราะหากขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี โดยนำไปเผาหรือฝังกลบในพื้นที่เปิดโล่ง จะเกิดการปนเปื้อนของโลหะหนักและสารพิษ สู่แหล่งน้ำและหน้าดิน ส่งผลโดยตรงต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินและพืชผลทางการเกษตรระยะยาวในห่วงโซ่อาหาร
ดังนั้น ความร่วมมือ ของทั้ง 2 องค์กรครั้งนี้ ทำให้ “โครงการคนไทยไร้ E-Waste” ลงลึกถึงระดับพื้นที่จริงของภาคเกษตร โดย AIS สนับสนุน อุปกรณ์ โลจิสติกส์ และสื่อสื่อสาร แก่พันธมิตรที่เปิดจุดรับ E-Waste
ทั้งนี้ ขยะทุกชิ้นจากโครงการ จะถูกส่งต่อเข้าสู่กระบวนการจัดการที่ได้มาตรฐานระดับสากล คือโรงงาน WMS และยังจับมือกับบริษัทในเครือ DOWA ประเทศญี่ปุ่น เพื่อจัดการกับแผงวงจร (PCB) อย่างปลอดภัย
พร้อมกันนี้ อีกด้านหนึ่ง โครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” ช่วยเปลี่ยนจาก “ขยะ” สู่ “โอกาสทางดิจิทัล” โดยทุก 1 ชิ้นของ E-Waste ที่ประชาชนร่วมทิ้ง จะเทียบเท่ากับอินเทอร์เน็ต 1 GB ซึ่งจะถูกนำไปมอบให้แก่โรงเรียน โรงพยาบาล และชุมชนที่ขาดแคลน พร้อมอุปกรณ์ IT และหลักสูตรอบรมด้านดิจิทัล เพื่อสร้าง Digital Inclusion อย่างแท้จริง
โครงการ “คนไทยไร้ E-Waste” จึงไม่เพียงเป็นการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่อสร้างสังคมไทยที่มีความรู้ ความเข้าใจ และมีพฤติกรรมการจัดการขยะอย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่การลดคาร์บอนและมลพิษในภาพรวมของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม